ก่อน ปปง.กล่าวโทษคดีฟอกเงินกรุงไทย ขุมธุรกิจพันล.‘พานทองแท้’ ปี’59ฟัน198 ล.ขาดทุนยับ
ก่อนกรณี ปปง. ร้องทุกข์กล่าวโทษ ‘พานทองแท้’ คดีฟอกเงินกรุงไทย เจาะขุมข่ายธุรกิจนั่ง กก. 7 แห่ง ปิดตัวแล้ว 3 แห่ง ‘ฮาวคัม มีเดีย-มาสเตอร์โฟน-นิวโอ๊ค’ เหลือทำธุรกิจอีก 4 ‘ฮาวคัม สตูดิโอ’ ทำโฆษณา ‘วอยซ์ ทีวี’ โทรทัศน์ดิจิตอล ‘โอคานิท’ ธุรกิจกาแฟ ‘เรนด์ เพลินจิต โฮเต็ล’ โรงแรมซื้อต่อจาก ‘เสี่ยตัน-ภาสกรนที’ ปี’59 ฟันรายได้ 198 ล้าน แต่ขาดทุนอ่วม 389 ล้าน
คดีฟอกเงินที่สืบเนื่องจากคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อให้เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต ปัจจุบันกำลังถูกจับตาจากสาธารณชนอย่างมาก
เนื่องจากคดีดังกล่าวถือเป็นคดีใหญ่ หมดอายุความในช่วงปี 2561 และการสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) 2 หน่วยงานหลักเริ่มงวดเข้ามาทุกขณะแล้ว
โดยเฉพาะหนึ่งในตัวละครที่สปอร์ตไลต์ทางการเมืองกำลังฉายอยู่ตอนนี้ บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาว และมากบารมี ‘โอ๊ค’ นายพานทองแท้ ชินวัตร ตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวด้วย
ร่วมกับคนสนิทของสกุล ‘ชินวัตร’ ไม่ว่าจะเป็น นายมานพ ทิวารี (บิดา น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย) นางกาญจนาภา หงษ์เหิน (เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ) นายวันชัย หงษ์เหิน (สามีนางกาญจนาภา) และนางเกศินี จิปิภพ (มารดานางกาญจนา) เป็นต้น
ตามคำพิพากษากลางฉบับเต็มในคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้เครือกฤษดามหานครโดยทุจริต ระบุเหตุผลกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย (ขณะนั้น) ปล่อยสินเชื่อให้เครือกฤษดามหานคร เพื่อผลประโยชน์ต่างตอบแทนหรือไม่ โดยมีการกล่าวอ้างถึง ‘บิ๊กบอส’ หรือ ‘ซุปเปอร์บอส’ เป็นคนสั่ง อย่างไรก็ดีไม่สามารถระบุได้ว่า ‘บอส’ ดังกล่าวเป็นใคร ?
แต่ตามทางไต่สวน พบว่า ข้อเท็จจริงที่ได้จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินนายวิชัย กฤษดาธานนท์ (จำเลยที่ 25) ผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร (ขณะนั้น) มีการโอนเงินให้แก่บุตร และบุคคลใกล้ชิดนายทักษิณ (จำเลยที่ 1) จริง
นายศิริชัย วัฒนโยธิน รองประธานศาลฎีกา (ขณะนั้น ภายหลังขึ้นเป็นประธานศาลอุทธรณ์ ปัจจุบันลาออกแล้ว) ผู้พิพากษาที่รับผิดชอบสำนวน ได้หยิบยกหลักฐานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินคดีดังกล่าว รวมถึงผลการไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และจากปากคำให้การของพยาน ได้แก่ นายวิชัย อินทรมีทรัพย์ และนายอุตตม สาวนายน (ปัจจุบันเป็น รมว.อุตสาหกรรม รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์) ในฐานะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย (ขณะนั้น)
พบข้อเท็จจริงว่า มีเครือเอกชน-นักการเมือง ที่เข้าข่ายรับเช็คจากนายวิชัยอย่างน้อย 4 กรณี โดยมีชื่อของนายพานทองแท้ ชินวัตร นางเกศินี จิปิภพ นายวันชัย หงษ์เหิน นายมานพ ทิวารี บริษัท ฮาวคัม มีเดีย จำกัด และบริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย (อ่านประกอบ : คำวินิจฉัยผู้พิพากษาฯชำแหละเส้นทางเงินคดีกรุงไทยโยง'พานทองแท้-มานพ', เฉลยชื่อผู้รับเช็คจาก'เสี่ยวิชัย’คดีกรุงไทย-‘พานทองแท้-มานพ’อยู่ในข่าย?)
อย่างไรก็ดีนายพานทองแท้ ปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด และเคยชี้แจงกับ คตส. ถึงกรณีดังกล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ยังปูดว่า เส้นทางเงินคดีนี้ยังมีตัวละครอีกหลายตัวที่ได้รับเงินด้วย ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิรัฐบุรุษฯ หรือนายพลเรือชื่อดัง เป็นต้น (อ่านประกอบ : ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินกรุงไทย!ชื่อ‘พานทองแท้-พวก’โผล่รับเช็ค-ไม่เอ่ยถึงมูลนิธิรัฐบุรุษฯ)
ปัจจุบันคดีฟอกเงินที่สืบเนื่องจากคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อเครือกฤษดามหานครโดยทุจริต คืบหน้าเข้ามาทุกขณะแล้ว เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอัมพันธุ์กุล เลขาธิการ ปปง. ให้สัมภาษณ์ยืนยันต่อสื่อว่า มอบหมายเจ้าหน้าที่ร้องทุกข์กล่าวโทษนายพานทองแท้ กับพวก คดีฟอกเงินดังกล่าวแล้ว พร้อมส่งข้อมูลหลักฐานให้กับดีเอสไอเรียบร้อย (อ้างอิงจาก ไทยรัฐออนไลน์)
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย ควบคู่กับการดำเนินงานในส่วนของ ปปง. และหน่วยงานทีเกี่ยวข้องอื่น ๆ โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 อัยการผู้ร่วมสอบสวนกับดีเอสไอ เตรียมเรียกเจ้าหน้าที่ ปปง. มาสอบเพิ่มเติมในบางประเด็นที่อาจไม่สมบูรณ์ในวันที่ 18 ก.ย. 2560 หลังจากนั้นจะเรียกนายพานทองแท้ กับพวกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป โดยคดีจะขาดอายุความในเดือน มิ.ย. 2561 (อ้างอิงจาก แนวหน้าออนไลน์)
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเรื่อนี้จะมีบทสรุปอย่างไร ?
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายพานทองแท้ คือหนึ่งในตัวละครสำคัญ และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมีบทบาทเกี่ยวกับคดีนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะข้อกล่าวหาได้รับเงินจากนายวิชัย การร่วมลงทุนกับนายรัชฎา รวมถึงการซื้อหุ้นจองท่าอากาศยานไทยฯของพนักงานบริษัท ฮาวคัม มีเดีย จำกัด และบริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด
ปัจจุบันบริษัท ฮาวคัม มีเดีย จำกัด และบริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ได้ปิดตัวลงและเสร็จการชำระบัญชีไปแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2553-2554
บริษัท ฮาวคัม มีเดีย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2547 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 414 ถ.พหลโยธิน แขงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. แจ้งประกอบธุรกิจด้านโฆษณา มีนายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร (ขณะนั้น) และนายเฉลิม แผลงศร เป็นกรรมการ
บริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2546 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท ฮาวคัม มีเดีย จำกัด แจ้งประกอบธุรกิจขายปลีกนาฬิกา แว่นตา อุปกรณ์ถ่ายรูป และอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคม มีนายพานทองแท้ นายศิธา ทิวารี และนายเฉลิม แผลงศร เป็นกรรมการ
ขุมข่ายธุรกิจของ นายพานทองแท้ ที่หันมาจับธุรกิจทางด้านสื่อ และการผลิตโฆษณา รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พบว่าเป็นกรรมการบริษัททั้งสิ้น 5 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ)
@ธุรกิจด้านสื่อ-การโฆษณา 2 แห่ง
หนึ่ง บริษัท ฮาวคัม สตูดิโอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2547 ทุนปัจจุบัน 30 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท ฮาวคัม มีเดีย จำกัด และบริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด แจ้งประกอบธุรกิจผลิตและรับจ้างผลิตป้ายโฆษณา มีนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร และนายเฉลิม แผลงศร เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 18,565,219 บาท รายจ่ายรวม 26,124,711 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,931,250 บาท ปี 2558 ขาดทุนสุทธิ 6,905,178 บาท ปี 2557 ขาดทุนสุทธิ 3,816,626 บาท
มีกำไรล่าสุดต้องย้อนกลับไปปี 2556 (ช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี) มีกำไรสุทธิ 4,659,262 บาท ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 5,300,401 บาท
สอง บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2546 ทุนปัจจุบัน 2,310 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท ฮาวคัม สตูดิโอ จำกัด แจ้งประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ (สถานีโทรทัศน์ดิจิตอลช่องวอยซ์ ทีวี) มีนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นายเฉลิม แผลงศร นายทรงศักดิ์ เปรมสุข น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายประทีป คงสิบ และนายเมฆินทร์ เพ็ชรลาย เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุด เมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 179,229,409 บาท มีรายจ่ายรวม 534,347,522 บาท ขาดทุนสุทธิ 368,016,922 บาท ปี 2558 ขาดทุนสุทธิ 409,204,113 บาท ปี 2557 ขาดทุนสุทธิ 310,128,621 บาท ปี 2556 ขาดทุนสุทธิ 134,094,264 บาท ปี 2555 ขาดทุนสุทธิ 104,829,748 บาท
@ธุรกิจร้านกาแฟ-ถ่ายภาพ 2 แห่ง
สาม บริษัท นิวโอ๊ค จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 มิ.ย 2546 (ปัจจุบันเสร็จการชำระบัญชีไปแล้ว) ตั้งอยู่ที่ 426/4 ถ.พหลโยธิน แขงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. แจ้งประกอบธุรกิจรับจ้างถ่ายรูป ล้างอัด ขยายรูป มีนายพานทองแท้ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน และนางกมลวัน โชติกะพุกกะณะ เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2557 มีรายได้รวม 185,439 บาท รายจ่ายรวม 20,459 บาท กำไรสุทธิ 164,980 บาท ปี 2556 มีกำไรสุทธิ 1,760,661 บาท ปี 2555 มีกำไรสุทธิ 206,189 บาท
สี่ บริษัท โอคานิท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2547 ทุนปัจจุบัน 35 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท ฮาวคัม สตูดิโอ จำกัด และบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด แจ้งประกอบธุรกิจกิจการร้านกาแฟ เครื่องดื่ม น้ำดื่ม มีนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2559 มีรายได้รวม 191,860 บาท มีรายจ่ายรวม 3,760,464 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,760,026 บาท ปี 2558 มีกำไรสุทธิ 297,219 บาท ปี 2556 ขาดทุนสุทธิ 146,869 บาท ปี 2555 ขาดทุนสุทธิ 101,690 บาท ปี 2555 ขาดทุนสุทธิ 279,856 บาท
@ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1 แห่ง
ห้า บริษัท เรนด์ เพลินจิต โฮเต็ล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2511 ทุนปัจจุบัน 700 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1291/1 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. แจ้งประกอบธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด มีนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา น.ส.แพทองธาร นางกาญจนาภา และนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดปี 2559 มีรายได้รวม 120,071 บาท รายจ่ายรวม 2,100,476 บาท ดอกเบี้ย 7,957,244 บาท ขาดทุนสุทธิ 9,937,649 บาท ปี 2558 ขาดทุนสุทธิ 7,278,885 บาท ปี 2557 ขาดทุนสุทธิ 6,996,430 บาท ปี 2556 ขาดทุนสุทธิ 7,407,577 บาท ปี 2555 ขาดทุนสุทธิ 2,194,392 บาท
สำหรับบริษัท เรนด์ เพลินจิต โฮเต็ล จำกัด ชื่อเดิมคือบริษัท เพลินจิตอาเขต จำกัด เจ้าของเดิมคือนายตัน ภาสกรนที เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มชื่อดัง ได้ขายหุ้นบริษัทดังกล่าวให้แก่บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (ของคนสกุลชินวัตร) ในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา แต่ไม่มีการเปิดเผยวงเงินการซื้อขาย (อ่านประกอบ : ไขคำตอบ!“เสี่ยตัน อิชิตัน”ขาย“เพลินจิตอาเขต”ให้“พานทองแท้”กี่พันล.?, “โอ๊ค”เปลี่ยนชื่อบริษัท-ผุดโรงแรมกลางกรุงหลังซื้อที่ดิน“เสี่ยตัน”พันล้าน)
ส่วนบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2530 ทุนปัจจุบัน 4.6 พันล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 1010 อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. ประกอบกิจการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และบริการสาธารณูปโภค ปัจจุบันไม่มีชื่อนายพานทองแท้เป็นกรรมการแล้ว มี น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ
แจ้งงบการเงินล่าสุดปี 2559 มีรายได้รวม 77,534,399 บาท รายจ่ายรวม 101,305,994 บาท ขาดทุนสุทธิ 23,771,595 บาท ปี 2558 กำไรสุทธิ 31,290,157 บาท ปี 2557 ขาดทุนสุทธิ 44,444,365 บาท ปี 2556 กำไรสุทธิ 127,488,996 บาท ปี 2555 กำไรสุทธิ 137,905 บาท
เบ็ดเสร็จนายพานทองแท้เป็นกรรมการ 7 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) เสร็จการชำระบัญชีไป 3 แห่ง เหลือทำธุรกิจ 4 แห่ง รวมทุนจดทะเบียน 3,075 ล้านบาท เฉพาะรายได้ล่าสุดในปี 2559 ทั้งสิ้น 198,106,559 บาท แต่ขาดทุนรวม 389.645,847 บาท (ดูตารางประกอบ)
เท่ากับว่าในปี 2559 ธุรกิจในขุมข่ายที่มีชื่อ ‘โอ๊ค-พานทองแท้’ นั่งเป็นกรรมการไม่มีกำไรแม้แต่บาทเดียว ?
อย่างไรก็ดีข้อมูลส่วนนี้ไม่รวมกับที่ปรากฏชื่อนายพานทองแท้ ไปถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ หรือบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือธุรกิจในต่างประเทศแต่อย่างใด
(อ่านประกอบ : ตีแผ่ขุมธุรกิจ 4.1 หมื่นล.“ทักษิณ-ครอบครัว”ในประเทศไทย, กล่องดวงใจทักษิณ“ชินวัตร-ดามาพงศ์-วงศ์สวัสดิ์”45 บริษัท 5.2 หมื่นล.)
บริษัทที่ปิดกิจการ/เสร็จการชำระบัญชี 3 แห่ง |
|
บริษัทจำกัด |
กรรมการ |
ฮาวคัม มีเดีย |
นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร นายเฉลิม แผลงศร |
มาสเตอร์โฟน |
นายพานทองแท้ ชินวัตร นายศิธา ทิวารี และนายเฉลิม แผลงศร |
นิวโอ๊ค |
นายพานทองแท้ ชินวัตร นางกาญจนาภา หงษ์เหิน และนางกมลวัน โชติกะพุกกะณะ |
บริษัทที่ยังดำเนินกิจการอยู่ |
|||
บริษัทจำกัด |
กรรมการ |
รายได้ปี 2559 |
กำไร/ขาดทุนปี 2559 |
ฮาวคัม สตูดิโอ |
พานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร และนายเฉลิม แผลงศร |
18,565,219 บาท |
-7,931,250 บาท |
วอยซ์ ทีวี |
นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นายเฉลิม แผลงศร นายทรงศักดิ์ เปรมสุข น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายประทีป คงสิบ และนายเมฆินทร์ เพ็ชรลาย |
179,229,409 บาท |
-368,016,922 บาท |
โอคานิท |
นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร |
191,860 บาท |
-3,760,026 บาท |
เรนด์ เพลินจิต โฮเต็ล |
นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นางกาญจนาภา หงษ์เหิน และนายอุดมศักดิ์ โง้วศิริ |
120,071 บาท |
-9,937,649 บาท |
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายพานทองแท้ จาก mthai