ราคา2บ.มีผลช่วงกำลังใช้สูง!พลังงานยันรวมสัญญาซื้อไฟฟ้าเขื่อนน้ำงึม1-เซเสด พิจารณารอบด้าน
โฆษกกระทรวงพลังงาน แจงปมช่องโหว่รวมสัญญาขายไฟฟ้าเขื่อนน้ำงึม 1-เขื่อนเซเสด หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ไทยอาจเสียประโยชน์ หลังปรับราคารับซื้อไฟใหม่ 2 บาท/หน่วย ระบุอัตรานี้มีผลเฉพาะช่วงเวลาความต้องการใช้สูงเท่านั้น ส่วนช่วงเวลาต่ำคิด หน่วยละ 1.60 บ เท่าสัญญาเดิม เตรียมชง กพช.พิจารณา ลั่นเป็นความร่วมมือสองชาติให้ความช่วยเหลือส่งเสริมความมั่นคง พิจารณาข้อเท็จจริงปัจจัยต่างๆรอบด้านแล้ว
จากกรณีการรวมสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าเขื่อนน้ำงึม 1 และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าเขื่อนเซเสด ระหว่าง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) ในลักษณะการให้ความช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าแบบ Non-Firm ที่ส่งผลทำให้มีการปรับราคาซื้อขายไฟฟ้าใหม่
จากเดิมที่ กฟผ.จะซื้อไฟฟ้าจาก ฟฟล. ในราคา 1.60 บาท ต่อหน่วย ส่วนราคาไฟฟ้าที่ กฟผ.ขายให้กับฟฟล. อยู่ที่ราคา 1.74 บาท ต่อหน่วยมาเป็น กฟผ.ซื้อไฟฟ้าจากฟฟล. ในราคา 2 บาท ต่อหน่วย ส่วน กฟผ.ขายไฟให้กับฟฟล. ในราคา 2.10 บาท ต่อหน่วย
ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจทำให้ฝ่ายไทยเสียประโยชน์ เนื่องจากสภาพการใช้ไฟฟ้าจริงของประเทศลาวมีสัดส่วนน้อยมาก ซึ่งหากลาวไม่ได้รับซื้อไฟฟ้าจากไทยตามสัญญาฉบับนี้เลย ขณะที่สัดส่วนการใช้ไฟไฟาของไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากลาว ก็เท่ากับว่าไทยอาจจะต้องเป็นฝ่ายรับซื้อไฟฟ้าจากลาวเพียงฝ่ายเดียว ในอัตราราคารับซื้อไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2 บาทต่อหน่วยตามสัญญา จากราคาเดิมแค่ 1.60 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และอาจจะเป็นผลทำให้ราคาค่าไฟฟ้าที่จะต้องจัดเก็บจากประชาชนปรับเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
(อ่านประกอบ : คนไทยเสี่ยงจ่ายค่าไฟแพงขึ้น! เปิดช่องโหว่รวมสัญญาเขื่อนน้ำงึม1-เซเสด เหตุลาวใช้น้อย)
ล่าสุด สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ส่งเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อเท็จจริงประเด็นนี้ มาให้สำนักข่าวอิศรา รับทราบ โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน ระบุว่า จากกรณีที่มีการรวมสัญญาโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำงึม 1 และเขื่อนเซเสด ของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (ฟฟล.) ทำให้ราคารับซื้อไฟปรับเพิ่มขึ้นจากหน่วยละ 1.60 บาท เป็นหน่วยละ 2 บาทนั้น
ขอเรียนชี้แจงว่า การซื้อขายไฟฟ้าโครงการเขื่อนน้ำงึม 1 และโครงการเขื่อนเซเสด เป็นความร่วมมือระหว่างไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในรูปแบบของการให้ความช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า เพื่อช่วยเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของแต่ละประเทศร่วมกัน รวมทั้งเป็นการประสานประโยชน์ตามข้อตกความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่มประชาคมอาเซียนในการแบ่งปันการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และช่วยกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายมีการซื้อและขายไฟฟ้าให้แก่กันมาโดยตลอด
การพิจารณาการรับซื้อไฟฟ้าระหว่าง 2 ประเทศ คณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงและปัจจัยในด้านต่างๆมาใช้ประกอบการพิจารณาอย่างรอบด้าน ราคารับซื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำห้วยลำพันใหญ่ และการก่อสร้างเพื่อเพิ่มกำลังผลิตของเขื่อนน้ำงึม 1 และเขื่อนเซเสด ที่นำมารวมพิจารณาในข้อตกลงความร่วมมือในการซื้อและขายไฟฟ้าผ่านสัญญาเขื่อนน้ำงึม 1 และ เขื่อนเซเสด ในครั้งนี้ ประกอบกับราคารับซื้อไฟฟ้าในอัตราหน่วยละ 2 บาท จะใช้เฉพาะในช่วงเวลาความต้องการไฟฟ้าสูง ส่วนในช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำจะซื้อในราคาหน่วยละ 1.60 บาท ซึ่งอยู่ในระหว่างเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า อย่างไรก็ตาม ในเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ไม่ได้ให้ข้อมูลเรื่องสภาพการใช้ไฟฟ้าจริงของประเทศลาวว่ามีสัดส่วนเป็นจำนวนเท่าไร และในกรณีที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ต้องมีการรับซื้อไฟฟาในอัตราหน่วยละ 2 บาท จะเป็นผลทำให้ราคาค่าไฟฟ้าที่จะต้องจัดเก็บจากประชาชนปรับเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยหรือไม่