กก.ข้อมูลข่าวสารฯสั่ง ป.ป.ช.เปิดเผยสำนวนตีตกคดีข้าวยุค‘มาร์ค’แก่‘อิศรา’
กก.วินิจฉัยข้อมูลข่าวสารฯสั่ง ป.ป.ช. เปิดเผยสำนวนการไต่สวนปมตีตกคดีข้าวยุค ‘อภิสิทธิ์’ บางส่วน ปกปิดชื่อพยานบุคคลที่ยังต้องใช้ไต่สวนข้อกล่าวหาที่เหลืออยู่ เผยเอกสารไม่ได้หาย แต่รอหน่วยงานขนย้ายระหว่างน้ำท่วมส่งมาให้
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ประกอบระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าด้วยการจัดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าตรวจดูเหตุผลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในกรณีที่มีมติวินิจฉัยว่า ข้อกล่าวหาใดไม่มีมูลข้อกล่าวหานั้นเป็นอันตกไป พ.ศ.2558 เพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหานางพรทิวา นาคาศัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อนุมัติจำหน่ายข่าวสารในสต็อกของรัฐบาล เมื่อปี 2552 ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด และไม่อนุมัติขายข้าวสารให้กับเอกชน 2 ราย และกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการทุจริตในการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล เมื่อปี 2553 เกี่ยวกับพฤติการณ์ของนายอภิสิทธิ์ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกฯ นางพรทิวา และนายมนัส สร้อยพลอย รวม 4 ข้อกล่าวหา ที่ตีตกไปแล้ว 3 ข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ดีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทำหนังสือตอบกับว่า เรื่องไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไปก่อนที่ระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการจัดให้บุคคลทั่วไปสามารถตรวจดูเหตุผลฯ มีผลใช้บังคับ ดังนั้น เรื่องไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีนี้จึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของระเบียบดังกล่าว และมีมติให้เปิดเผยข้อมูลให้ทราบเฉพาะเหตุผลในการพิจารณามีมติให้ข้อกล่าวหาตกไปของกรณีนางพรทิวาเท่านั้น (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ไม่ให้ข้อมูลไต่สวนคดีข้าวยุค ‘อภิสิทธิ์’-เปิดแค่มติตีตกข้อหา‘พรทิวา’, ชัด ๆ ป.ป.ช.แจงยิบไฉนตีตกสารพัดคดีข้าวยุค‘อภิสิทธิ์’-รอลุ้นคดีมันจีทูจีส่อเก๊?)
ต่อมาสำนักข่าวอิศราได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีดังกล่าว
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคม การบริหาราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย มีมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีดังกล่าวแก่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org แล้ว
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการดังกล่าว ระบุว่า ผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงข้อเท็จจริงสรุปได้ความว่า รายงานการไต่สวนที่ผู้อุทธรณ์ (สำนักข่าวอิศรา) มีคำขอนั้น เกี่ยวข้องกับการทุจริตการระบายข้าวสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ในปี 2552-2553 แบ่งเป็นสำนวนการไต่สวน 3 สำนวน ดำเนินการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว 2 สำนวน ทั้งนี้ตามมาตรา 53 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช. กำหนดให้เข้าตรวจดูเฉพาะเหตุผลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไปเท่านั้น ประกอบกับผู้อุทธรณ์เป็นนักข่าว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการไต่สวนดังกล่าว จึงได้เปิดเผยเฉพาะเหตุผลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำหรับประเด็นที่ปรากฏตามรายงานของสื่อมวลชนว่า กรณีดังกล่าวคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนอย่างคลุมเครือ เนื่องจากมีการอ้างว่า เอกสารหายช่วงน้ำท่วมนั้น ขอเรียนว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เรียกมาจากหน่วยงานอื่น ซึ่งอยู่ระหว่างการขนย้ายเอกสารในช่วงน้ำท่วม จึงยังไม่สามารถส่งมอบเอกสารได้ เอกสารไม่ได้หายแต่อย่างใด และเอกสารนั้นเป็นเอกสารที่ต้องใช้ในการไต่สวนสำนวนที่ 3 ซึ่งยังไม่เสร็จสิ้น ไม่ได้ใช้ในสำนวนการไต่สวนที่ผู้อุทธรณ์มีคำขอ ดังนั้นหากเปิดเผยรายงานการไต่สวนให้ทราบอาจส่งผลกระทบต่อการไต่สวนที่ยังไม่เสร็จสิ้นได้
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อมูลข่าวสารตามทอุทธรณ์เป็นข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูล และมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจึงไม่ทำให้การบังคับใช้กฏหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ตามมาตรา 15 (2) แห่ง พ.ร.ช.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจึงเปิดเผยให้ผู้อุทธรณ์ทราบได้ โดยปกปิดชื่อและข้อความที่ทำให้ทราบว่า พยานบุคคลที่ให้ถ้อยคำในรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงเป็นใคร
ส่วนข้อกล่าวหาอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงยังไม่เสร็จสิ้น การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่ อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ตามมาตรา 15 (2) แห่ง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 จึงไม่ควรเปิดเผยข้อมูลข่าวสารในส่วนนี้
ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 วินิจฉัยให้สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยข้อมูลข่าวสารในส่วนของข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกไป โดยปกปิดชื่อ และข้อความที่ทำให้ทราบว่า พยานบุคคลที่ให้ถ้อยคำในรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงเป็นใคร พร้อมทั้งให้สำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องแก่ผู้อุทธรณ์ด้วย (ดูเอกสารประกอบ)
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.รับตีตกคดีข้าว“อภิสิทธิ์”หลายสำนวน ยุติหาหลักฐานเพิ่ม-สรุปเท่าที่มี
“วิชา”ยันประกันข้าวยุค“มาร์ค”ก็ทุจริต! จี้คนรับผิดชอบ-จ่อแจ้งข้อกล่าวหา
อัพเดต!ป.ป.ช.แจงยิบคดีข้าวยุคอภิสิทธิ์-ยกข้อหาแรก"พรทิวา"กีดกันขายข้าว
หมายเหตุ : ภาพประกอบนาข้าวจาก rakbankerd.com, ภาพนายอภิสิทธิ์ จาก sanook