ทะลุ 100 คดี! นักการเมืองท้องถิ่นซุกบัญชีฯ ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุกอีก 5 คน
นักการเมืองท้องถิ่นยังคงซุกบัญชีทรัพย์สินต่อเนื่อง! ล่าสุดศาลฎีกาฯ ฟันอีก 5 คน 5 จังหวัด จงใจไม่ยื่น ป.ป.ช. ปรับ 4,000-8,000 บาท จำคุก 1- 2 เดือน รอการลงโทษ 1 ปีรวด ยกคำร้อง 1 ราย ยอดรวมไม่ถึงปีพุ่งกว่า 100 คดี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาวันที่ 1 ก.ย. 2560 เผยแพร่คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) จำนวน 6 คดี (ราย) ศาลฎีกาฯ พิพากษาให้มีความผิด 5 ราย เป็นนักการเมืองท้องถิ่นใน 5 จังหวัด ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ปรับ 4,000-8,000 บาท จำคุก 1- 2 เดือนทุกราย โทษจำคุกให้รอการลงโทษกำหนด 1 ปี และยกคำร้อง 1 ราย ดังนี้
1.นายขาวพร รักษาพล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาขาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายใระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.นาขาม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 6 ก.ย. 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 101/2560-วันที่ 6 มิ.ย.2560)
2.นางวรนุช สุขวารี หรืองาเจือ รองนายกเทศมนตรี ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 103/2560-วันที่ 6 มิ.ย.2560)
3.นางปรีดาพร บุญมี รองนายกเทศมนตรี ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ต.นาโพธิ์ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 9 มี.ค. 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 104/2560-วันที่ 6 มิ.ย.2560)
4.นายวินัย นาแหยม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งนายก อบต.แคราย ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 7 ก.ย. 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือนและปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ละปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 105/2560-วันที่ 6 มิ.ย.2560)
5.นางนุชามาศ คำขวา รองนายก องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ทุ่งเสลี่ยม ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 106/2560-วันที่ 6 มิ.ย.2560)
ยกคำร้อง 1 ราย
นายสุรศักดิ์ สุรินธรรม เลขานุการนายกเทศมนตรี ต.โพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง เนื่องจากระหว่างการพิจารณาคดี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น ฉบับใหม่ ยกเลิก ตำแหน่งเลขานุการนายก นายก อบต. ไม่ต้องมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อ ป.ป.ช.
ล่าสุด เมื่อวันที 23 มิ.ย.2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้สั่งยกคำร้องคดีดังกล่าว (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 165/2559-23 มิ.ย.2560)
นับตั้งแต่ ม.ค. 2560 จนถึงขณะนี้ ยอดรวมคดีที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาให้มีความผิดกรณีไม่ยื่นบัญชีฯ และยื่นเท็จประมาณ 104 ราย และยกคำร้องอันเนื่องมาจาก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ออกประกาศยกเลิก ตำแหน่งที่ปรึกษา และเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมือง ที่ปรึกษา และเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล และเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีฯ โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 จำนวน 9 คดี
(รวบรวมข้อมูลจากการเผยแพร่ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาและสำนักงานศาลฎีกาฯ)
อ่านประกอบ:
รายชื่อ 9 นักการเมืองท้องถิ่นหลุดคดีซุกบัญชีฯ ป.ป.ช.ยกเลิกตำแหน่ง ศาลฎีกาฯยกคำร้อง
ศาลฎีกาฯฟันอีก 19 คน นักการเมืองท้องถิ่น 13 จว. ซุกบัญชีทรัพย์สิน-ยก 2 ราย
ศาลฎีกาฯฟัน 2 นักการเมือง จ.สตูล-สุราษฎร์ฯ ซุกเงินฝาก 7 บัญชึ-ไม่ยื่นทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯ ฟัน 8 นักการเมืองท้องถิ่น 7 จว.-ยกคำร้อง 5 คดีจงใจซุกบัญชีฯ