ศาลฎีกาฯ ฟัน 8 นักการเมืองท้องถิ่น 7 จว.-ยกคำร้อง 5 คดีจงใจซุกบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง 5 เลขานุการนายก อบต. จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน เหตุรับอานิสงส์ ประกาศ ป.ป.ช.ฉบับใหม่ ยกเลิกตำแหน่ง ไม่ต้องโชว์ เมื่อ 3 เม.ย. 60 ส่วน รองนายก-สท.ลำปาง อีก 8 คน ‘ไม่รอด’ ปรับ จำคุก รอลงโทษ ลอตเดียวกับ เลขารมช.คลัง
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2560 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด รวม 14 คดี (ราย) พิพากษาให้ผู้คัดค้านมีความผิด 9 ราย เป็นนักการเมืองท้องถิ่น 8 ราย ยกคำร้อง 5 ราย โดยคดีที่ศาลฎีกาฯ ยกคำร้อง ได้แก่
1.นางทรงศรี ทางธรรม เลขานุการนายก องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)โคกกรวด อ.ปากพลี จ.นครนายก ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 1 กรณีพ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 พิพากษายกคำร้อง (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 63/2560 -10 เม.ย.2560)
2.นายสิทธิรัตน์ หรือณรงค์ เกตุเพชร เลขานุการนายก อบต.ถ้ำสิงขร อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี รับตำแหน่งเมื่อ 21 ต.ค. 2552 พ้นตำแหน่งโดยการลาออกเมื่อ 1 ต.ค. 2554 ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด พ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ศาลฏีกาฯ ยกคำร้อง (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 64/2560 -10 เม.ย.2560)
3.นางสันทนีย์ พรมพูล เลขานุการนายก อบต.ศรีกะอาง อ.บ้านนา จ.นครนายก รับตำแหน่ง 13 ต.ค. 2551 พ้นตำแหน่ง 31 ส.ค. 2555 ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ภายในระยะเวลากำหนด พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี พิพากษายกคำร้อง (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 73/2560 -18 เม.ย.2560)
4.นายสมยศ เพชรทอง เลขานุการนายก อบต.พ่วงพรมคร อ.เตียนซา จ.สุราษฎร์ธานี รับตำแหน่งเมื่อ 21 ต.ค. 2551 พ้นตำแหน่งเมื่อ 1 เม.ย. 2555 ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี พิพากษายกคำร้อง (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 74/2560 -18 เม.ย.2560)
5.นายฉลอง ด้วงไข่ เลขานุการนายก อบต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง รับตำแหน่ง 1 ต.ค. 2551 พ้นตำแหน่ง 31 ส.ค. 2555 ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี พิพากษายกคำร้อง (คดีหมายเลขแดงที่ อม.47/2560 -19 เม.ย.2560)
ศาลฎีกาฯ วินิจฉัยว่า ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯ ผู้ร้อง (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ได้ออกประกาศฉบับใหม่ ยกเลิก ตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมือง ไม่เป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นักการเมืองที่ศาลฎีกาฯ ยกคำร้องด้วยเหตุดังกล่าวคือคดี นายดิเรก หอมหวล เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมาบตาพุด เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2554 และพ้นจากตำแหน่งด้วยการลาออกเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2556 นายดิเรกยื่นบัญชีฯ กรณีเข้ารับตำแหน่ง แต่ไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี อันเนื่องมาจากประกาศฉบับใหม่ของ ป.ป.ช. ที่ยกเลิกตำแหน่งดังกล่าวไม่ต้องยื่นบัญชีฯ และเป็นคดีแรกที่ศาลฎีกาฯยกคำร้อง (อ่านประกอบ : อานิสงส์ประกาศ ป.ป.ช.! ศาลฎีกาฯยกคำร้องเลขาฯนายกมาบตาพุดซุกบัญชีฯ)
ส่วนคดีนักการเมืองท้องถิ่น 8 ราย ที่ศาลฎีกาฯพิพากษาให้มีความผิด ได้แก่
1.นางอวยพร พรรัตนพิทักษ์ สมาชิกสภาเทศาลนครลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 28 ก.ย. 2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.48/2560 -20 มี.ค.2560)
2.นายสมพงศ์ หรือ สมพงษ์ เจ๊ะหมัด เลขานุการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชุมพล อ.องครักษ์ จ.นครนายก จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่งเลขานุการนายก ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายก วันที่ 23 มี.ค. 2560 อันเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 23 มี.ค.2560 อันเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.53/2560 -23 มี.ค.2560)
3.น.ส.ปภาวรินทร์ หรือ ปภาวรินท์ ใจว่อง เลขานุการนายก อบต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร รับตำแหน่ง 26 ธ.ค. 2554 พ้นตำแหน่งด้วยการลาออกเมื่อ 16 พ.ย. 2555 ต่อมา 23 ธ.ค. 2555 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด (ส.อบจ.) กำแพงเพชรด้วย และลาออกเมื่อ 23 มี.ค. 2560 จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ในการดำรงตำแหน่งเลขานุการนายก อบต. ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 16 พ.ย. 2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขาฯ กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2559 -27 มี.ค.2560)
4.ว่าที่ร้อยตรีณัฐพงษ์ แก่นใจเด็ด รองนายก อบต.ศรีนาวา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งกับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน และปรับ 24,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 3 เดือน และปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.68/2560 -11 เม.ย.2560)
5.นายทะหลาง เสียงใส รองนายก อบต.เหล่างาม อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 6 ก.ย. 2556 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.69/2560 -11 เม.ย.2560)
6.นายอุดสะหมาน รอดนวน รองนายก อบต.คลองเฉลิม อ.กรงหรา จ.พัทลุง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันทีj 31 ส.ค. 2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.75/2560 -19 เม.ย.2560)
7.นายบวรวิทช์หรือบุญถม เผ้าหอม รองนายก อบต.คูคำ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 6 ก.ย. 2556 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 77/2560 -19 เม.ย.2560)
8.นายสุพจน์ สุริยะเกษ รองนายก อบต.เนินมะกอก อ.พยุหะครี จ.นครสวรรค์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว 1 ปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ 24 ส.ค. 2555 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 25/2560 -3 พ.ค. 2560)
สำหรับนักการเมืองระดับชาติ 1 รายที่ศาลพิพากษาให้มีความผิดคือ นายธนาธร โล่ห์สุนทร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (เลขานุการฯ รมช.คลัง) อดีต ส.ส.จังหวัดลำปาง สังกัดพรรคไทยรักไทย ตามข่าวก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ : ศาลฎีกาฯ ฟัน 'เลขาฯ รมช.คลัง' จงใจซุกบัญชีฯ 3 ครั้ง จำคุก 3 เดือน รอลงโทษ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ 5 ม.ค. 2560 จนถึง 7 มิ.ย. 2560 ศาลฎีกาฯ เผยแพร่คำพิพากษาคดีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด และยื่นบัญชีฯ เท็จ รวม 11 ครั้ง 97 คดี (ราย) จำแนกเป็น
1.จงใจยื่นบัญชีฯ เท็จ 2 ราย คือ นายหนูแดง วรรณกางซ้าย ส.ส.บุรีรัมย์ และ นายคณะวัฒน์ อังสนานิวัฒน์ เลขานุการนายก อบจ.นครราชสีมา
2.จงใจยื่นบัญชีฯ เท็จและร่ำรวยผิดปกติ 1 ราย คือ นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่
3.จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ 88 ราย เป็นนักการเมืองระดับชาติ 2 รายคือ นายเอกศักดิ์ แดงเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธนาธร โล่ห์สุนทร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรรมการรัฐวิสาหกิจ 2 รายคือ นายบุญนำ นิกรเทศ กรรมการ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ และ นายวีระพงษ์ บริสุทธิ์สุขกมล กรรมการ บริษัท ไม้อัดไทย จำกัด ที่เหลือเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่นทั้งหมด
4.ยกคำร้อง 6 ราย คือ นายดิเรก หอมหวล เลขานุการ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองมาบตาพุด และผู้มีรายชื่อข้างต้น
อ่านประกอบ:
ศาลฎีกาฯ ฟัน 'เลขาฯ รมช.คลัง' จงใจซุกบัญชีฯ 3 ครั้ง จำคุก 3 เดือน รอลงโทษ
ชื่อโผล่ในศาลฎีกาฯ! ‘ธีมะ’ โฆษก ‘มาร์ค’ ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน -ป.ป.ช.ชงเชือด
ลอตล่าสุด!ศาลฎีกาฯ ฟัน 12 นักการเมืองไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกเงินฝาก ที่ดิน รถยนต์
อานิสงส์ประกาศ ป.ป.ช.! ศาลฎีกาฯยกคำร้องเลขาฯนายกมาบตาพุดซุกบัญชีฯ