สภาทนายความ ลั่นช่วย‘ณัฐพร’สู้คดีอดีตผบ.ตร.ถึงที่สุด-ยอดบริจาคผ่านอิศราพุ่ง 2 แสน
สภาทนายความ –สถาบันอิศรา เปิดแถลงข่าวให้ความช่วยเหลือ 'ณัฐพร นักข่าวอิศรา' สู้คดีถูกแจ้งความข้อหาบุกรุกหอพักภรรยา พล.ต.อ.พัชรวาท อดีต ผบ.ตร.จนถึงที่สุด อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือปชช.ยันไม่หนักใจ ดูข้อเท็จจริงแล้วไม่น่าจะเข้าข่ายกระทำความผิด ส่วน ผอ.อิศรา เผยยอดเงินบริจาคล่าสุดพุ่ง 2 แสนบาท แบ่งเงิน1แสน มอบให้สภาทนายความเป็นค่าใช้จ่ายช่วยปชช.รายได้น้อย ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2560 ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร นายเสาวภักดิ์ สกุลโรมวิลาส อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย นายทัศไนย ไชยแขวง อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สภาทนายความ พร้อมด้วยนายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถานบันอิศรา นายเสนาะ สุขเจริญ บรรณาธิการสำนักข่าวอิศรา เปิดแถลงข่าวช่วยเหลือนายณัฐพร วีระนันท์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ต่อสู้คดีกรณีถูกแจ้งความจับข้อหาบุกรุก ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลหอพักของภรรยา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชรการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2560 ขณะนี้อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งจะมีการสรุปความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ ในวันที่ 1 ก.ย.2560 นี้
นายเสาวภักดิ์ กล่าวว่า สภาทนายความ พร้อมให้การช่วยเหลือนายณัฐพร ต่อสู้คดีจนถึงที่สุด เนื่องจากสภาทนายความมีการทำบันทึกข้อตกลงกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ในการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายกรณีผู้สื่อข่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีในเรื่องต่างๆ จากการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนอยู่แล้ว ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับคำร้องของนายณัฐพร ที่จะยื่นเรื่องเข้ามาเป็นทางการตามระเบียบในวันนี้ จะตั้งทนายความเข้าไปช่วยเหลือว่าความให้ทันที
“เท่าที่ได้รับฟังข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากนายณัฐพร เห็นว่าการเข้าไปในหอพัก ที่ประตูเปิดอยู่ เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง ไม่น่าจะเข้าข่ายการบุกรุก เป็นการเข้าไปทำหน้าที่สื่อมวลชนตามปกติ ไม่ได้มีเจตนาบุกรุกเข้าไปรบกวนสิทธิการครอบครองของเจ้าของที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด นอกจากนี้คนที่อยู่ภายในหอพักก็แจ้งว่าให้นั่งรออยู่ ไม่ได้แสดงท่าทีขับไล่ออกไปนอกบริเวณอาคารแต่อย่างใด”
เมื่อถามว่า กรณีนี้ต่อสู้คดีกับ อดีตผบ.ตร ซึ่งเป็นน้องชายรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบัน สภาทนายความมีความหนักใจหรือไม่ นายเสาวภักดิ์ กล่าวว่า "ไม่มีความหนักใจอะไร ทุกอย่างว่าไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ขณะที่ในส่วนของผู้เสียหาย ในคดีนี้ ผมมองว่าถ้าเขาเห็นว่าเขาได้รับความเดือนร้อนไม่พอใจ เขาก็มีสิทธิที่จะใช้ช่องทางตามกฎหมายรักษาสิทธิของตนเองได้เช่นกัน"
ขณะที่ นายประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.2560 ที่เริ่มมีการเปิดรับบริจาคเงินสู้คดีกรณีนายณัฐพร จนถึงปัจจุบัน ยอดเงินบริจาคอยู่ที่ 2 แสนบาท และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเงินบริจาคที่ได้รับมาจะถูกนำไปใช้ในการต่อสู้คดีของนายณัฐพร และจะนำเงินอีกส่วนไปใช้ประโยชน์ในการทำข่าวเพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะของสำนักข่าวอิศราต่อไป และในวันนี้ได้นำเงินที่ได้รับบริจาคมา จำนวน 1 แสนบาท มอบให้กับสภาทนายความ เพื่อให้นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย และไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคมด้วย
“เราไม่ได้มอบเงินจำนวน1แสนบาท ให้สภาทนายความ เพื่อใช้ในการสู้คดีของนายณัฐพร เพราะสภาทนายความ มีงบประมาณมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานส่วนนี้ ของตนเองอยู่แล้ว แต่เราต้องการมอบเงินส่วนนี้ให้ เพื่อช่วยเป็นค่าใช้จ่ายให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย ที่ไม่มีความรู้ทางกฎหมาย ไม่ได้เป็นความธรรมในสังคม ได้ใช้ประโยชน์จากเงินบริจาคส่วนนี้ เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป" ผู้อำนวยการสถาบันอิศราระบุ
อนึ่ง สำหรับการเปิดรับบริจาคเงินสู้คดีกรณีนายณัฐพรนั้น สำนักข่าวอิศรา ได้เผยแพร่ประกาศผ่านเว็บไซต์สำนักขาวอิศรา เป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2560 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลา 12 วัน โดยเปิดรับเงินบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีดังกล่าว ในบัญชีออมทรัพย์ชื่อ “ให้ความรู้และช่วยเหลือด้านกฎหมาย” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีย่าน เลขที่บัญชี 073-222026-9 ส่งใบเปย์อิน หรือใบโอนได้ที่ 02-241-39-06 สอบถามรายละเอียดที่โทร 02- 241-39-05
(อ่านประกอบ : เปิดรับเงินบริจาคสู้คดีกรณีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรากรณีการตรวจสอบ ทรัพย์สิน อดีต ผบ.ตร.)