อยู่ที่วาสนา! ‘ศิริชัย’เคารพมติ ก.ต.ไม่เลือกนั่ง ปธ.ศาลฎีกา ปัดฟ้องกลับ-ลาออก
‘ศิริชัย’ ปธ.ศาลอุทธรณ์ แถลงข่าวเปิดใจหลังมติ ก.ต. ไม่เลือกนั่งเก้าอี้ ปธ.ศาลฎีกา ยันเคารพมติ ไม่ติดใจ เปรยอยู่ที่วาสนา ปัดฟ้องกลับตามที่สื่อบางแห่งอ้าง ไม่ลาออกด้วย พร้อมทำงานยันเป็นผู้พิพากษาอาวุโส - อนุ ก.ต. มติเอกฉันท์ชงชื่อ 'ชีพ จุลมนต์' เป็นแทน
จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2560 ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติเอกฉันท์ไม่แต่งตั้งนายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ขึ้นเป็นประธานศาลฎีกา เนื่องจากเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งดังกล่าว แม้จะเป็นผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดก็ตาม โดยขั้นตอนต่อไปสำนักงานศาลยุติธรรมได้ทำบัญชีรายชื่อข้าราชการตุลาการอาวุโสรองลงมาจากนายศิริชัย เป็นประธานศาลฎีกา ได้แก่ นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนคณะอนุกรรมการ ก.ต. นั้น
(อ่านประกอบ : แม้อาวุโสแต่ไม่เหมาะสม! ก.ต.มติเอกฉันท์ไม่เห็นชอบ‘ศิริชัย’นั่ง ปธ.ศาลฎีกา-ชงชื่อ‘ชีพ’แทน)
เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 ก.ค. 2560 นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณีนี้ว่า ตามที่มีหนังสือพิมพ์บางฉบับเขียนข่าวลักษณะว่าตนจะฟ้องคณะกรรมการ ก.ต. ที่มีมติไม่แต่งตั้งตนเป็นประธานศาลฎีกา และมีการคาดเดาว่า หากไม่ได้เป็นประธานศาลฎีกาแล้ว จะไปอยู่ที่ไหนนั้น เรียนว่า ตามระบบศาลยุติธรรม คณะกรรมการ ก.ต. มีหน้าที่พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตุลาการ และคำวินิจฉัยถือเป็นที่สุด ไม่สามารถอุทธรณ์ หรือฎีกาได้ ดังนั้นจึงไม่อาจทบทวนได้อีก ตนทำงานในศาลยุติธรรมมานานหลายสิบปี จึงรู้กติกาดี เมื่อ ก.ต. มีมติไม่เห็นชอบ ก็ยอมรับตามเหตุผลที่ว่าตนไม่เหมาะสม เคารพมติของ ก.ต. ไม่ติดใจ และไม่ฟ้อง ก.ต. แต่อย่างใด
นายศิริชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการคาดเดาว่าตนจะไปอยู่ที่ไหนต่อนั้น เรียนว่า ตามแนวปฏิบัติก่อนหน้านี้ มีข้าราชการตุลาการหลายรายที่อาวุโสสูงสุดเคยถูกเสนอชื่อเป็นประธานศาลฎีกา แต่ ก.ต. ไม่เห็นชอบ เมื่อได้เป็นประธานศาลฎีกา ก็ทำงานตามตำแหน่งเดิมต่อไป ตนเป็นประธานศาลอุทธรณ์ ก็ทำหน้าที่เดิม ไม่มีแนวทางอย่างอื่น
ภายหลังการแถลงข่าวแบบสาธารณะ หลังจากนั้นนายศิริชัย ขอให้ผู้สื่อข่าวงดการบันทึกเทปโทรทัศน์ และงดบันทึกเสียง เพื่อพูดคุยบางประเด็นที่อาจส่งผลกระทบ หรือทำให้สังคมเข้าใจผิดได้ โดยนายศิริชัย กล่าวตอนหนึ่งถึงความรู้สึกที่ไม่ได้รับเลือกเป็นประธานศาลฎีกาว่า เป็นธรรมดา ก็รู้สึกบ้าง แต่ไม่ได้คิดอะไร จบแล้วก็จบ เคารพกติกา เมื่อไม่ได้รับเลือกเป็นประธานศาลฎีกา ก็กลับมาทำตำแหน่งเดิมต่อไป
“ในใจลึก ๆ ถ้าได้เป็นประธานศาลฎีกา ก็เป็นประธานศาลฎีกาคนแรกที่จบจากคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง แต่มันเป็นเรื่องของวาสนา ไม่ได้คิดอะไรมาก รู้สึกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร” นายศิริชัย กล่าว
ส่วนจะลาออกหรือไม่นั้น นายศิริชัย กล่าวว่า ไม่ลาออก จะอยู่ทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป และทำไปเรื่อย ๆ แม้หมดวาระแล้ว อาจทำหน้าที่ต่อในฐานะผู้พิพากษาอาวุโส
เมื่อถามถึงการหยิบยกเหตุผลของคณะอนุกรรมการ ก.ต. กรณีกล่าวหาว่า มีการเพิกถอนโอนสำนวนคดียาเสพติดโดยมิชอบนั้น นายศิริชัย กล่าวว่า เป็นการตีความคนละแบบระหว่างความเห็นของตน กับของคณะอนุกรรมการ ก.ต. เป็นเรื่องการตีความข้อกฏหมาย แต่ยืนยันว่า ไม่ได้เพิกถอนหรือโอนสำนวนคดีโดยมิชอบอย่างที่ถูกกล่าวหา และการกระทำที่ผ่านมาไม่ได้ผิดระเบียบแต่อย่างใด และปัจจุบันไม่ได้ถูกดำเนินการทางวินัยจากกรณีดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า คณะอนุกรรมการ ก.ต. ประชุมเพื่อพิจารณากลั่นกรองเพื่อเสนอชื่อบุคคลเป็นประธานศาลฎีกา คนที่ 44 มีมติเอกฉันท์รับบัญชี 1 ครั้งที่ 2 ให้ นายชีพ จุลมนต์ เป็นประธานศาลฎีกา และจะนำชื่อนายชีพเสนอให้คณะกรรมการ ก.ต. พิจารณาแต่งตั้งในวันที่ 11 ก.ค. 2560
อ่านประกอบ :
‘ศิริชัย' ร้องขอความเป็นธรรม ปธ.ศาลฎีกา-เข้าชี้แจงก.ต.ปมถูกร้องเพิกถอนโอนสำนวน!
ระวัง! ซ้ำรอยวิกฤตตุลาการ เมื่อ อนุก.ต.ไม่เห็นชอบเสนอชื่อ'ศิริชัย วัฒนโยธิน' ปธ.ศาลฎีกา