ศาล ปค.สั่งเทศบาล ต.ท่าหลวง-อยุธยา ชดใช้เหยื่อ-ผู้บาดเจ็บเหตุสะพานถล่ม 4.6 ล.
ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ 'เทศบาล ต.ท่าหลวง จ.อยุธยา-เอกชนคู่สัญญาสะพานสมโภชน์ฯ 200 ปี' ชดใช้ค่าสินไหมฯ ครอบครัวเหยื่อ 2.6 ล. พร้อมผู้บาดเจ็บรายอื่นด้วย เบ็ดเสร็จค่าเสียหาย 4.6 ล้าน
กรณีเหตุการณ์สะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี (เคเบิ้ลคนเดินข้าม) ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พังถล่มเมื่อ 28 เม.ย. 2556 เป็นเหตุให้บุตรสาววัย 10 ปีของ นายอนุนาท เสือสมิง เสียชีวิต ซึ่งผู้เป็นบิดาได้เดินหน้าเรียกร้องขอความเป็นธรรมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อหน่วยงานต่าง ๆ มาโดยตลอด โดยปัจจุบันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าไปไต่สวนข้อเท็จจริงการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ขณะที่ นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบุพฤติการณ์ของนายเชษฐา ปทุมรังสี นายกเทศมนตรี ต.ท่าหลวง ว่ามีพฤติการณ์ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ในการไม่ออกคำสั่งทางปกครองให้ปิดสะพานดังกล่าว ทำให้พังถล่มเสียหาย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน เป็นการละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามมาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ.2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2552 จึงเห็นควรเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ นายเชษฐาฯ พ้นจากตำแหน่ง (อ่านประกอบ : ผู้ว่าฯ อยุธยา ชง ‘มท.1’ สั่งปลด ‘นายกฯท่าหลวง’ละเลยไม่สั่งปิดสะพานมรณะ200ปี)
สำนักข่าวอิศรา www.isrnews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 2226/2556 คดีหมายเลขแดงที่ 1134/2560 และคดีหมายเลขดำที่ 2187/2556 คดีหมายเลขแดงที่ 1133/2560 ให้เทศบาลตำบลท่าหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) และบริษัท ที.เอ็ม.ไอ. ดริล แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีพังถล่ม ดังนี้
คดีหมายเลขดำที่ 2187/2556 คดีหมายเลขแดงที่ 1133/2560 พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2 ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ นายอนุนาท เสือสมิง และ น.ส.สมหทัย นาคสุทธิ์ (ผู้ฟ้องคดีที่ 1 และ 2) เป็นเงินจำนวน 2,640,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าว นับตั้งแต่วันฟ้องคดี หรือวันที่ 25 ต.ค. 2556 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ทั้งนี้ ภายใน 90 วันนับแต่คดีถึงที่สุด และคืนค่าธรรมเนียมศาลให้ตามส่วนของการชนะคดี ส่วนคำฟ้องและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ส่วนคดีหมายเลขดำที่ 2226/2556 คดีหมายเลขแดงที่ 1134/2560 พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2 ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ นายนเรศร์ นิรันดร์สุข (ผู้ฟ้องคดีที่ 1) จำนวน 1,024,000 บาท โดยสงวนไว้ซึ่งสิทธิของนายนเรศร์ฯ ที่จะยื่นหลักฐานใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องซึ่งจะมีขึ้นในอนาคตต่อศาล เพื่อที่จะขอแก้ไขคำพิพากษาอีกภายในไม่เกิน 2 ปีนับแต่คดีถึงที่สุด ,นางดวงแข นิรันดร์สุข (ผู้ฟ้องคดีที่ 2) จำนวน 108,000 บาท ,นางเทียมใจ ใจจง (ผู้ฟ้องคดีที่ 4) จำนวน 625,000 บาท ,นายโกมินทร์ ญาณปัญญา (ผู้ฟ้องคดีที่ 5) จำนวน 282,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินค่าสินไหมทดแทนที่ผู้ฟ้องคดีแต่ละคนพึงมีสิทธิได้รับตามจำนวนดังกล่าว นับแต่วันฟ้องคดี จนกว่าจะชำระเสร็จ ทั้งนี้ ภายใน 90 วันนับแต่คดีถึงที่สุด แบะคืนค่าธรรมเนียมให้แก่ นายนเรศร์ฯ และนางดวงแขฯ ตามส่วนของการชนะคดี ส่วนคำฟ้องของนายชำนาญ ชะบาสีห์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของ น.ส.เกศิณี ชะบาสีห์ (ผู้ฟ้องคดีที่ 3) และคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
รวมเบ็ดเสร็จค่าเสียหายที่เทศบาลตำบลท่าหลวงต้องชดใช้เป็นเงิน 4,679,000 บาท
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรารายงานแล้วว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2559 เลขาธิการสภาวิศวกร ได้แจ้งผลพิจารณาจรรยาบรรณของวิศวกรว่า สภาวิศวกร โดยคณะกรรมการจรรยาบรรณได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว จึงได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ลงโทษเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของ นายอนุวัติ วิชัยโย เลขทะเบียน ภย.39332 และ นายสันติธรรม สีนวนสกุลณี เลขทะเบียน ภย.26146 ในความผิดตามข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม และการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิแห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2543 ข้อ 3 (2) และ 3 (7)
รวมถึง ให้ลงโทษเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของ นายวรพจน์ นุชิต (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) เลขทะเบียน สย.6563 ในความผิดตามข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม และการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิแห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2543 ข้อ 3 (1) ,3 (2) ,3 (3) และ 3 (4) และให้ยกข้อกล่าวหานายวรพจน์ ในความผิดข้อ 3 (7) เนื่องจาก ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏพฤติการณ์หรือพยานหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่า นายวรพจน์ฯ ได้กระทำอันมีลักษณะเป็นการประกอบชีพเกินความสามารถที่ตนเองจะกระทำได้ แต่อย่างใด (อ่านประกอบ : 3 ปีที่รอคอย! 'สภาวิศวกร’สั่งถอนใบอนุญาตฯ ผู้คุมงาน-ออกแบบสะพานมรณะถล่ม)
อ่านประกอบ :
อ.ก.พ.มหาดไทย รับคำค้านพ่อเหยื่อสะพาน200ปี สั่งสอบวินัยร้ายแรง'วิศวกร'
จ.อยุธยาตั้ง กก.สอบ'นายกเทศมนตรีท่าหลวง'ปมสะพาน 200 ปีถล่มแล้ว
เปิดชื่อ-พฤติการณ์คดีสะพาน 200 ปีถล่ม! ซ่อม 4 ครั้งไม่ตรวจให้ดีก่อน
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯลุยสอบปมสะพาน 200 ปีถล่ม! วิศวกรออกแบบเผ่น-แจ้งคำสั่งไม่ได้
ตามไม่เจอ! 'วิศวฯออกแบบ' สะพานฯ200ปีอยุธยาถล่ม-หลังป.ป.ช.ตั้งกก.สอบ
‘ไล่ออก’สถานเดียว! พ่อเหยื่อสะพานถล่มจ้างทนายสู้ไม่แก้ไขโทษเจอ ม.157
ผู้ว่าฯอยุธยาเซ็นปลดวิศวกรสร้างสะพานฯ 200 ปีถล่ม-ตัดเงินเดือน กก.ตรวจรับฯ
ยื่นครั้งสุดท้าย! เหยื่อสะพาน 200 ปีถล่มขอผู้ว่าลงโทษไล่'วิศวกร'ออก
ใช้ 9 เดือนซ่อม 4 ครั้ง! กก.สอบปมสะพาน 200 ปีถล่มยันฝีมือ"เอกชน"
กรมโยธาฯยังยัน'วิศวกร'สะพาน200ปีถล่มโทษแค่ลดเงินเดือน-ป.ป.ช.รุดสอบแล้ว
ตร.ส่งคดีสะพาน 200 ปีถล่มฯให้อัยการฟ้อง-"วิศวกร"รู้โดนสาวถึง รีบชิ่งหนี
"วิศวกร"สร้างสะพาน 200 ปีถล่มหนีแล้ว! ตร.ออกหมายจับพบปลอมเอกสารด้วย
รายชื่อ 17 นักการเมือง-ขรก.ในผลสอบคดีสะพานฯ 200 ปี อยุธยา ถล่ม!
เปิดเอกสารมัดสัมพันธ์ลึก "เอกชน-วิศวกร" สะพานฯถล่ม ไฉนคดีทุจริตไม่คืบหน้า!
มีคนตายถูกลงโทษแค่ตัดเงินเดือน! พ่อเหยื่อสะพานฯ200ปีถล่ม โวยให้ไล่ออก
เปิดหนังสือ"ดีเอสไอ"ตอบพ่อเหยื่อสะพาน200 ปีถล่ม ลุยล่าตัวผู้กระทำผิดแน่!