เปิดชื่อ-พฤติการณ์คดีสะพาน 200 ปีถล่ม! ซ่อม 4 ครั้งไม่ตรวจให้ดีก่อน

เขียนวันที่

วันอังคาร ที่ 26 มกราคม 2559 เวลา 14:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ตรวจสอบท้องถิ่น

Tags

เทศบาลตำบลท่าหลวง | เหตุการณ์สะพาน 200 ปี ถล่ม | พระนครศรีอยุธยา | ป.ป.ช. สอบ

"ในระหว่างรับประกันสัญญา สะพานดังกล่าวเกิดการเอียงตัว เทศบาล ฯ จึงได้แจ้งผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 ให้เข้ามาซ่อมแซมสะพานรวม 4 ครั้ง ซึ่งการซ่อมแซมรั้งที่ 1-3 ใช้วิธีการปรับสลิงแนวดิ่งด้านข้างทั้ง 2 ข้าง โดย ไม่มีการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง และไม่มีการตรวจสอบและปรับลดลวดสลิงในเเนวนอน"

240159 ayuthya 0

หลายคนอาจจะทราบกันไปแล้วว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีเหตุการณ์สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เทศบาลตำบลท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พังถล่ม เมื่อกลางปี 2556 ไปแล้ว โดยมีผู้ถูกกล่าวหาคือ นายกเทศมนตรีท่าหลวง กับพวกรวม 16 ราย

เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่า การก่อสร้างดังกล่าวใช้วัสดุก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน และก่อสร้างผิดแบบแปลนที่กำหนด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก หลังจากเปิดใช้สะพาน มีการซ่อมแซมถึง 4 ครั้ง

ขณะเดียวกันสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งคำสั่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนให้กับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 16 ราย ไปแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่สามารถส่งให้กับนายวรพจน์ นุชิต วิศวกรผู้ออกแบบสะพานดังกล่าวได้ และนายวรพจน์ ยังถูก สภ.ท่าเรือ ออกหมายจับตามที่ถูกแจ้งความไว้อีกด้วย

(อ่านประกอบ :ป.ป.ช.ตั้งอนุฯลุยสอบปมสะพาน 200 ปีถล่ม! วิศวกรออกแบบเผ่น-แจ้งคำสั่งไม่ได้)

เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำสาระสำคัญในคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีดังกล่าวมาเสนอ ดังนี้

กรณีนี้มีผู้ถูกกล่าวหา 16 ราย ได้แก่

1.นายเชษฐา ปทุมรังสี นายกเทศมนตร ต.ท่าหลวง
2.นางธนัสพรรณ์ ภู่บำเพ็ญ พยาบาลวิชาชีพ 7 วข
3.นายวรพจน์ นุชิต วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ
4.น.ส.ผ่องศรี แท่นเงิน นักวิชาการประชาสัมพันธ์ 5
5.นายนครินทร์ เลิศชุณหะเกียรติ นิติกร 5
6.นางสุพัทตรา คชประภา ตัวแทนชุมชนวัดสะตือ
7.นางทองดี ทรัพย์สมบุญ ตัวแทนชุมชนวัดสะตือ
8.นายอนุวัติ วิชัยโย วิศวกรโยธาปฏิบัติการ
9.นายสันติธรรม สีนวนสกุลณี วิศวกรโยธา 6 ว
10.นายพิลึก ชัชวงษ์ รองปลัดเทศบาล ต.ท่าหลวง
11.น.ส.กานต์พิชชา งามภัก เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน
12.นายรชต ชาติพรหม ผอ.กองช่าง
13.นายมานพ ธูปทอง นายช่างโยธาชำนาญงาน
14.นายชาญ คงชาตรี ผู้แทนชุมชน
15.นางศิริพร หวังศิรกร ผู้แทนชุมชน
16.บริษัท ดีไนซ์ (2009) จำกัด หรือ บริษัท ที.เอ็ม.ไอ.ดริลแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด

ระบุพฤติการณ์ในการกระทำผิด ดังนี้

เทศบาล ต.ท่าหลวง ได้มีคำสั่ง ที่ 128/2553 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 53 แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) โครงการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ประกอบด้วย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2-7 ต่อมา เทศบาล ฯ มีคำสั่ง ที่ 176/2553 ลงวันที่ 17 ส.ค. 53 และคำสั่งที่ 97/2554 แต่งตั้งผู้ควบคุมงาน ประกอบด้วย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8-9 และคณะกรรมการตรวจการจ้าง ประกอบด้วย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10-15 ต่อมา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2-7 ได้พิาจารณาให้มีผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเสนอราคา จำนวน 11 ราย รวมทั้ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 ซึ่งไม่มีคุณสมบัติ เนื่องจาก ไม่มีผลงานตามประกาศประมูลจ้างโดยมี นายวรวุฒิ นุชิต น้องชายของผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เป็นผู้มารับแบบการประมูลครั้งนี้

และผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในฐานะนายกเทศมนตรี ต.ท่าหลวง ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการดำเนินการประมูลจ้าง ฯ ลงวันที่ 11 ต.ค. 53 เรื่อง รายชื่อผู้ค้าที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเสนอราคา โดย มีรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 เป็นผู้ผ่านการคัดเลือก และต่อมา เป็นผู้ชนะการประมูลราคา

ระหว่างดำเนินงานก่อสร้าง งานงวดที่ 3 (ติดตั้ง Main Cable) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 ได้มีหนังสือ ที่ 0026/2554 ลงวันที่ 1 มิ.ย. 54 ขอหารือกรณีความขัดแย้งของแบบการก่อสร้างที่กำหนดให้ใช้ลวดเหล็กตีเกลียว 7 เกลียว ระหว่าง 22 เส้นกับ 12 เส้น แต่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8-9 ไม่บันทึกรายงานคณะกรรมการตรวจการจ้างตามอำนาจหน้าที่ กลับดำเนินการด้วยตนเอง โดยหารือกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ในฐานะผู้ออกแบบ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ระบุว่า "ตามแบบมีความคลาดคลื่อน จำนวนต่อท่อที่ถูกต้องให้ดูตามแบบขยาย คือ 12 เส้น"

ต่อมา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 ได้มีหนังสือ ที่ 0028/2554 ลงวันที่ 2 ก.ค. 54 ถึงช่างผู้ควบคุมงานก่อสร้างสะพาน ฯ ระบุตามแบบแนบท้ายสัญญาว่า ให้ใช้ลวดสลิงชนิดตีเกลียว 7 เกลียว จำนวน 12 เส้นต่อ 1 เส้นท่อ วัสดุดังกล่าวขาดแคลนในท้องตลาด หากจะใช้ต้องใช้เวลาสั่งของเป็นเวลานาน จึงขออนุมัติใช้เป็นลวดเหล็กตีเกลียวชนิด 6 เกลียว 14 เส้นต่อ 1 เส้นท่อ แต่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8-9 ไม่ทำบันทึกรายงานคณะกรรมการตรวจการจ้างตามอำนาจหน้าที่ กลับดำเนินการด้วยตนเอง โดยหาือกับผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ในฐานะผู้ออกแบบ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ระบุว่า "หากรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดก็สามารถใช้งานทดแทนได้"

ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8-9 จึงได้แจ้งผุ้ถูกกล่าวหาที่ 16 ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแบบลวดสลิงได้ โดยคณะกรรมการตรวจการจ้างไม่ได้ให้ความเห็นชอบ และนายก ฯ ต.ท่าหลวง ไม่ได้อนุมัติการแก้ไขแบบรูปแนบท้ายสัญญา และทำบันทึกข้อตกลงกับผู้รับจ้าง เพื่อปรับลดวงเงินค่าจ้าง ตามปริมาณงานที่เปลี่ยนแปลงไป ต่อมา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8-9 ได้รายงานรับรองผลการดำเนินการในงวดที่ 3 ของผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 ต่อประธานกรรมการตรวจการจ้างว่า งานก่อสร้างเป็นไปตามรูปแแบบแปลนแผนผังและรายการประกอบแบบแนบท้ายสัญญทกประการ และผู้ถูกกล่าวหาที่ 10-15 ได้ทำการตรวจรับจ้างว่า เป็นที่ถูกต้องเรียบร้อยตามใบตรวจรับงานจ้างเหมา ลงวันที่ 20 ธ.ค. 54 ทั้ง ๆ ที่เป็นความเท็จ และผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้อนุมัติให้เบิกจ่ายเงินตามโครงการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ในงวดที่ 3 ให้แกผู้ถูกกล่าวหาที่ 16

หลักจากนั้นประมาณเดือน ธ.ค. 55 ในระหว่างรับประกันสัญญา สะพานดังกล่าวเกิดการเอียงตัว เทศบาล ฯ จึงได้แจ้งผู้ถูกกล่าวหาที่ 16 ให้เข้ามาซ่อมแซมสะพานรวม 4 ครั้ง ซึ่งการซ่อมแซมรั้งที่ 1-3 ใช้วิธีการปรับสลิงแนวดิ่งด้านข้างทั้ง 2 ข้าง โดย ไม่มีการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง และไม่มีการตรวจสอบและปรับลดลวดสลิงในเเนวนอน อีกทั้ง ภายหลังการปรับดึงลวดสลิงเสร็จเเล้ว ก็ไม่มีการตรวจสอบน้ำหนักแบกรับของลวดสลิงแต่ละเส้นว่า เป็นไปตามแบบหรือไม่ และครั้งที่ 4 เทศบาล ฯ มีหนังสือ ที่ อย 62402/1004 แจ้งให้เขามาซ่อมเเซม เนื่องจากสะพานมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดย Main Cable ทางด้านซ้ายและขวามีระดับไม่เท่ากัน ทำให้พื้นสะพานเอียง

โดยระหว่างที่แจ้งให้เข้ามาซ่อมแซมนั้น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มิได้กระทำการใด ๆ เพื่อป้องกันเหตุ กลับปล่อยปละละเลยจนเกิดเหตุการณ์สะพานพังถล่ม ทำให้มีเสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 13 ราย

240159 ayuthya 3