ตลท.ยังห้ามซื้อขายหลักทรัพย์‘โพลาริส’ หลังแจงปมยื่นฟื้นฟูกิจการไม่ตรงข้อเท็จจริง
ตลท. ยังขึ้น SP ห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ POLAR หลังแจงปมยื่นเงียบฟื้นฟูกิจการไม่ตรงตามข้อเท็จจริงที่แจ้ง ตลท. สั่งแจงใหม่ แต่ยังไม่ดำเนินการตามเส้นตาย 21 มิ.ย. 60 ยังไม่ยอมตั้งผู้สอบบัญชีพิเศษด้วย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งผลการดำเนินการของบริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ระบุว่า ตามที่ ตลท. หยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ (SP-Suspension) ของ POLAR เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ภายในระยะเวลาที่กำหนด และขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) เนื่องจากบริษัทมีกรรมการตรวจสอบไม่ครบถ้วนตามที่ ตลท. กำหนด
ต่อมา ตลท. ขอให้ POLAR ชี้แจงกรณียื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2560 เนื่องจากมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขณะที่งบการเงินประจำปี 2559 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดที่ POLAR นำส่งต่อ ตลท. เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2560 มีหนี้สินรวม 465 ล้านาท และมีส่วนผู้ถือหุ้น 4,580 ล้านบาท ซึ่งการฟื้นฟูกิจการผ่านศาล จะส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่ง POLAR ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวไปแล้ว
แต่คำชี้แจงของ POLAR มีข้อเท็จจริงไม่สอดคล้องกันและไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่ POLAR เคยแจ้งต่อ ตลท. ดังนั้น ตลท. จึงให้ POLAR ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมภายในวันที่ 21 มิ.ย. 2560 (จนถึงปัจจุบัน POLAR ยังไม่ได้ชี้แจงแต่อย่างใด) ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2560 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) สั่งให้ POLAR จัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) เกี่ยวกับที่มา ความมีอยู่จริง ความครบถ้วนในการบันทึกบัญชี และการเปิดเผยข้อมูลหนี้สินที่ POLAR แจ้งไว้ในคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากข้อมูลหนี้สินที่ POLAR เปิดเผยในงบการเงินแตกต่างจากคำร้องขอฟื้นฟูกิจการอย่างมีนัยสำคัญ หากข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนได้ โดยให้ส่งผลการตรวจสอบต่อสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลผ่านสารสนเทศของ ตลท. ภายใน 30 วัน
ดังนั้น ตลท. จึงยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP หลักทรัพย์ POLAR ต่อไป จนกว่าจะนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2560 และผลการทำ Special Audit และคำชี้แจงตามที่ ตลท. สอบถามได้ครบถว้นและชัดเจน เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญที่กระทบต่อฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานของ POLAR รวมทั้งเป็นสารสนเทศสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน (อ่านรายละเอียด ที่นี่)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า POLAR อ้างว่า มีหนี้สินจากกรณีที่ศาลฎีกา พิพากษาในคดีฟื้นฟูกิจการ คดีที่บริษัท นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อเดิมของ POLAR) ได้เคยยื่นขอฟื้นฟูกิจการไว้ โดยศาลฎีกาพิพากษาว่า ไม่เห็นชอบด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และมีคำสั่งยกเลิกให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ผลจากคำพิพากษาดังกล่าว ทำให้บริษัทยังคงมีหนี้สินเดิม 546 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2548 เป็นเงิน 1,634 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเจ้าหนี้ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีก 3 ราย รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 5.7 พันล้านบาท
ส่วนเหตุผลที่ POLAR ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลกรณีนี้ผ่านระบบสารสนเทศ ตลท. เนื่องจาก POLAR ยังมีความไม่แน่นอนในกระบวนการฟื้นฟูกิจการว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นประการใด ซึ่งกรณีนี้ ตลท. เห็นว่า ตามข้อกำหนดของ ตลท. ว่าด้วยเรื่องแนวทางการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนหรือเจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ดังนั้นการที่ POLAR ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลาย เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2560 โดยไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว จึงถือว่าเป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์
ก.ล.ต.สั่ง‘โพลาริส’ตั้งผู้สอบบัญชีพิเศษหลังยื่นเงียบฟื้นฟูกิจการ โชว์หนี้ 5.7 พันล.
คำร้องมีรายละเอียดมาก! โพลาริส ขอตลท.เลื่อนแจงเหตุยื่นเงียบฟื้นฟูกิจการ12 มิ.ย.นี้
สินทรัพย์5พันล.ยื่นเงียบฟื้นฟูกิจการ! ตลท.สั่งโพลาริสแจงเหตุผล
เปิดไส้ในงบปี59 โพลาริส ก่อนตลท.มึน!สั่งแจงเหตุยื่นเงียบฟื้นฟูกิจการ-พิสูจน์น้ำยา กลต.