ขมวดคดีทุจริตห้องเย็น ทร. 39.9 ล. 5 ปียังเรียกเงินคืนไม่ได้ ‘นาย’รอด-ลูกน้องร่วง
ขมวดชัด ๆ มหากาพย์คดีทุจริตห้องเย็น บาดแผล ทร. 39.9 ล. เหตุปี 50-52 เอาผิด ขรก. ระดับล่าง-กลาง 14 คน ยังเรียกเงินคืนไม่ได้สักบาท อยู่ในศาลปกครอง 12 คดี ยกคำร้อง 1 - ศาลแพ่งตัดสินชนะ 1 - ป.ป.ช.ไต่สวน 1 คดีตั้งแต่ปี 55 กล่าวหา 3 คน ลูกน้องร้องไม่เป็นธรรม ‘นายเอาตัวรอด’ รอศาล ปค.สูงสุดชี้ขาด
กรณีคณะกรรมการสวัสดิการสัตหีบ กองทัพเรือ ได้ให้เอกชนคือร้านของรองผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เข้ามาบริหารกิจการห้องเย็นสวัสดิการสัตหีบ ตั้งแต่ปลายปี 2549-2550 จนเกิดความเสียหาย 39.9 ล้านบาท ต่อมากองทัพเรือได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาผู้รับผิดชอบในความผิดทางละเมิดชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 14 ราย และ เอาผิดกับบุคคลที่ผิดวินัยอย่างร้ายแรงเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่และกล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 2 นายทหาร รวมเอกชน 1 ราย เป็น 3 ราย และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกับเอกชน ตามข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรารายงานก่อนหน้านี้
การบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดในกรณีนี้ มีความซับซ้อน ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปความคืบหน้าในแต่ละกรณีดังนี้
1.กรณีความรับผิดทางละเมิด ให้ผู้เกี่ยวข้องชดใชค่าเสียหาย
กองทัพเรือมีคำสั่งให้ข้าราชการ จำนวน 14 ราย ชดใช้ค่าเสียหาย ตามความเห็นของ กรมบัญชีกลาง (สำนักความรับผิดทางแพ่ง) กระทรวงการคลัง เมื่อ 11 มี.ค.2556 ( ขณะที่ผลสอบสวนของ สำนักงานพระธรรมนูญทหารเรือ -สธน.ทร. มีความเห็นก่อนหน้าว่า มีผู้ต้องรับผิดเพียงแค่ 6 ราย) ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แบ่ง ออกเป็น 2 กลุ่ม
1.1 กลุ่มที่ผู้กระทำโดยจงใจให้ทางราชการได้รับความเสียหาย 3 คน
พล.ร.ต.ธงชัย ใจเย็น (ต่อมา พล.ร.ท.) ผู้จัดการกิจการห้องเย็น เดือน พ.ย.2548 ถึงวันที่ 30 ก.ย.50 รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 20 ของความเสียหาย 39,979,317.15 บาท คิดเป็น 7,995,863.43 บาท ( ร้อยละ 20 ของความเสียหาย 39,979,317.15 บาท)
พล.ร.ต.สุรชัย โภคามาศ ผู้จัดการกิจการห้องเย็น ระหว่าง 1 ต.ค.50- 30 ก.ย.52 รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 15,991,726.86 บาท
น.ต.พุทธิวัฒน์ สุขะวรรณทัศน์ หัวหน้าฝ่ายจัดส่งเสบียง 15,991,726.86 บาท
(สองคนหลังรับผิดชอบในอัตราร้อยละ 80 ของความเสียหายจำนวน 39,979,317.15 บาท คิดเป็นเงิน 31,983,453.72 บาท)
1.2 กลุ่มที่กระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จำนวน 8 คน
น.ท.วัลลภ มูซอ หัวหน้าการเงินกิจการห้องเย็นสวัสดิการสัตหีบ รับผิดชอบค่าเสียหาย 4,997,414.64 บาท
น.ต.อรุณ โกมลฤทธิ์ เจ้าหน้าที่จัดซื้อ น.ท.สมยศ หยวกขาว น.ต.เรวัต พวงไสว ร.อ.วีระพันธ์ เงิน มาก คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ (รวม 4 คน) รับผิดชอบค่าเสียหาย 3,997,931.71 บาท
ร.อ.หญิง วัชรี ดาวกลาง ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายจัดส่งเสบียง รับผิดชอบค่าเสียหาย 999,482.93 บาท หัวหน้าคลัง รับผิดชอบค่าเสียหาย 1,998,965.86 บาท
น.อ.เสริมเกียรติ จันทรสอาด (ต่อมา พล.ร.ต.) ผู้ช่วยผู้จัดการกิจการห้องเย็นฯ รับผิดชอบค่าเสียหาย 1,998,965.86 บาท
น.อ.สานนท์ ผะเอม (พล.ร.ท.)ในฐานะผู้ตรวจสอบเอกสารการขอรับเงินค่าเสบียงของกิจการห้องเย็นและเป็นผู้เสนอเห็นควรอนุมัติจ่ายเงินให้กิจการห้องเย็นตามที่กรรมการและเหรัญญิกเสนอ เพื่อให้ครบขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินให้กับร้าน KO รับผิดชอบค่าเสียหาย ในอัตราร้อยละ 10 ของความเสียหายที่กิจการห้องเย็นขอเบิกเงินเพื่อจ่ายเป็นค่าเสบียงให้แก่ร้าน KO
น.อ.ประทีป พงษ์ศิริเวชน์ ในฐานะผู้ตรวจสอบและเสนออนุมัติเบิกเงินให้แก่ร้าน KO ว่าตรวจสอบถูกต้องแล้วโปรดอนุมัติจ่ายเงิน เพื่อให้ครบขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินให้กับร้าน KO รับผิดชอบค่าเสียหาย ในอัตราร้อยละ 10 ของความเสียหายที่กิจการห้องเย็นขอเบิกเงินเพื่อจ่ายเป็นค่าเสบียงให้แก่ร้าน KO
พล.ร.อ.ศรีวิสุทธิ์ รตารุณ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ร้อยละ 10 ของของความเสียหายตามจำนวนเงินที่ พล.ร.อ.ศรีวิสุทธิ์อนุมัติจ่ายให้แก่กจการห้องเย็นเพื่อจ่ายเป็นค่าเสบียงที่จ่ายให้เอกชน
กองทัพเรือแจ้งคำสั่งทางปกครองให้บุคคลทั้ง 14 ชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อ 29 เมษายน 2556 และให้สิทธิโต้แย้งคำสั่งและยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง
ทั้ง 14 คนยื่นโต้แย้งคำสั่งต่อกองทัพเรือ ( 1 คนคือ พล.ร.ต.สุรชัยยื่นคัดค้านช้ากว่าคนอื่น)
13 คนยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง (ยกเว้น พล.ร.ต.สุรชัย) ขอให้เพิกถอนคำสั่งของกองทัพเรือ (ทร.)
ในจำนวนนี้ 11 คน ยื่นฟ้องต่อศาลปครองระยอง และ 2 คน คือ พล.ร.อ.ศรีวิสุทธิ์ รตารุณ พล.ร.ท.สานนท์ ผะเอม ยื่นปกครองกลาง
สถานะของคดี
ศาลปกครองระยอง ตัดสินแล้ว 10 คดี
ยกคำร้อง 9 คดี ได้แก่ คดี น.อ.สมยศ หยวกขาว ,น.ท.เรวัต พวงไสว , น.ท.วัลลภ มูซอ ,น.ท.พุทธิวัฒน์ สุขะวรรณทัศน์,น.ต.อรุณ โกมลฤทธิ์ ,น.ต.หญิง วัชรี ดาวกลาง ,ร.อ.วีระพันธ์ เงินมาก , พล.ร.ต.เสริมเกียรติ จันทรสอาด และ น.อ.ประทีป พงษ์ศิริเวชน์ ทั้ง 9 คนได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ขณะนี้ยังไม่มีคำพิพากษา
ศาลปกครองยกฟ้อง 1 คดี คือ คดีพล.ร.ต.ธงชัย ใจเย็น อดีตผู้จัดการห้องเย็นฯ ในช่วงปี 2548-2550 ศาลปกครองระยอง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2558 เพิกถอนคำสั่งของ ผบ.ทร.ที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 7,995,863.43 บาท โดยระบุว่า พล.ร.ต.ธงชัยพ้นตำแหน่งไปก่อนจะเกิดความเสียหาย แม้ว่าขณะอยู่ในตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง แต่ได้เงินจากเอกชนครบถ้วน ไม่เกิดความเสียหาย
คดีที่ศาลปกครองยังไม่ได้ตัดสิน 3 คดี คือ คดี พล.ร.อ.ศรีวิสุทธิ์ รตารุณ (ศาลปกครองกลาง) พล.ร.ท.สานนท์ ผะเอม (ศาลปกครองกลาง) และ น.ท.ณรงค์ชัย งามดี (ศาลปกครองระยอง)
ส่วนกรณี พล.ร.ต.สุรชัย โภคามาศ อดีตผู้จัดการห้องเย็นช่วงปี 2550-2552 เป็นรายเดียวที่มิได้ยื่นฟ้องศาลปกครอง และถูก ป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตด้วย
2.กรณีการเอาผิดกับข้าราชการที่กองทัพเรือเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
กองทัพเรือกล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิด พล.ร.ต.สุรชัย โภคามาศ ผู้จัดการกิจการห้องเย็น 1 ต.ค.50- 30 ก.ย.52 น.ต.พุทธิวัฒน์ สุขะวรรณทัศน์ หัวหน้าฝ่ายจัดส่งเสบียง นางอังคณา แสงพ็ชร หรือ อุณหกะ เจ้าของร้าน KO หรือ KO ผักสด รวม 3 ราย ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตทำให้กิจการห้องเย็นได้รับเสียหาย 39,979,317.15 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เมื่อ 26 มิ.ย.2555 มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2555 ให้ นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ รวม 5 คน
ต่อมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุม ครั้งที่ 739 – 13/2559 เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2559 มีมติให้ปรับเปลี่ยนอนุกรรมการไต่สวน นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ พล.อ. อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ อนุกรรมการ นายสมชาย ลือเรืองสุวรรณ์ อนุกรรมการ นายไชยยันต์ ลิ้มกาญจนาพันธุ์ อนุกรรมการและเลขานุการ นายทศพร พิทักษ์รัตนพงศ์ อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นายวีรยุทธ ไพศาลสถาน อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบและแจ้งความประสงค์คัดค้าน เมื่อ วันที่ 16 มี.ค.2559
ขณะนี้อยู่ระหว่างไตสวน
3.กรณีการเอาผิดกับเอกชน
3.1 การเอาผิดทางแพ่ง
กองทัพเรือ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางอังคณา อุณหกะ หรือ แสงเพ็ชร จำเลย ในคดีที่จำเลยเป็นเจ้าของร้าน K.O. ผักสด เข้าร่วมดำเนินการบริหารกิจการห้องเย็นสวัสดิการสัตหีบ กองทัพเรือ โดยให้กิจการห้องเย็น จ่ายเงินล่วงหน้าไปก่อน เมื่อมีผลกำไรแล้วให้มาชำระคืนภายหลัง ระหว่างเดือน เม.ย.2550-ก.ย.2552 กิจการห้องเย็นได้จ่ายเงินให้แก่จำเลยไปแล้ว 13 ครั้ง รวมเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระหนี้ ทั้งสิ้น 39,985,303 บาท ศาลชั้นต้นพิพาษาให้กองทัพเรือชนะคดี ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 44,093,406.23 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 39,985,303 บาท นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 15 กันยายน 2554) เป็นต้นไป จนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืนเมื่อ 27 ก.ย.2559 ให้จำเลยชำระเงิน 44,093,406.23 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 39,985,303 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ (คดีหมายเลขแดงที่ 2083/2559)
ไม่มีข้อมูลว่า นางอังคณา ยื่นฎีกาหรือไม่
3.2 การเอาผิดทางอาญา 2 คดี
คดีแรก 7 พ.ค.2553 พล.ร.ท.ธีรวัฒน์ ศรีถาพร ขณะดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ และประธานกรรมการสวัสดิการสัตหีบ มอบอำนาจให้ พล.ร.ต.ชนินทร์ ชุณหรัชพันธุ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพเรือ และผู้จัดการกิจการห้องเย็นฯ แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนางอังคณา แสงเพ็ชร เจ้าของร้าน KO ในความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็คจำนวน 12 ฉบับ 36,950,053.10 บาท (เช็คเด้ง) เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ขณะนี้ไม่มีข้อมูลผลคดี
และคดีที่สอง กองทัพเรือส่งหลักฐานให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีอาญาร่วมกับ พล.ร.ต.สุรชัย โภคามาศ และ น.ต.พุทธิวัฒน์ สุขะวรรณทัศน์ ซึ่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนเป็นคดีเดียวกับ พล.ร.ต.สุรชัย และ น.ต.พุทธิวัฒน์
สิ่งที่ต้องติดตามความคืบหน้านับจากนี้
1.คำพิพากษาของศาลปกครอง 3 คดี ได้แก่ คดี พล.ร.ท.สานนท์ ผะเอม ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อ 18 ก.ค.2556 พล.ร.อ.ศรีวิสุทธิ์ รตารุณ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อ 14 พ.ย.2556 (ขณะที่คดีบุคคลอื่นยื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยองช่วงใกล้เคียงกัน ศาลได้พิพากษาแล้ว) และคดี น.ท.ณรงค์ชัย งามดี ยื่นฟ้องศาลปกครองระยอง ให้เพิกถอนคำสั่งกองทัพเรือ ทั้ง 3 คดี ยังไม่มีคำพิพากษา
2.ผลการพิจารณาคดีในศาลปครองสูงสุด จำนวน 9 คดี ตามที่ทั้ง 9 คนได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ประเด็นหลักในการต่อสู้คดีคือ การให้เอกชนเข้าร่วมกิจการห้องเย็นเมื่อปลายปี 2549 เป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชาชั้นสูงใน ทร. ผ่านคณะกรรมการสวัสดิการสัตหีบ ที่ พล.ร.ต.ธงชัย ใจเย็น ผู้จัดการห้องเย็น ในขณะนั้น และ พล.ร.ต.สุรชัย โภคามาศ ผู้จัดการคนต่อมา รับมาปฏิบัติ โดยเป็นมติของคณะกรรมการสวัสดิการสัตหีบ และคณะกรรมการฯรับทราบมาตลอด และมีการรายงานให้ทราบ ครั้นเกิดความเสียหาย ผู้บังคับบัญชาเอาตัวรอด โยนความผิดให้ผู้ปฏิบัติในระดับล่าง แต่คณะกรรมการสวัสดิการฯขณะนั้น ไม่ต้องรับผิด ตามที่ น.ท.วัลลภ มูซอ หัวหน้าฝ่ายการเงิน กิจการห้องเย็น ร้องเรียนว่า รู้สึกเจ็บปวด เวลาทำงาน ถูกใช้อย่างหมูหมา เมื่อเกิดความเสียหาย ถูกให้ต้องรับผิดแทนผู้บังคับบัญชา
กรณีของ น.ท.พุทธิวัฒน์ สุขะวรรณทัศน์ หัวหน้าจัดส่งเสบียง ผู้ถูกคำสั่งให้ชดใช้ 15.9 ล้านบาท ได้อ้างอิงรายงานการประชุมคณะกรรมการสวัสดิการสัตหีบ ครั้งที่ 12/2549 เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2549 ระบุว่า คณะกรรมการสวัสดิการสัตหีบเห็นชอบให้ร้าน KO เข้ามาร่วมธุรกิจกับกิจการห้องเย็นจนนำมาสู่ปัญหาความเสียหาย และระบุถึงหลักฐานชิ้นสำคัญคือเทปบันทึกรายงานการประชุมลับของคณะกรรมการสวัสดิการสัตหีบที่ถูกปกปิด น.ท.พุทธิวัฒน์ ได้พยายามติดต่อขอจาก พล.ร.ท.สานนท์ ผะเอม เลขานุการ คณะกรรมการสวัสดิการสัตหีบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีแต่ถูกปฏิเสธ และ น.ท.พุทธิวัฒน์ได้อ้างอิงพยาน และบันทึกรายงานการประชุมอีกหลายครั้งที่ระบุว่า น.ท.พุทธิวัฒน์เป็นคนเสนอให้เรียกเก็บเช็คช่วงหน้าจากเอกชน และรายงานการประชุมที่ระบุว่าคณะกรรมการสวัสดิการกิจการสัตหีบรับรู้รับทราบปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด จำนวน 12 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2549-2552 ได้แก่ รายงานการประชุม คณะกรรมการสวัสดิการกิจการสัตหีบ ครั้งที่ 12/2549 ,ครั้งที่ 2/2550, ครั้งที่ 3/2550, ครั้งที่ 6/2550,ครั้งที่ 9/2550, ครั้งที่ 3/2551,ครั้งที่ 4/2551,ครั้งที่ 5/2551,ครั้งที่ 6/2551,ครั้งที่ 7/2551 ,ครั้งที่ 11/2552 และ ครั้งที่ 12/2552
และ 3. ผลสรุปการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช.
นับตั้งแต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวน เมื่อปี 2555 ผ่านมาแล้วกว่า 5 ปี ยังไม่มีการเรียกผู้ถูกกล่าวโทษทั้ง 3 ราย มาแจ้งข้อกล่าวหา
สรุป
ภายหลังจากกองทัพเรือเอาผิดทางละเมิดสั่งให้ข้าราชการ 14 คน ชดใช้ค่าเสียหาย 39.9 ล้านบาท แม้ว่าศาลปกครองระยองพิพากษาให้กองทัพเรือชนะคดีจำนวน 9 คดี แต่มีการอุทธรณ์ คดียังไม่สิ้นสุด ก็ยังเรียกเงินคืนไม่ได้ เช่นเดียวกันการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายจากเอกชนที่แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้กองทัพเรือชนะคดีก็เช่นเดียวกัน การดำเนินคดีวินัยร้ายแรงและอาญานั้นเรื่องยังไม่ถึงศาล ณ เวลานี้ในทางปฏิบัติ ยังไม่มีใครถูกไล่ออกจากราชการและยังไม่มีใครติดคุก
นี่คือมหากาพย์ ตำนานอื้อฉาว กรณีทุจริตห้องเย็น เป็นบทเรียนชั้นดีให้ผู้เกี่ยวข้องได้เรียนรู้ทบทวน
อ่านประกอบ:
เปิดข้อต่อสู้คดีทุจริต 39.9 ล. ทร. น.ท.เล่าพาลูกไปบ้าน พล.ร.ท. ขอเทปลับ
พล.ร.ท.กุมเทปลับนาย! น.ท.- 9 ทหารยื่นอุทธรณ์คดีห้องเย็น ทร. 39.9 ล.
คำพิพากษา พล.ร.ต. ต้องชดใช้ 1.9 ล.คดีห้องเย็น ทร.เสียหาย 39.9 ล.
หนังสือ 'พล.ร.ต.' แย้งคำสั่ง ทร.ชดใช้ 15.9 ล. ซัด ‘นายสั่ง’-กก.เห็นชอบทุกเรื่อง
ทร.ยัน‘พล.ร.ต.สุรชัย’จำยอมชดใช้ 15.9 ล.คดีทุจริตห้องเย็น-หาช่องยึดทรัพย์
เผยชื่อครบ13 นายทหารฟ้องศาลเพิกถอนคำสั่ง ผบ.ทร.คดีทุจริตห้องเย็น39.9 ล.
คำพิพากษา พล.ร.ท.ไม่ต้องชดใช้ 7.9 ล. ทร.!ทำผิดระเบียบ-ได้เงินครบ-ไม่เสียหาย
ศาลปกครองเพิกถอน คำสั่ง ทร.! พล.ร.ท.ไม่ต้องชดใช้ 7.9 ล. คดีทุจริตห้องเย็น
เปิดชื่อ กก.ไต่สวน พล.ร.ต.-เมียนายพล ทุจริตห้องเย็น ทร.- พล.อ.อกนิษฐ์ ด้วย
น.ท.ร้อง 5 ปีไม่คืบ!คดีทุจริตห้องเย็น ทร. 39.9 ล.-ป.ป.ช.เปลี่ยน กก.สอบชุดสอง
เปิดคำพิพากษา!เมียนายพลชดใช้ 44 ล.ร่วมกิจการ ทร.-พล.ร.ท.ชวนเข้าหุ้น
ศาลอุทธรณ์ยืนสั่ง ‘เมีย’นายพล ชดใช้เงิน 44 ล.ปมร่วมกิจการห้องเย็นฯทัพเรือ
ไทม์ไลน์!มหากาพย์ คดีห้องเย็น 39.9 ล. เอื้อเมียนายพล-เชือด พล.ร.อ. 14 ทหาร