เปิดคำพิพากษา เหตุขสมก.ไม่เซ็นรับรถเมล์เอ็นจีวี
สำนักข่าวอิศรา เปิดคำชี้แจง ก่อนศาลปกครอง สั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ขสมก.ตรวจรับรถเมล์ ผู้ถูกฟ้องคดี ขสมก.ยันเบสท์รินส่งมอบรถ ไม่ตรงตามสัญญาซื้อขาย-รอผลพิจารณาจากกรมศุลฯ ถึงแหล่งกำเนิดสินค้าให้เป็นที่ยุติก่อน
จากกรณีที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ดำเนินการตรวจรับรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ(เอ็นจีวี)ของบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด นั้น
ในคำพิพากษาคดีเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองนี้ เนื้อหาสาระที่ผู้แทน ขสมก.เข้าชี้แจงต่อศาลปกครอง มีความน่าสนใจ สำนักข่าวอิศรา นำมาเสนอ
ผู้แทน ขสมก.ชี้แจงว่า ขสมก.ได้ทำสัญญาซื้อขายรถยนต์โดยสารจากเบสท์ริน ซึ่งใน TOR ไม่ได้จำกัดว่า จะต้องนำรถมาจากประเทศใด เพียงแต่ต้องมีคุณสมบัติที่กำหนดไว้ใน TOR (ร่างขอบเขตงาน (Term of reference : TOR ))ซึ่งเบสท์รินได้เสนอในครั้งแรกว่า รถยนต์โดยสารดังกล่าวผลิตที่ประเทศจีน และประกอบในประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ ขสมก.ไม่ทราบว่า รถยนต์โดยสารดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดอยู่ประเทศใด จึงอาจขัดต่อข้อ 2.1 ของสัญญา อีกทั้งกรมศุลกากรยังไม่ได้ยืนยันว่า รถยนต์โดยสารดังกล่าว มีแหล่งกำเนิดในประเทศมาเลเซียหรือไม่ หากกรมศุลกากรยืนยันเมื่อใด ขสมก.ก็อาจตรวจรับมอบรถยนต์โดยสารดังกล่าว ดังนั้น ในขณะนี้ ขสมก.จึงต้องชะลอการตรวจรับมอบรถยนต์โดยสารของเบสท์ริน
ขสมก.ยื่นคำชี้แจงและคัดค้านคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 ความว่า
เบสท์รินมิได้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ตามสัญญาเลขที่ ร.50/2559 ลงวันที่ 30 กันยายน 2559 โดยมิได้ส่งมอบรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ตามแผนการส่งมอบที่เบสท์รินทราบจำนวน 489 คัน เมื่อการนำเข้ารถยนต์โดยสารปรับอากาศฯ ที่เบสท์รินส่งมอบให้แก่ขสมก.ตรวจรับรถมีปัญหาเรื่องแหล่งประกอบรถยนต์โดยสารว่า ประกอบที่ประเทศจีน หรือประกอบ ณ โรงงาน R&A Commercial Vehicles SDN BHD ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งสาระสำคัญในสัญญาข้อ 2.1 ขสมก.ในฐานะหน่วยงานของรัฐต้องหารือประเด็นดังกล่าวต่อสำนักงานอัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดได้ตอบข้อหารือว่า
เมื่อคู่สัญญาทำสัญญาต่อกันแล้ว จึงต้องปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่กำหนดให้รถยนต์โดยสารที่ประกอบในประเทศมาเลเซีย แต่กรมศุลกากรตรวจสอบแล้วพบว่า รถยนต์โดยสารดังกล่าวน่าจะผลิตและประกอบในประเทศจีน ก่อนที่จะขนส่งผ่านประเทศมาเลเซียเข้ามายังประเทศไทย เมื่อยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของรถยนต์โดยสาร จึงให้รอผลการพิจารณาจากกรมศุลกากร ถึงแหล่งกำเนิดรถยนต์โดยสาร จึงให้รอผลการพิจารณาจากกรมศุุลกากรถึงแหล่งกำเนิดของรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติว่า ผลิตและ/หรือประกอบในประเทศใด ให้เป็นที่ยุติเสียก่อน แล้วจึงดำเนินการต่อไป
ซึ่งภายหลังพบว่า แหล่งกำเนิดไม่เป็นไปตามข้อตกลงก็จะเป็นเหตุให้มีการบอกเลิกสัญญา หรือหากปรากฎในชั้นที่สุด เบสท์ริน และ/หรือผู้นำเข้ารถยนต์โดยสารฯไม่ยอมชำระภาษีนำเข้าพร้อมกับค่าปรับ รถยนต์โดยสารดังกล่าวก็จะถูกริบตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ประกอบมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9 ) พ.ศ.2482 อันเกิดความเสียหสยแก่ ขสมก.เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้เบสท์รินขอส่งมอบรถยนต์โดยสารให้แก่ ขสมก.จำนวน 390 คัน ซึ่งไม่ตรงตามสัญญาซื้อขายที่กำหนดให้ส่งมอบรถยนต์โดยสารให้แก่ ขสมก.489 คัน ตามข้อ 7 ขสมก.จึงไม่อาจตรวจรับรถยนต์โดยสารได้ตามข้อ 8 ดังนั้น ขสมก.ไม่ตรวจรับรถยนต์โดยสารที่ส่งมอบบกพร่องตามสัญญา ในข้อ 2.1 ข้อ 7 และข้อ 8 ซึ่งข้อบกพร่องดังกล่าวถือเป็นสาระสำคัญแห่งสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หากขสมก.ตรวจรับรถยนต์โดยสารตามคำร้องของเบสท์ริน ขสมก.อาจกล่าวหาได้ว่า เอื้อประโยชน์ให้แก่คู่สัญญาเป็นเหตุให้ ขสมก.ได้รับความเสียหาย
ในที่สุด ศาลศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ ขสมก.ดำเนินคดีการตรวจรับรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ที่ออกจากอารักขาของศุลกากรแล้วไว้ชั่วคราว ก่อนศาลมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น และภายหลังการดำเนินการตรวจรับรถยนต์โดยสารตามข้อสัญญาอื่นๆ แล้ว ให้ ขสมก.ปฏิบัติตามสัญญาฯ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รักษาการ ผู้อำนวยการ ขสมก. ได้เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการด้านกฎหมายเพื่อพิจารณาแนวทางการเตรียมข้อมูลในการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางแล้ว โดยจะเข้าชี้แจงศาลปกครองสูงสุดภายใน 15 วัน
อ่านประกอบ :
เบสท์ริน แจ้งความสภ.แหลมฉบัง ระบุถูกเติมข้อความในใบขนนำเข้ารถ NGV
เปิดสัญญาซื้อรถเมล์NGV 3พันล.! วัดใจ ขสมก. ลงดาบ'เบสท์รินฯ'ผิดข้อตกลง
ที่แท้!'เบสท์ริน-ซุปเปอร์ซาร่า'กลุ่มเดียวกัน-ไขปริศนายอมจ่ายภาษีรถเมล์NGV 370 ล.
เปิดงบการเงิน'เบสท์ริน-ซุปเปอร์ซาร่า' พอไหมจ่ายค่าปรับ-ภาษีรถเมล์NGV 370 ล.
ผอ.แหลมฉบังเผยเบสท์รินคาดนำรถเมล์291คันออกจากท่าเรือวันที่ 5-6 ม.ค.60
เบสท์ริน ประมูลรถเมล์ชนะคู่แข่ง 700 ล้าน วันนี้จ่ายภาษี-ค่าปรับเฉียด2พันล้าน
ผอ.ศุลกากรฯ แหลมฉบัง เร่งเบสท์รินจ่ายภาษีนำเข้าเมล์ NGV
อ่วม!กรมศุลฯ ชี้ซุปเปอร์ซาร่า นำเข้าเมล์เอ็นจีวี ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม370 ลบ.
ห้ามนำเข้าผิดปท.ยึดสัญญาเป็นหลัก! สตง.ตั้งทีมเกาะติดปัญหารถเมล์ NGV