กฤษฎีกา ยันม.รัฐ ให้บริการเข้าข่ายประกอบวิชาชีพวิศวะ -สถาปัตย์ฯ ไม่ต้องมีใบอนุญาต
กฤษฎีกา ตอบข้อหารือปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมและวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมของสถาบันการศึกษา ยันม.รัฐไม่เข้าข่าย ส่วน ม.เอกชน มีสถานะเป็นนิติบุคคล ต้องอยู่ภายใต้การบังคับแห่งพ.ร.บ.วิศวกรฯ และพ.ร.บ.สถาปนิกฯ
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทำหนังสือถึงนายกสภาวิศวกร ตอบข้อหารือการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกรและกฎหมายว่าด้วยสถาปนิก
ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ขอหารือปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมและวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมของสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานในกำกับของสถาบันการศึกษา
สรุปความได้ว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับแจ้งจากสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกว่า ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกและสมาคมทางวิชาชีพเพื่อขอให้พิจารณาดำเนินคดีกับสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานในกำกับของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเรียกอื่น ซึ่งรับให้บริการทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมอันเข้าข่ายเป็นการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 และวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ.2543 โดยสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานในกำกับของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเรียกอื่นมิได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมจากสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้วเห็นว่า กรณีนี้มีประเด็นทางกฎหมายที่สำคัญและควรได้รับการพิจารณาวินิจฉัยให้เกิดความชัดเจน และเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินงาน จึงเห็นควรเสนอข้อหารือต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 5) ได้พิจารณาข้อหารือดังกล่าว และมีความเห็น
ประเด็นที่หนึ่ง กรณีที่สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานในกำกับของสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเรียกอื่นได้รับให้บริการทางด้านวิศวกรรม หรือสถาปัตยกรรมอันเข้าข่ายเป็นการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติวิศวกรฯ หรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม ตามพระราชบัญญัติสถาปนิกฯ จะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตจากสภาวิศวกรหรือสภาสถาปนิกหรือไม่อย่างไร
คณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า กรณีสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะ สถาบันอุดมศึกษาดังกล่าวมีสถานะเป็นนิติบุคคลมหาชน และมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามที่กฎหมายจัดตั้งกำหนดไว้ภายใต้ขอบวัตถุประสงค์ของสถาบันอุดมศึกษานั้น การที่กฎหมายจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาของรัฐได้กำหนดวัตถุประสงค์ประการหนึ่งเพื่อให้บริการทางวิชาการหรือวิชาชีพแก่สังคม สถาบันอุดมศึกษาจึงย่อมสามารถให้บริการทางวิชาการได้ โดยไม่ต้องดำเนินการยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม แม้ว่าการให้บริการทางวิชาการดังกล่าวจะเข้าข่ายเป็นการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมก็ตาม
ทั้งนี้ การให้บริการทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐควรเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการให้การศึกษา วิจัย และส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง หรือมีหลักสูตรที่กำหนดไว้ในสาขาวิชาที่จัดให้มีการเรียนการสอนในสถาบันอุดมศึกษานั้น
ส่วนกรณีสถาบันอุดมศึกษาเอกชนซึ่งได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 สถาบันอุดมศึกษาดังกล่าวมีสถานะเป็นนิติบุคคลโดยผลของพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชนฯมิได้เป็นนิติบุคคลมหาชนที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะ ดังนั้น หากสถาบันอุดมศึกษาเอกชนมีการให้บริการทางวิชาการที่เข้าข่ายการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม จึงต้องอยู่ภายใต้การบังคับแห่งพระราชบัญญัติวิศวกรฯ และพระราชบัญญัติสถาปนิกฯ ด้วย
ประเด็นที่สอง กรณีสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานในกำกับของสถาบันการศึกษาได้รับดำเนินงานที่เข้าข่ายเป็นการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม และได้มอบหมายให้บุคลากรของสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานในกำกับของสถาบันการศึกษาไปปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นงานประเภท และขนาดที่เข้าข่ายเป็นงานในวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม บุคลากรดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม และต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวิศวกรฯ หรือพระราชบัญญัติสถาปนิกฯ หรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า มาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติวิศวกรฯ และมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติสถาปนิกฯ ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตในสาขานั้น จากสภาวิศวกรหรือสถาปนิก แล้วแต่กรณี อันเป็นการควบคุมเพื่อกลั่นกรองความรู้ความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพ
ประกอบกับกฎหมายการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาของรัฐได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางวิชาการแก่สังคม โดยกำหนดให้เฉพาะสถาบันอุดมศึกษาเท่านั้น ที่มีอำนาจหน้าที่กระทำการภายใต้วัตถุประสงค์ดังกล่าว แต่มิได้เป็นวัตถุประสงค์ในการให้อำนาจประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม หรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม โดยตรงแก่บุคลากรของสถาบันอุดมศึกษา
ดังนั้น บุคลากรของสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในการสั่งการหรือปฏิบัติงานที่เข้าข่ายเป็นงานวิชาชีพวิศวกรรมควบคมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม จึงต้องได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม หรือวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม และต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวิศวกรฯ หรือพระราชบัญญัติสถาปนิกฯ แล้วแต่กรณีด้วย
อ่านประกอบ :
เปิดคำให้การสภาสถาปนิก-วิศวกร กรณีมหาวิทยาลัยรับงาน ไม่มีใบอนุญาตวิชาชีพฯ
สภาวิศวกรทำหนังสือถึงอธิการบดีทุกแห่ง ชะลอรับงานด้านวิชาชีพ หวั่นผิดกฎหมาย
สภาวิศวกรแถลงส่งกฤษฎีกาตีความ ปม สจล.รับงานไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
จาก มช.สู่ สจล. มหาวิทยาลัยรับงานออกแบบ-คุมงานก่อสร้าง ได้หรือไม่?
ระอุ!!ร้องสภาวิศวกร สอบ 'สจล.' รับงานออกแบบเขื่อนกั้นนิคมฯ-แลนด์มาร์คเจ้าพระยา
เปิดกฎหมาย เถียงให้รู้เรื่อง! ทำไม สจล. รับงานแลนด์มาร์คเจ้าพระยา เทียบกับ กฟภ.ไม่ได้
สจล.ยกความเห็นกฤษฎีกาปี 47 เทียบ ยันรับงาน 'แลนด์มาร์คเจ้าพระยา' ได้