โยนหน้าที่ ป.ป.ช.สอบทุจริต! ‘ยรรยง’ อ้างคุ้ยปม‘เสี่ยเปี๋ยง-สยามอินฯ’ไม่ได้
‘ยรรยง พวงราช’ เข้าให้การเป็นพยานต่อศาลฎีกาฯ คดีจำนำข้าว ‘ยิ่งลักษณ์’ ยัน รบ. มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบาย ส่วนการตรวจสอบโยน ป.ป.ช. ทำ อ้างสอบ ‘เสี่ยเปี๋ยง-สยามอินดิก้า’ ไม่ได้เพราะไม่มีชื่อเป็นคู่สัญญาระบายข้าวจีทูจี
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย ในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยมีนายยรรยง พวงราช อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอดีต รมช.พาณิชย์ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นพยานฝ่ายจำเลย
อัยการซักเกี่ยวกับประเด็นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำหนังสือเตือนความไม่โปร่งใส และความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และมี ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน อภิปรายเรื่องความไม่โปร่งใสในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และโครงการรับจำนำข้าวนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีข้อสั่งการอะไรเพื่อแก้ไขกรณีนี้บ้าง
นายยรรยง กล่าวสรุปได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทราบพอสมควร แต่หนังสือขององค์กรอิสระข้างต้น มีความเห็นหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องร้องเรียนของโครงการในอดีต ส่วนการอภิปราย เป็นประเด็นทางการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อเท็จจริงที่ยังไม่ได้กลั่นกรอง และยังไม่มีข้อยุติ เป็นแค่เรื่องของฝ่ายค้านที่ต้องโจมตีนโยบายทางการเมืองของรัฐบาลเป็นหลัก ดังนั้นรัฐบาลต้องตรวจสอบก่อน และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดำเนินการตามหนังสือขององค์กรอิสระเหล่านั้นตามความเหมาะสม และคณะรัฐมนตรีมีมติพิจารณาเรื่องนี้มาโดยตลอดนับตั้งแต่ปี 2554-2557
อัยการซักเกี่ยวกับประเด็นตามหนังสือ ป.ป.ช. กรณีความไม่โปร่งใสในการระบายข้าวจีทูจี โดยมีการระบุชื่อบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง เข้าไปเกี่ยวข้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร มีวิธีการป้องกันการทุจริตอย่างไร
นายยรรยง กล่าวสรุปได้ว่า เรื่องนี้สืบเนื่องจากการอภิปรายในสภา ซึ่งเป็นประเด็นทางการเมือง และมีการเชื่อมโยงทางการเมือง อย่างไรก็ดีในทางปฏิบัติจริง ไม่มีชื่อบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ เข้าไปเกี่ยวข้องในสัญญาระบายข้าวจีทูจีแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้ซื้อ (รัฐวิสาหกิจจีน) เป็นตัวแทนในการซื้อข้าวจีทูจี ทั้งนี้เมื่อเกิดเรื่องขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กำชับให้ตรวจสอบ กระทรวงพาณิชย์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้น 2 ชุด ชุดแรกเกี่ยวกับการะบายข้าวจีทูจี ชุดที่สองเกี่ยวกับการระบายข้าวถุง โดยการสอบข้อเท็จจริงระบายข้าวจีทูจี ดำเนินการเสร็จแล้ว ไม่มีชื่อของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้การตรวจสอบเอกชนที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับภาครัฐถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
อัยการซักเพิ่มเติมว่า ในการอภิปรายความไม่โปร่งใสการระบายข้าวจีทูจีดังกล่าว มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดแจ้ง รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยคิดตรวจสอบนายอภิชาติ หรือเอาผิดกับนายอภิชาติบ้างหรือไม่
นายยรรยง กล่าวสรุปได้ว่า หน้าที่ของรัฐบาลคือฝ่ายบริหาร ขับเคลื่อนนโยบาย และลักษณะการตรวจสอบของฝ่ายบริหารสามารถทำได้ถ้ามีข้อกล่าวหาชัดเจน อย่างไรก็ดีการกล่าวหาบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ เป็นการอภิปรายทางการเมือง ถ้าตรวจสอบอาจไม่เหมาะสม อย่างไรก็ดีมีหน่วยงานอย่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เริ่มตรวจสอบการทุจริตแล้ว และมีอำนาจอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบเอกชน และเท่าที่ทราบขณะนั้นมีการตรวจสอบพฤติการณ์ของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ในชั้น ป.ป.ช. แล้วด้วย
อัยการซักเพิ่มเติมอีกว่า จากการอภิปรายในสภา มีการแสดงหลักฐานระบายข้าวจีทูจีว่า ไม่ได้ทำสัญญาการระบายข้าวจีทูจีจริง แต่มีการนำข้าวมาหมุนเวียนขายภายในประเทศ โดยพบว่า นายอภิชาติได้จ่ายแคชเชียร์เช็คเพื่อนำข้าวออกมา รัฐบาลได้สั่งการตรวจสอบหรือไม่ อย่างไร
นายยรรยง กล่าวสรุปได้ว่า ขอย้ำว่าบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ไม่ได้เป็นคู่สัญญาการระบายข้าวจีทูจี แต่ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจากรัฐวิสาหกิจจีน ซึ่งตนได้ตรวจสอบแล้วยืนยันได้ว่า เป็นรัฐวิสาหกิจจีนจริง มีรัฐบาลจีนถือหุ้น 100% และช่วงอภิปรายในสภาได้หาข้อมูล และเชิญพรรคฝ่ายค้าน และตัวแทนสื่อไปรัฐวิสาหกิจดังกล่าวที่จีน แต่กลับถูกคัดค้าน ส่วนการตรวจสอบบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ในเมื่อไม่ได้เป็นคู่สัญญากับรัฐ แต่เป็นเอกชน จึงไม่เกี่ยวข้อง แต่คิดว่า ที่บริษัทนี้ได้เป็นตัวแทนรัฐวิสาหกิจจีนในการซื้อข้าวจีทูจี เพราะมีโรงงานปรับปรุงคุณภาพข้าว และมีที่เก็บข้าวใหญ่ที่สุด แต่ไม่ใช่เรื่อง
อัยการซักเกี่ยวกับประเด็นการระบายข้าวถุงว่า มีการร้องเรียนว่าข้าวดังกล่าวไม่ถึงมือประชาชน อาจมีการทุจริตเกิดขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายยรรยง ทราบเรื่องหรือไม่
นายยรรยง กล่าวสรุปได้ว่า กรณีนี้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว มีตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ โดยผลการสอบพบว่ามีมูลจริง และได้ทำเรื่องถึง รมว.พาณิชย์ ขณะนั้นคือนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ซึ่งท้ายสุดมีการยุติโครงการดังกล่าวตั้งแต่ช่วง ก.ค. 2556
อัยการซักเพิ่มเติมว่า การอภิปรายมีการระบุถึงที่มาที่ไปของโครงการนี้ โดยเชื่อมโยงไปยัง พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ซึ่งเคยเป็นกรรมการบริษัท สยามรักษ์ จำกัด หนึ่งในเอกชนที่เข้ามาปรับปรุงข้าวถุง ก่อนถูกกล่าวหาเวียนขายภายในประเทศ รัฐบาล และคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้เจาะประเด็นนี้โดยตรงหรือไม่
นายยรรยง กล่าวสรุปได้ว่า ตรวจสอบดูแล้วครบทุกประเด็น รวมถึงกรณีนี้ด้วย ปรากฏว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เป็นเพียงกรรมการอิสระ หรือกรรมการตรวจสอบของบริษัท สยามรักษ์ จำกัด เท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ต้องเข้าไปเป็นกรรมการ เนื่องจากบริษัท สยามรักษ์ จำกัด ต้องการผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาก่อนจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เมื่อเป็นได้สักระยะหนึ่งแล้ว จึงลาออก เท่านั้น
อ่านประกอบ :
อย่าโยนบาปให้ ขรก.! ‘วรงค์’ให้การคดีข้าวจีทูจีเก๊-พบพิรุธใหม่ในสัญญาขาย
‘ทนายจำเลย’ซัก‘บิ๊กกรมการค้าฯ’ ตอบ! คดีข้าวจีทูจี-ไฉนนายกฯไม่รู้'คอฟโก'ตัวแทนจีน?
ขายข้าวจีทูจีขรก.พาณิชย์รู้ดีสุด! ‘บุญทรง-ภูมิ’แจงศาล-ลั่นสอบแล้วไร้โกง
นึกไม่ถึงว่าจะมีการเวียนข้าว! อดีตรองอธิบดีกรมการค้าฯแจงศาลคดีจีทูจีเก๊