ขายข้าวจีทูจีขรก.พาณิชย์รู้ดีสุด! ‘บุญทรง-ภูมิ’แจงศาล-ลั่นสอบแล้วไร้โกง

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 02 พฤศจิกายน 2559 เวลา 17:45 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Tags

คดีระบายข้าวจีทูจี | ภูมิ สาระผล | บุญทรง เตริยาภิรมย์ | ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

‘บุญทรง’ แถลงเปิดคดีระบายข้าวจีทูจีเก๊ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซัด ป.ป.ช. ชี้มูลเพราะการเมือง-2 มาตรฐาน ลั่นสั่งสอบแล้วแต่ไม่พบทุจริต ระบุ ขรก.พาณิชย์ รู้ดีสุดเรื่องนี้ ‘ภูมิ’ แจงศาล ไม่รู้สถานะ GSSG ไม่ใช่ตัวแทนจีน แต่ทำได้ เชื่อข้อมูลกรมการค้าต่างประเทศทั้งหมด

PIC boonsongpoom 2 11 59 1

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยนัดแรก ในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-28 ในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ โดยมีนายบุญทรงขึ้นแถลงเปิดคดี และมีนายภูมิ และนายบุญทรง เป็นพยานฝ่ายจำเลย

โดยนายบุญทรงแถลงเปิดคดีขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ระบายข้าวตามมติของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) โดยมีกรอบแนวทางอยู่ 5 กรอบตามหลักยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้าวที่อยู่ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลไประบาย และนำเงินกลับไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าว นอกจากนี้การดำเนินการดังกล่าวยังปฏิบัติตามข้อแนะนำของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทุกประการ ดังนั้นสาเหตุที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตน กับพวกนั้น เป็นเพราะเหตุผลทางการเมืองเพื่อที่จะนำไปสู่การชี้มูลความผิดแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งถือว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน

ขณะที่นายภูมิ สาระผล เบิกความเกี่ยวกับประเด็นการระบายข้าวแบบจีทูจี สรุปได้ว่า ทุกอย่างปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย และเชื่อในการกลั่นกรองของกรมการค้าต่างประเทศทั้งหมด และไม่เคยทราบมาก่อนว่า GSSG (รัฐวิสาหกิจจีนที่เป็นคู่สัญญาในการขายข้าวจีทูจี) เป็นรัฐวิสาหกิจเกี่ยวกับการทำเครื่องเขียน และอุปกรณ์กีฬา อย่างไรก็ดีตามหลักยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาตินั้น คำว่ารัฐวิสาหกิจ นั่นหมายความว่า รัฐบาลเป็นผู้เข้าไปถือหุ้น ดังนั้นจึงถือเป็นการทำจีทูจีอยู่แล้ว ทั้งนี้ที่ไม่ได้ตรวจสอบสถานะของ GSSG ก่อนว่าได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีนให้มาดำเนินการซื้อข้าวจีทูจีกับไทยจริงหรือไม่ เป็นเพราะเชื่อในข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศที่เป็นเลขานุการในคณะอนุกรรมการระบายข้าวแห่งชาติ ได้ไปดำเนินการเจรจาไว้ก่อนอยู่แล้ว ส่วนที่รัฐบาลจีนเคยประกาศในที่ประชุมองค์การการค้าโลกว่า รัฐวิสาหกิจจีนเพียงแห่งเดียวที่สามารถเข้าไปทำสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีกับทั่วโลกได้นั้นคือ COFCO ไม่ทราบ และไม่รู้ข้อมูลดังกล่าวมาก่อน

นายภูมิ เบิกความอีกสรุปได้ว่า ส่วนการดำเนินการขายแบบซื้อหน้าคลัง (Exware House) นั้น ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือบริษัทข้าวอื่น ๆ ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่การขายแบบนี้ทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ จึงดำเนินการดังกล่าว นอกจากนี้ในการแก้ไขสัญญาให้สามารถจ่ายเงินด้วยรูปแบบแคชเชียร์เช็คได้นั้น ก็ไม่ได้เอื้อหรือเปิดช่องให้มีการทุจริต หากใครคิดจะทุจริต ไม่ว่าวิธีแบบไหนก็ทุจริตอยู่แล้ว แต่การแก้ไขให้สามารถจ่ายด้วยแคชเชียร์เช็คได้ เพราะทำให้ช่องทางในการจ่ายเงินทำได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้หากพบว่ามีการทุจริต จะดำเนินการสั่งตรวจสอบ และลงโทษผู้กระทำความผิด

ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายบุญทรง เบิกความในประเด็นที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีการระบายข้าวแบบจีทูจี สรุปได้ว่า ภายหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวจีทูจีให้กับรัฐวิสาหกิจจากจีน (GSSG และไห่หนาน) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ 1 คณะ มีปลัดกระทรวงพาณิชย์ (ขณะนั้น) เป็นประธานฯ โดยได้ตั้งประเด็นหลักในการตรวจสอบได้แก่ การขายข้าวแบบจีทูจีให้กับ GSSG และไห่หนาน ดำเนินการถูกต้องตามสัญญา และมีใครเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งเมื่อตรวจสอบจนเสร็จสิ้นแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติ ต่อมาได้ตรวจสอบซ้ำในประเด็นการนำข้าวมาขายเวียนในประเทศด้วย และไม่พบอะไรผิดปกติเช่นกัน ดังนั้นจึงขายข้าวแบบจีทูจีต่อไป

นายบุญทรง เบิกความตอนหนึ่งสรุปได้ว่า ในการทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีกับ GSSG และไห่หนานนั้น ต้องไว้ใจการทำงานของข้าราชการที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะข้าราชการเหล่านี้ทำงานมาเป็นสิบปีแล้ว มีประสบการณ์เยอะ ถ้าไม่ไว้ใจแล้วใครจะมาทำงานให้รัฐบาล ถ้าข้าราชการละเมิดกฎระเบียบต่าง ๆ รัฐบาลคงไม่กล้าทำให้ แต่นี่ข้าราชการตรวจสอบดูหมดแล้ว เห็นว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ รัฐบาลจึงดำเนินการ

“ผมเข้ามาเป็น รมว.พาณิชย์ ประมาณ 1 ปี 5 เดือนเศษ ขอตอบด้วยความซื่อ ด้วยความสุจริตเลยว่า เรื่องเหล่านี้ไม่มีใครรู้มากเท่ากับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์อีกแล้ว” นายบุญทรง ระบุ

อ่านประกอบ :