นักวิชาการชี้ข้าวโพดราคาตก เหตุรัฐไม่จำกัดนำเข้าข้าวสาลีผลิตอาหารสัตว์
นักวิชาการอาวุโส หนุนรัฐทำถูก บังคับเอกชนซื้อข้าวโพด ชี้ปัญหาเกิดจากการนำเข้าข้าวสาลีในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพด ทำราคาข้าวโพดดิ่งลงเหว
รศ.สมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองของชาติ กล่าวถึงการที่รัฐบาลออกมาตรการบริหารจัดการ โดยให้บริษัทอาหารสัตว์รับซื้อข้าวโพด 8 บาท/กก. เป็นแนวทางที่รัฐบาลทำถูกต้องแล้ว ในความเป็นจริงประเทศไทยมีความต้องการข้าวโพดประมาณ 7 ล้านตัน ในการผลิตอาหารสัตว์ แต่ปริมาณการผลิตในประเทศมีแค่ 4.5 ล้านตัน นั่นแสดงว่า ผลผลิตในประเทศมีน้อยกว่าความต้องการ
แต่ที่เกิดปัญหาราคาข้าวโพดตก รศ.สมพร กล่าวว่า เนื่องจากมีการนำเข้าข้าวสาลีมาใช้แทนข้าวโพดในขบวนการผลิตอาหารสัตว์ที่มากขึ้น โดยรัฐไม่มีมาตรการปกป้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดทำให้ข้าวโพดราคาตก
ข้อมูลจากปี 2557 นำเข้าข้าวสาลีอยู่เพียง 5 แสนกว่าตัน ต่อมาปี 2558 ขึ้นมาเป็น 2 ล้านตัน ส่วนในปี 2559 เพียงแค่ 10 เดือน นำเข้ามาถึง 3 ล้านตัน นั่นหมายความว่า มีการนำข้าวสาลีมาผลิตอาหารสัตว์มากยิ่งขึ้น และความต้องการของการผลิตอาหารสัตว์เพิ่มมากขึ้นอยู่ที่ 16 ล้านตัน และใน 16 ล้านตัน ต้องการคาร์โบไฮเดตเป็นส่วนผสม 10 ล้านตัน จะเห็นได้ว่า มีการนำเข้าข้าวสาลีมามาก
"ปัญหาที่ทำให้ข้าวโพดราคาตก คือ มีการนำสินค้าทดแทนเข้ามามีราคาถูกกว่า ซึ่งข้าวสาลีกิโลกรัมละ 5 บาท ฉะนั้นข้าวสาลีจึงถูกเข้ามา ผู้ผลิตอาหารสัตว์ต้องการหาต้นทุนที่ต่ำลงเพื่อจะได้ผลกำไรที่มากขึ้น รัฐจึงมีข้อกำหนด แต่รัฐก็ไม่สามารถที่จะห้ามนำเข้าได้ เพราะมีกติกาการค้า แต่ถ้าซื้อข้าวสาลีมา 1 ส่วน ก็ต้องรับซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ตัน เป็นการช่วยเกษตรกรรายย่อย ๆ ถ้ารัฐบาลไม่ทำแบบนี้ก็เหมือนว่า ไปทิ้งคนจนไปช่วยคนรวย ธุรกิจอาหารสัตว์เขารวยอยู่แล้ว การทำแบบนี้ก็แค่เอากำไรของเขามาทอนให้กับเกษตรกรบ้าง"
รศ.สมพร กล่าวต่อว่า อีกประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวกับข้าวโพด คือ การลักลอบปลูกข้าวโพดบนภูเขา ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้บริษัทที่เข้าไปรับซื้อข้าวโพดบนพื้นที่บนภูเขาระมัดระวังมากขึ้น เพราะกลัวว่า ปลูกในพื้นที่ที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากข้าวโพดส่วนใหญ่ปลูกที่ภาคเหนือ ส่วนมากจะปลูกบนภูเขา ผลผลิตประมาณ 3 ล้านตัน ส่วนภาคอีสานจะปลูกข้าวโพดในที่พืชไร้ทั่วๆไปจะมีผลผลิตประมาณ 1 ล้านตัน ส่วนภาคกลางจะมีอยู่ 5 แสนตัน โดยตอนนี้เริ่มมีข้อกำหนดในการรับซื้อจึงทำให้ผู้รับซื้อเกิดการระมัดระวังในการซื้อมากยิ่งขึ้น จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาตก
"การปลูกข้าวโพดจะมีอยู่ 2 ฤดูที่สามารถปลูกได้ คือ ฤดูฝนกับฤดูแล้ง ข้าวโพดฤดูฝนมีอยู่ประมาณ 3 ล้านตันกว่า และฤดูแล้งประมาณ 1 ล้านกว่าตัน ซึ่งปีนี้ผลผลิตดี เนื่องจากฝนตกมาก เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่เก็บเกี่ยว ถ้าเก็บเกี่ยวตอนความชื้นสูงก็จะมีเชื้อราเกิดขึ้นได้ง่าย เกษตรกรก็จะรีบส่งออกสู่ตลาดข้าวโพดได้รับความชื้นราคาก็จะต่ำลงไป ถึงแม้ตอนนี้รัฐบาลบังคับให้บริษัทรับซื้ออยู่กิโลกรัมละ 8 บาท แต่ราคาที่เกษตรกรขายได้ก็จะไม่ได้ราคานั้น การที่จะได้ 8 บาทต้องมีความชื้นเพียง 4.5% "
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง:
การบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบอื่นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ผอ.มูลนิธิชีววิถี ชี้รัฐเอื้อประโยชน์พ่อค้าไม่เก็บภาษี 27% นำเข้าข้าวโพด-ข้าวสาลี
ขอบคุณภาพจาก : thaipublica