ยึดบ้าน 16 ล้าน! ศาลฎีกาฯ พิพากษา 'สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล' รวยผิดปกติ
ศาลฎีกาฯ พิพากษา ‘สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล’ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ร่ำรวยผิดปกติ แจงที่มาบ้าน จ.อ่างทอง 16 ล้านไม่ได้ สั่งยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน พบกลับคำให้การจากชั้น ป.ป.ช. อ้างใช้เงินที่เหลือจากการระดมทุนสมัครเลือกตั้ง 54 ล้านไปซื้อ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2559 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษานายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นักการเมืองขื่อดัง และอดีต รมว.ศึกษาธิการ เมื่อปี 2542-2544 ร่ำรวยผิดปกติ และให้ยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน คือ บ้านพักอาศัยเลขที่ 5/5 ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท
ศาลฎีกาฯ พิจารณาได้ไต่สวนพยานผู้ร้อง (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) และผู้คัดค้าน (นายสมศักดิ์) รวม 14 ปาก สรุปข้อเท็จจริงได้ว่า คดีกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน มิใช่เป็นผลที่เกิดจากการก่อหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่มีอายุความ ดังนั้น การที่นายสมศักดิ์อ้างว่า คดีดังกล่าวขาดอายุความ จึงรับฟังไม่ขึ้น
นอกจากนี้ พยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหาขัดแย้งกันเอง และขัดแย้งกับพยานที่เคยให้การต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เบื้องต้น ระบุว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของ หจก.วิเศษชัยชาญ และนายไพโรจน์ ฉัตรบริรักษ์ (พี่ชายของนางรวีวรรณ ปริศนานันทกุล ภรรยานายสมศักดิ์) แต่ต่อมาในชั้นศาลฎีกาฯกลับคำให้การ โดยเฉพาะนายสมศักดิ์ ที่อ้างว่า ใช้เงินส่วนตัวที่เหลือจากการระดมทุนเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อปี 2538-2539 วงเงินประมาณ 54 ล้านบาท เพื่อนำไปสร้างบ้านหลังดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่มีพยานน้ำหนักพอที่จะรับฟังได้
ส่วนกรณีที่อ้างว่า ได้บ้านมาก่อนดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การก่อสร้างบ้าน มีการก่อสร้างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ เมื่อปลายปี 2543 (นายสมศักดิ์ ดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ระหว่างปี 2542-2544 ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ เมื่อปี 2539-2540 นอกจากนี้ยังเคยเป็น ส.ส. เมื่อปี 2539) ดังนั้น เมื่อเคยเป็น ส.ส. เมื่อปี 2539 จนพ้นตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ เมื่อปี 2544 นายสมศักดิ์จึงมีสถานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาดังกล่าว เมื่อถูกกล่าวหาว่าได้บ้านดังกล่าวมาในระหว่างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไม่อาจนำสืบไต่สวนให้เห็นได้ว่า ได้บ้านหลังดังกล่าวโดยไม่ได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติ เป็นผลให้การได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยมิชอบ และขัดต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเป็นผลต่อกฏหมายที่บัญญัติให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.2542
พิพากษาว่า บ้านเลขที่ 5/5 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 14360 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เนื้อที่ 3 ไร่ 24.1 ตารางวา มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากที่นายสมศักดิ์ ถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบและชี้มูลความผิดว่า แจ้งบัญชีทรัพย์สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีไม่แจ้งรายการเงินฝากหลายรายการ และบ้านพักอาศัย มูลค่า 16 ล้านบาท ซึ่งต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ริบทรัพย์บางส่วนตกเป็นของแผ่นดิน และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 เดือน
หลังจากนั้น ป.ป.ช. มีมติไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมนายสมศักดิ์ กรณีร่ำรวยผิดปกติ เนื่องจากหาที่มาของบ้านมูลค่า 16 ล้านบาทไม่ได้ และมีมติชี้มูลความผิดไปแล้วเมื่อกลางปี 2558 พร้อมส่งเรื่องให้ สนช. ดำเนินการถอดถอน และส่งให้ศาลฎีกาฯ ไต่สวน ต่อมาที่ประชุม สนช. มีมติเสียงข้างมากไม่ถอดถอนนายสมศักดิ์ กระทั่งศาลฎีกาฯ พิพากษาว่า นายสมศักดิ์ร่ำรวยผิดปกติ และให้ยึดทรัพย์สินเป็นบ้านหลังดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน
อ่านประกอบ :
‘สมศักดิ์’ รอด! มติ สนช.109:82 ไม่ถอดถอน ปมร่ำรวยผิดปกติ บ้าน 16 ล.
ปล่อยผมไปเถอะ! ‘สมศักดิ์’ยันได้บ้านก่อนนั่ง รมว.ศธ.ลุ้น สนช.ถอด 13พ.ย.
ป.ป.ช.ฟันดาบ 2 “สมศักดิ์” รวยผิดปกติหาที่มาบ้าน 16 ล้าน ไม่ได้
หนักกว่า “ชินณิชา” ศาลฎีกาฯ เชือด “สมศักดิ์” ซุกบ้าน-เงินฝาก 30 ล้าน จำคุก 6 เดือน