เปิดรายงานจลาจลคุกปัตตานี ฝ่ายมั่นคงชี้จงใจฆ่า 3 นักโทษผู้ช่วยราชทัณฑ์
เหตุจลาจลในเรือนจำกลางปัตตานี เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ค.ต่อเนื่องวันเสาร์ที่ 16 ก.ค. ยังคงมีกระแสวิจารณ์อย่างต่อเนื่องถึงเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่มีการสังหารผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานราชทัณฑ์อย่างโหดเหี้ยมด้วยการโยนเข้าไปในกองไฟ แม้ทางผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์จะพยายามแถลงสรุปเหตุการณ์ว่าทุกอย่างจะดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมก็ตาม
จากการตรวจสอบของ “ทีมข่าวอิศรา” พบว่าเอกสารแถลงข้อเท็จจริงของกรมราชทัณฑ์ กับรายงานของหน่วยงานความมั่นคงบางหน่วยในพื้นที่ มีสาระสำคัญแตกต่างกันหลายประการ
โดยในเอกสารของกรมราชทัณฑ์ เรื่องแถลงข้อเท็จจริง “กรณีการก่อจลาจลในเรือนจำกลางปัตตานี” อ้างสาเหตุของการก่อจลาจลว่า เกิดจากการเข้มงวดกวดขันในการตรวจค้นโทรศัพท์มือถือและยาเสพติดในเรือนจำ รวมถึงการจัดระเบียบเรือนจำเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและง่ายต่อการตรวจค้น จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องขังจำนวน 2 รายไม่พอใจ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานีจึงได้สั่งย้ายผู้ต้องขัง 2 รายดังกล่าวเป็นกรณีเร่งด่วน ทำให้ผู้ต้องขังทั้ง 2 รายรวบรวมผู้ต้องขังคนอื่นๆ รวมจำนวน 200 ราย ก่อการจลาจลขึ้น
กรมราชทัณฑ์ยังระบุในแถลงการณ์ว่า การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์จลาจลได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และหลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ทางเรือนจำกลางปัตตานีได้ย้ายกลุ่มผู้ต้องขังที่ก่อการจลาจลไปยังเรือนจำต่างๆ
สำหรับความสูญเสีย มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์บาดเจ็บ 3 นาย, ผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บ 7 ราย, ผู้ต้องขังเสียชีวิต 3 ราย, อาคารเสียหาย 3 หลังเพราะถูกเผา คือ อาคารที่ทำการฝ่ายควบคุม อาคารเอนกประสงค์ และอาคารฝ่ายการศึกษา
ข้อมูลจากเอกสารแถลงข้อเท็จจริงของกรมราชทัณฑ์ สอดคล้องกับคำแถลงของ นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในช่วงบ่ายของวันที่ 16 ก.ค.ว่ามีผู้ก่อการหลักเพียง 2 คน ชักชวนผู้ต้องขังอื่นๆ ให้ก่อจลาจล และไม่มีผู้ต้องขังคดีความมั่นคงเกี่ยวข้อง
อีกด้านหนึ่งเป็นข้อมูลจากรายงานสถานการณ์เหตุการณ์ก่อจลาจลและวางเพลิงเผาทรัพย์สินภายในเรือนจำกลางปัตตานี ของหน่วยงานความมั่นคงหน่วยหนึ่งในพื้นที่ ระบุสาระสำคัญที่แตกต่างออกไปว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 4 คน ส่วนใหญ่เป็นเพราะถูกขว้างปาด้วยก้อนหินและไม้ ส่วนผู้เสียชีวิต 3 คนนั้น เป็นผู้ต้องขังก็จริง แต่เป็นนักโทษชั้นดีที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานราชทัณฑ์
ประกอบด้วย นายสุอนันท์ ป้องเศร้า ถูกแทงระหว่างเกิดจลาจล, นายเสริม จันทร์สุนทร ถูกเผาร่าง, นายเกียรติศักดิ์ จันทร์ดวง ถูกเผาร่าง
ในรายงานยังมีการให้ข้อมูลว่า นายสุอนันท์ เดิมเป็นทหารยศสิบเอก นับถือศาสนาอิสลาม ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี แต่ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้าเมื่อปี 2556 จึงถูกให้ออกจากราชการ และถูกดำเนินคดีจนต้องเข้าคุก
สำหรับแกนนำที่ก่อเหตุ มีการระบุชื่อชัดเจนว่า คือ นายแวอุสมาน แวสาเมาะ ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเมืองปัตตานี เป็นนักโทษคดีฆ่าผู้อื่น และ นายอัซวีรา ดอเลาะ นักโทษคดีลักทรัพย์ ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเมือง จ.นราธิวาส นอกจากนั้นยังมีนักโทษคดีความมั่นคงบางรายอยู่เบื้องหลัง
สาเหตุของการก่อจลาจล หน่วยงานความมั่นคงหน่วยนี้สรุปว่า เป็นเรื่องยาเสพติด และความต้องการสังหารผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทั้ง 3 คนที่สนิทสนมกัน ทำหน้าที่คอยสอดส่องผู้ต้องขังด้วยกันที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การก่อจลาจลเพื่อหวังเอาชีวิตผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน 3 คนนี้ ส่วนข้อเรียกร้องอื่นเป็นผลพลอยได้ที่ทางกลุ่มแกนนำอ้างขึ้นมาเท่านั้น ทั้งๆ ที่บางเรื่องไม่มีทางอนุญาตได้ เช่น นำอาหารขึ้นเรือนนอน เป็นต้น
นี่คือสาระสำคัญของรายงานข้อเท็จจริงจาก 2 หน่วยงานที่ยังมีข้อมูลหลายอย่างไม่ตรงกันอยู่ และมีหลายประเด็นที่น่าตรวจสอบถึงเบื้องลึกเบื้องหลังต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 และ 3 รายงานข้อเท็จจริงเหตุจลาจลในเรือนจำกลางปัตตานี โดยหน่วยงานความมั่นคงบางหน่วยในพื้นที่
2 เอกสารแถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์
อ่านประกอบ : จากคุกนราฯ-สงขลาถึงเรือนจำกลางปัตตานี หลายคำถามที่ยังรอคำตอบ