4 ข้อหาในชั้น ป.ป.ช.ชนวนศาลสั่งเพิ่มเงินประกัน‘บุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง’หวั่นซ้ำรอย‘หมอโด่ง’?
เปิด 4 ข้อหาในชั้น ป.ป.ช. ชนวนสำคัญศาลสั่งเพิ่มเงินประกัน ‘บุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง’ คดีข้าวจีทูจีเก๊ เอี่ยวการระบายสินค้าเกษตรทั้งสิ้น ‘คดีเอื้อเอกชนปรับปรุงข้าวบูล็อค-คดีระบายข้าวถุง-คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตใหม่-คดีระบายมันเส้นจีทูจี’ หวั่นซ้ำรอย ‘หมอโด่ง-สุธี’ ที่หนีไปก่อนหน้านี้ ?
สาธารณชนอาจทราบกันไปแล้วว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้เพิ่มเงินประกันตัวนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง อีก 10 ล้านบาท ในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ นายบุญทรง กับพวกรวม 30 ราย กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ
สืบเนื่องจากอัยการได้ยื่นคำร้องขอให้กำหนดหลักประกันการปล่อยชั่วคราวจำเลยเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นประกันว่าจำเลยจะไม่หลบหนี เนื่องจากมีสำนวนอยู่ในระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 4 สำนวน ได้แก่ 1.คดีเอื้อประโยชน์ให้เอกชนปรับปรุงข้าวส่งมอบให้อินโดนีเซีย (BULOG) 2.คดีระบายข้าวในสต็อกของรัฐบรรจุถุง (ข้าวถุง) 3.คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตใหม่เมื่อปี 2556 4.คดีระบายมันสำปะหลัง (มันเส้น) จีทูจีโดยมิชอบ ซึ่งเกี่ยวพันกับจำเลยรวม 12 ราย ได้แก่
จำเลยที่ 2 (นายบุญทรง) จำเลยที่ 3 (พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ปัจจุบันถูกศาลฎีกาฯออกหมายจับเนื่องจากหลบหนีคดี) จำเลยที่ 4 (นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ) จำเลยที่ 7 (นายสมคิด เอื้อนสุภา) จำเลยที่ 9 (นายลิตร พอใจ) จำเลยที่ 10 (บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด) จำเลยที่ 14 (นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง) จำเลยที่ 15 (นายนิมล รักดี หรือโจ) จำเลยที่ 16 (นายสุธี เชื่อมไธสง) จำเลยที่ 20 (บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หรือบริษัท สิราลัย จำกัด) และจำเลยที่ 27 (บริษัท เจียเม้ง จำกัด)
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์คำร้องประกอบความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นควรให้เพิ่มหลักประกันจำเลยที่ 2 (นายบุญทรง) และจำเลยที่ 14 (เสี่ยเปี๋ยง) อีกคนละ 10 ล้านบาท จำเลยที่ 4 (นายมนัส) อีก 4 ล้านบาท จำเลยที่ 7 (นายสมคิด) จำเลยที่ 9 (นายลิตร) และจำเลยที่ 15 (นายนิมล) อีกคนละ 3 ล้านบาท และให้จำเลยดังกล่าวนำหลักประกันมาเพิ่มและทำสัญญาใหม่ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 มิ.ย. 2559
(อ่านประกอบ : ศาลสั่งเพิ่มเงินประกัน‘บุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง’ อีก10ล.กันหนีคดีข้าว-4 ข้อหาใน ป.ป.ช.)
เพื่อให้สังคมเข้าใจง่ายขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปความเป็นมาทั้ง 4 คดีในชั้น ป.ป.ช. ให้ทราบ ดังนี้
หนึ่ง คดีเอื้อประโยชน์ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ปรับปรุงข้าวส่งมอบให้อินโดนีเซีย (BULOG)
กรณีนี้มีการกล่าวหานายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีต รมว.พาณิชย์ และมีกลุ่มบุคคล/นิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง และนายสุธี เชื่อมไธสง (ปัจจุบันถูกศาลฎีกาฯออกหมายจับ เนื่องจากหลบหนีคดีระบายข้าวจีทูจี)
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า บริษัท สยามอินดิก้าฯ โดย น.ส.รัตนา กรรมการผู้มีอำนาจ ให้ผู้รับมอบอำนาจมายื่นซองเสนอราคาขายข้าว และบริษัท นครสวรรค์ค้าข้าว จำกัด ได้มอบอำนาจให้นายสุธี เป็นผู้รับมอบอำนาจมายื่นซองเสนอราคาขายข้าว แต่เอกสารไม่ถูกต้อง ได้แก่ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลออกให้ก่อนวันยื่นซองเสนอราคาพ้นกำหนดเกิน 1 เดือน จึงถือว่าคุณสมบัติตกไป ทั้งนี้ในหนังสือรับรองสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ปรากฏชื่อ น.ส.รัตนา และ น.ส.เรืองวัน เลิศศลารักษ์ เป็นกรรมการบริษัท สยามอินดิก้าฯ
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.เชิญเอกชนพันคดีระบายข้าวอินโดฯให้ถ้อยคำ-สอบ อคส.ทำจีทูจียังไง, ป.ป.ช.เชิญ จนท.อคส.เข้าให้ถ้อยคำปมระบายข้าวอินโดฯปี'54,“หม่อมอุ๋ย”โผล่ให้ถ้อยคำป.ป.ช.คดีระบายข้าวอินโดฯ 3 แสนตันปี'54)
สอง คดีระบายข้าวในสต็อกของรัฐบรรจุถุง (ข้าวถุง)
กรณีนี้มีการกล่าวหา พ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีม อดีตประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) และมีกลุ่มบุคคล/นิติบุคคลเกี่ยวข้อง ได้แก่ นายสมคิด เอื้อนสุภา บริษัท สยามอินดิก้าฯ นายนิมล รักดี หรือ ‘โจ’ บริษัท เจียเม้ง จำกัด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า ตามหนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า บริษัท สยามอินดิก้าฯ เป็นผู้สั่งซื้อแคชเชียร์เช็คชำระให้แก่ อคส. ในนามของบริษัทตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 บริษัท โดยผ่านนายสมคิด ซึ่งเป็นบุคคลของบริษัท สยามอินดิก้าฯ ให้เป็นผู้ลงชื่อสั่งซื้อแคชเชียร์เช็ค และนำแคชเชียร์เช็คส่งมอบให้แก่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสั่งซื้อ โดยชำระเป็นเงินสดรวมแคชเชียร์เช็คทั้งสิ้น 38 ฉบับ คิดเป็นเงินประมาณ 5.4 พันล้านบาท คิดเป็นข้าวสารบรรจุถุง 5 กิโลกรัม ประมาณ 83 ล้านถุง นอกจากนี้ยังพบว่า ในการดำเนินการเพื่อติดต่อกับตัวแทนจำหน่าย ดำเนินการโดยผ่านนายนิมล นายสมคิด ทำการติดต่อสั่งซื้อข้าวสารจากตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ บริษัท ร่มทอง จำกัด บริษัท คอนขไซน์ เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท เจียเม้ง จำกัด โดยได้ผลตอบแทนส่วนต่างราคาแก่บริษัททั้ง 3 แห่ง
(อ่านประกอบ : เสียหาย 3.8 พันล.!สตง.ชี้มูลคดีระบายข้าวถุงอคส.-เอกชนเครือญาติฮั้วเสนอราคารัฐ, เปิดตัว "สารวัตรต้น" คนใกล้ชิด "เลขาฯบุญทรง" ตัวละครใหม่พันคดีข้าวถุง, เปิดหมดเปลือก!เบื้องหลังสัญญาลับซื้อข้าวถุง524 ล. "เจียเม้ง-สยามอินดิก้า", สรุปคำให้การ"3 บิ๊กอคส."คดีข้าวถุง! คอนเนกชั่นลับ "วีระวุฒิ-ศราวุฒิ-ไพโรจน์" )
สาม คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตใหม่ ช่วงปี 2556 โดยมิชอบ
กรณีมีการกล่าวหา นายบุญทรง นางปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กับพวก โดยมีกลุ่มบุคคล/นิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายสมคิด นายสุธี บริษัท สยามอินดิก้าฯ น.ส.รัตนา นายลิตร พอใจ บริษัท สิราลัย จำกัด หรือบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า การเจรจาซื้อขายข้วแบบจีทูจี ซี่งมีนายบุญทรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ในฐานประธานคณะอนุกรรมการระบายข้าว เป็นผู้ให้ความเห็นชอบในการทำสัญญากับบริษัทจีน 4 แห่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าว มิได้รับมอบหมายจากประเทศจีนให้เข้ามาทำสัญญาซื้อขาย นอกจากนี้บริษัทจีนทั้ง 4 แห่ง ได้มอบอำนาจให้บริษัทไทย 4 แห่ง เช่น บริษัท คอมพาวด์ อินเตอร์เทรด จำกัด มีนายลิตร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
นอกจากนี้แคชเชียร์เช็คจากบริษัทจีน ซึ่งเป็นกรณีที่ได้ชำระเงินไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับมอบข้าวให้ครบถ้วน ต่อมาบริษัทจีนดังกล่าวได้เรียกร้องจากกรมการค้าต่างประเทศให้ทำการคืนเงินหรือเรียกร้องให้ส่งมอบข้าว จำนวนเงินประมาณ 1.9 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินที่นำมาจากบัญชีของบริษัท สยามอินดิก้าฯ บริษัท สิราลัย และนายสุธี โดยมีบริษัท สยามอินดิก้าฯ โดย น.ส.รัตนา และนายสมคิด เป็นผู้ซื้อแคชเชียร์เช็คดังกล่าว ปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้อายัดแคชเชียร์เช็คจำนวน 1.8 พันล้านบาทแล้ว
(อ่านประกอบ : อายัดเช็ค 1.8 พันล.หลักฐานสำคัญมัดข้าวจีทูจีเก๊!-ป.ป.ช.พบของเครือสยามอินฯ, ป.ป.ช.สอบเสร็จแล้ว! เส้นทางเงินเช็ค 9.6 หมื่นล.คดีข้าวจีทูจี-เอี่ยวใครอายัดทันที)
สี่ คดีระบายมันสำปะหลัง (มันเส้น) จีทูจีโดยมิชอบ
กรณีนี้มีการกล่าวหา นายบุญทรง นางปราณี โดยมีกลุ่มบุคคล/นิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการนายบุญทรง (ปัจจุบันถูกศาลฎีกาฯออกหมายจับเนื่องจากหลบหนีคดีระบายข้าวจีทูจี) นายมนัส นายสมคิด นายลิตร และนายสุธี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า มีการทำสัญญาซื้อขายมันสำปะหลัง (มันเส้น) และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแบบจีทูจี รวม 7 สัญญา กับบริษัทจีน ปริมาณ 4.7 ล้านตัน วงเงินรวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ทั้งที่บริษัทจีนดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากประเทศจีนให้เป็นตัวแทนทำสัญญาซื้อขาย แบ่งเป็น 2 โครงการ ได้แก่
1.โครงการปี 2554/2555 จำนวน 4 สัญญา มีนายมนัส เป็นผู้เจรจา มีนายบุญทรง เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ โดยบริษัทจีน 2 แห่ง ได้มอบอำนาจให้บริษัท เอลัช (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอส บี พรีเมียร์ โปรดักส์ จำกัด (ทั้งสองบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา) โดยบริษัท เอลัชฯ และบริษัท เอส บีฯ มอบหมายให้นายสุธี และนายลิตร เป็นผู้ดำเนินการทำสัญญาซื้อขาย
2.โครงการปี 2555-2556 จำนวน 3 สัญญา มีนางปราณี เป็นผู้เจรจา มีนายบุญทรง เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ พบว่า แคชเชียร์เช็คที่สั่งจ่ายให้กรมการค้าต่างประเทศ เพื่อชำระสัญญาซื้อขายแบบจีทูจี ในส่วนที่ออกมาจากธนาคารไทยพาณิชย์ ปรากฏข้อเท็จจริงจากหนังสือธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ความว่า มีนายลิตร นายสมคิด เป็นผู้ขอซื้อแคชเชียร์เช็ค และเป็นเงินที่นำมาจากบัญชีของนายสุธี
(อ่านประกอบ : พบคนสนิท‘เสี่ยเปี๋ยง’ซื้อแคชเชียร์เช็คจ่ายกรมการค้าฯพันคดีมันจีทูจีเก๊)
ทั้งหมดคือ 4 ข้อกล่าวหาในชั้น ป.ป.ช. ที่อยู่ระหว่างการไต่สวน และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดเข้ามาชี้แจงความบริสุทธิ์อยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ดีน่าสังเกตว่า ทั้ง 4 ข้อกล่าวหาดังกล่าว ล้วนมีผู้ถูกกล่าวหา ‘หน้าเดิม ๆ’ ที่เคยถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีระบายข้าวจีทูจีเก๊ไปแล้วแทบทั้งสิ้น ส่อให้เห็นถึงพฤติการณ์ความไม่ชอบมาพากลในการระบายสินค้าทางเกษตรในยุครัฐบาล ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ได้เป็นอย่างดี
สะท้อนให้เห็นจากผลการตรวจสอบล่าสุดของ สตง. ที่สรุปผลทำนองว่า การบริหารจัดการในการระบายข้าวรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์' ไม่ว่าจะเป็นการระบายข้าวจีทูจี หรือการระบายข้าวของรัฐ ล้วน 'ล้มเหลว' ?
(อ่านประกอบ : 'สตง.' สาวไส้สัญญาจีทูจียุค'ปู'! พบตัวแทนบ.ซื้อข้าวจีนแจ้งเลิกกิจการแล้ว, ฉบับเต็ม! เปิดผลสอบสตง. หลักฐานมัดระบายข้าวจีทูจีเหลว ยุค 'ยิ่งลักษณ์')
ส่วนสาเหตุที่ศาลฎีกาฯจำเป็นต้องสั่งให้เพิ่มวงเงินประกันนายบุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง-พวก ซึ่งถือเป็นตัวละครสำคัญในคดีข้าวจีทูจี และข้อกล่าวหาต่าง ๆ ในชั้น ป.ป.ช. ตามคำร้องของอัยการนั้น
อาจเป็นไปได้ว่าอัยการหวั่นว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งบางรายเป็นถึงนักการเมืองใหญ่ อาจหลบหนีคดีไปซ้ำรอยกับ ‘หมอโด่ง’ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ เลขาฯนายบุญทรง และนายสุธี คนสนิท ‘เสี่ยเปี๋ยง’ ก็เป็นไปได้
และต้องการให้นักการเมืองใหญ่ซึ่งมีส่วนพัวพันกับการทุจริตระดับประเทศ สร้างความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท ได้รับบทเรียน ‘ติดคุก’ อย่างแท้จริง ไม่ใช่หนีคดีไปหลบอยู่ต่างประเทศเหมือนนักการเมืองรุ่นพี่หลาย ๆ คน ที่เคยทำไว้แล้วก่อนหน้านี้ !
อ่านประกอบ :
อย่าโยนบาปให้ ขรก.! ‘วรงค์’ให้การคดีข้าวจีทูจีเก๊-พบพิรุธใหม่ในสัญญาขาย
ให้เอกชนจำเลยคดีข้าวชดใช้2หมื่นล.!ศาลฯรับคำร้องอสส.-'เสี่ยเปี๋ยง'อยู่รพ.ตร.จริง
ป.ป.ช.เชือดล็อตแรกคดีข้าวจีทูจี"บุญทรง-ภูมิ"ไม่รอด-ฟ้องแพ่ง 6 แสนล้าน
ป.ป.ช.ฟันลอตสอง!15 เอกชนพันคดีข้าวจีทูจี-บ.เจียเม้งตัวละครข้าวถุงโดนด้วย