คลังยันไม่มีเอี่ยวปมขุดคลอง! ปูด 'บิ๊กอผศ.' ล็อบบี้ชงเรื่องขอสิทธิพิเศษ
คนก.คลัง ยืนยัน 'อิศรา' ปมขออนุมัติสิทธิพิเศษขุดลอกคลอง! อผศ. เป็นฝ่ายตั้งเรื่องเสนอขอเอง เผยมี ผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นผู้จัดแจงประสานงาน อ้างเหตุผลความลำบากสารพัด ย้ำดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องไม่ดี แถมวางเงื่อนไขชัด ตรวจเจอจ้างช่วงงานต่อ ยกเลิกทันที
จากกรณีกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น เตรียมยื่นหนังสือต่อกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้เพิกถอนสิทธิพิเศษกับอผศ. ในการเข้าไปรับจ้างงานขุดลอกคูคลองจากหน่วยงานราชการต่างๆ หลังจากมีการตรวจสอบพบข้อมูลว่า มีผู้รับเหมาได้รับจ้างช่วงเข้ามาขุดคลองแทน อผศ. ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลัง จะต้องสั่งยกเลิกสิทธิพิเศษทันที และตั้งข้อว่าน่าจะมีผู้บริหารระดับสูงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากงานขุดลอกคูคลอง ที่อผศ.ได้รับส่วนใหญ่จะเป็นงานของ ปภ. และผู้รับเหมารายย่อยที่เข้าไปรับจ้างช่วงงานต่อก็ยืนยันว่า ผู้รับเหมารายใหญ่ที่นำงานมาแจกจ่าย เป็นผู้รับเหมาที่วิ่งเข้านอกออกใน รับงานปภ.อยู่เป็นประจำ
(อ่านประกอบ : กลุ่มธรรมภิบาลฯ ชงก.คลัง ระงับสิทธิพิเศษขุดคลองอผศ.-เชื่อคนปภ.เอี่ยว!)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงการคลัง ว่า เกี่ยวกับการเสนอเรื่องขอสิทธิพิเศษขุดลอกคลองให้กับอผศ. ดังกล่าว กระทรวงการคลัง ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องที่ไม่ดีอะไรด้วย ซึ่งภายหลังจากที่ อผศ. ได้ตั้งเรื่องเสนอมาให้พิจารณา โดยมีผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่ง เป็นผู้ประสานงานมา อ้างเหตุผลความจำเป็นในการจัดหารายได้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ อผศ. และสมาชิกทหารผ่านศึกษาทั่วประเทศ และเมื่อเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจแล้ว ก็มีการเสนอเรื่องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบตามขั้นตอนปฏิบัติ
"ส่วนจะมีการยกเลิกสิทธิพิเศษหรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้บริหารของกระทรวงการคลังชุดปัจจุบันจะต้องพิจารณา แต่ตามระเบียบเงื่อนไขที่วางไว้ถ้ามีการตรวจสอบพบหลักฐานว่า อผศ. ไปจ้างช่วงงานต่อ สิทธิพิเศษจะถูกสั่งยกเลิกทันที" แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงการคลังระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเอกสารประกอบการเรื่องให้สิทธิพิเศษ กับ อผศ. ในการเข้าไปรับงานขุดลอกคูคลองจากหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติรับทราบ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2557 มีการระบุข้อมูลชัดเจนว่า อผศ.จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยมิได้เป็นการประกอบการงานหรือร่วมการงานหรือสมทบกับบุคคลอื่นไม่ว่าจะเป็นการค้าหรือการอื่น และกระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษฯ มีอำนาจในการระงับสิทธิพิเศษได้ ในกรณีที่ตรวจพบว่า อผศ.นำงานจ้างไปให้เอกชนรับช่วงดำเนินการต่อ
ส่วน อผศ.อ้างเหตุผลในการข้อสิทธิพิเศษว่ามีความจำเป็นที่ต้องหารายได้มาสมทบงบประมาณในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำการที่อยู่ในความดูแลซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 2 ล้านคนเศษ และอาจจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่3 จังหวัดชายแดนใต้เนื่องจากงบประมาณที่ได่รับจากกระทรวงกลาโหมไม่เพียงพอ และมีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้เอง ตลอดจนมีทหารผ่านศึกอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ
ขณะที่ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อดีตปลัดกระทรวงคลัง ในขณะนั้น ปรากฎชื่อเป็นผู้ลงนามเสนอเรื่องให้ที่ประชุมคสช.พิจารณารับทราบเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันที่ 2 ก.พ.2559 ได้ติดต่อไปยัง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการนำเสนอเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ ในการขุดลอกคูคลองของ อผศ.
แต่นายรังสรรค์ ระบุว่า เรื่องมันเกิดขึ้นมานานแล้ว จำรายละเอียดไม่ได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง คนปัจจุบัน เพื่อขอสัมภาษณ์เช่นกัน
แต่นายสมชัย ระบุว่าติดภารกิจประชุม ให้สัมภาษณ์ไม่ได้
(อ่านประกอบ : เผยมติคสช.ไฟเขียวราชการจ้าง อผศ. ขุดคลอง หลังรปห.2ด. ก่อนถูกร้องปมหัวคิว)