พฤติการณ์ชัดส่อล็อคตัวบ.ประดับไฟล่วงหน้า! สตง.ขู่เรียก'สุขุมพันธ์' ให้ถ้อยคำ
ผู้ว่าฯ สตง. เผยความคืบหน้าผลตรวจสอบโครงการประดับไฟ ปีใหม่ กทม. 39.5 ล้าน พฤติการณ์ชัดส่อล็อคตัวบ.รับงานไว้ล่วงหน้า ชี้ยังไม่ทันลงนามสัญญา เนื้องานเกิดแล้ว 20 % รับลูกข้อมูล 'อิศรา' สอบต่อปมแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์ทำธุรกิจประดับไฟ ก่อนยื่นซอง 3 เดือน แถมผูกรับงาน 6 ปีติด เตรียมร่อนหนังสือให้ชี้แจงเป็นทางการ ไม่เคลียร์ เชิญผู้ว่าฯ เข้าให้ถ้อยคำด้วย
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2559 นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการดำเนินโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light) บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร วงเงิน 39.5 ล้านบาท ของ สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะที่สตง.อยู่ระหว่างเก็บรวบรวมหลักฐานการดำเนินงานโครงการนี้ ทั้งในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ ความคุ้มค่า และการประกวดราคาว่าจ้างเอกชนเข้ามารับงาน
โดยประเด็นที่พบตรวจพบพิรุธค่อนข้างชัดเจน คือ ขั้นตอนการว่าจ้างเอกชนเข้ามารับงาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เอกชนที่ปรากฎรายชื่อเป็นชนะการประกวดราคา ได้นำสิ่งของเข้ามาทำงานล่วงหน้าประมาณ 20 % ก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญาว่าจ้างเป็นทางการ ส่อให้เห็นถึงการ เตรียมการเข้ามารับงานนี้โดยเฉพาะ
"งานนี้ไม่ใช่คืองานประดับไฟอย่างเดียว แต่เป็นการออกแบบด้วย ในข้อเท็จจริงผู้รับจ้างควรจะต้องมีเวลาเตรียมงานพอสมควร แต่การดำเนินงานนี้ กลับเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ถ้าไม่มีการเตรียมการล่วงหน้ามาก่อน งานคงออกมาไม่แล้วเสร็จ และจุดสำคัญที่ต้องไปดูคือการตรวจรับงานดวงไฟเป็นหลักล้านดวงจะใช้วิธีการอย่างไร ของเหล่านี้ ต้องใช้เวลาเตรียมการพอสมควร แต่นี่ใช้เวลาสั้นๆ แต่เตรียมการได้ทำ ทำกันได้อย่างไร"
ผู้ว่าฯ สตง. ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลสำคัญที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบด้วยคือ เอกชนผู้ชนะงาน เพิ่งแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์ทำธุรกิจไฟประดับ จากเดิมที่ทำธุรกิจนำเที่ยวเป็นหลัก ก่อนยื่นซองเสนอราคาแค่ 3 เดือน และเอกชนรายนี้ ยังผูกรับงานกับสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานครมาตลอด 6 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งสตง.จะรับข้อมูลนี้ไปตรวจสอบเชิงลึกต่อด้วย
"งานประดับไฟของกทม. หากใครที่เข้าไปชมมาแล้วแล้ว คงจะเห็นว่าผลงานออกมาเป็นอย่างไร มีการนำเสนอแนวคิดที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยน้อยมาก ไฟหลายส่วนเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของชาติอื่นมากกว่า ขณะที่จุดที่ประดับไฟก็อยู่ในพื้นที่ลานคนเมือง เป็นจุดแคบ ไม่ได้เปิดกว้าง พื้นที่ถนนสองข้างทางก็ไม่ได้รับประโยชน์ ถ้าทำบริเวณถนนราชดำเนินทั้งเส้นจะคุ้มค่ามากกว่า ขณะที่ช่วงเวลากลางวันไฟก็เปิดไม่ได้ และยังมีการกั้นรั้วไม่ให้คนเข้าไปในพื้นที่ได้ ระยะเวลาในการแสดงก็สั้นมาก จึงไม่แน่ใจว่าจะช่วยกระตุ้นเรื่องการท่องเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน"
ผู้ว่าฯ สตง. ยังกล่าวด้วยว่า การที่กทม. ดำเนินงานโครงการที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก ควรมีการวางแผนงานที่ดีกว่านี้ แต่ลักษณะงานที่ปรากฎ ชวนให้เข้าใจว่า เหมือนเพิ่งคิดได้ว่าจะทำ ก็เลยไปหาแหล่งเงินมาใช้ สุดท้ายก็ไปเอาเงินจากงบสำรองฉุกเฉินมาใช้ ซึ่งโดยหลักการการใช้จ่ายเงินส่วนนี้ จะต้องเป็นโครงการฉุกเฉินที่มีความจำเป็นจริงๆ มีโครงการเตรียมพร้อมไว้ชัดเจนมากกว่านี้ ชี้ให้เห็นถึงการใช้จ่ายเงินที่เข้าข่ายผิดวินัยทางการคลังด้วย
"ในเร็วๆนี้ สตง. จะทำหนังสือแจ้งให้ กทม. ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดอีกครั้ง แต่ถ้ายังชี้แจงไม่เคลียร์ อาจจำเป็นจะต้องเชิญตัวแทนกทม. รวมถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เข้าชี้แจงให้ถ้อยคำกับสตง.เป็นทางการด้วย" ผู้ว่าฯ สตง.ระบุ
อ่านประกอบ :
พบ บ.คิวริโอฯผู้รับงานตกแต่งไฟ กทม.เป็นผู้บริจาคเงินให้พรรค ปชป. 1 ล.ปี’ 54
เปิดหลักฐานมัด บ.ทัวร์ เพิ่งแจ้งทำธุรกิจไฟฟ้า ก่อนประกวดราคากทม. 3 เดือน
11 สัญญา 78 ล.! พบบ.ทัวร์รับประดับไฟปีใหม่ ผูกงานอีเวนท์กทม.6 ปีรวด
เปิดเบื้องหลัง!กทม.จ้างประดับไฟปีใหม่ 39.5 ล. 2 บ.แข่งหวิว 'ผู้ชนะ'ทำธุรกิจนำเที่ยว?