ผู้บริหารบ.ทุ่งคำอ้างทีมงานเขียนสคริปต์ให้เด็ก-ชี้พูดความจริง'ถอนฟ้อง'
ผู้บริหารทุ่งคำ ชี้ ฟ้องเด็กม.4 เพื่อสร้างความเข้าใจในสังคม ย้ำในรายการมีการพูดถ้อยคำที่เป็นเท็จ แจงแค่เด็กพูดว่าใครเขียนบทให้เรื่องก็จบ ดุลยพินิจถอนฟ้องขึ้นอยู่กับบ.ทุ่งคำ
จากกรณีที่ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทเยาวชนนักข่าวพลเมือง อ.วังสะพุง จ.เลย และยื่นฟ้องสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสและผู้ดำเนินรายการช่วงข่าวพลเมืองและผู้บริหารองค์กรรวม 5 คน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารและโทรทัศน์ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.3756/2558 โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านบาท รวมถึงขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามไทยพีบีเอสประกอบอาชีพโทรทัศน์เป็นเวลา 5 ปี
ขณะเดียวในวันที่ 30 ธันวาคม 2558 สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรีจะเรียกตัวเยาวชนตามหมายเรียกที่บริษัท ทุ่งคำ จำกัด เจ้าของเหมืองทองทุ่งคำ ฟ้องไปพบที่ สน.มีนบุรี
รศ.ดร.วิชัย เชิดชีวศาสตร์ กรรมการบริหาร บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทแม่ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัดกล่าวกับสำนักข่าวอิศราถึงการฟ้องร้องนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ว่า เท่าที่ถามฝ่ายกฎหมายถึงการฟ้องร้องนักเรียนชั้นม.4 ที่ปรากฏตามข่าวนั้น ฝ่ายกฎหมายชี้แจงว่า เป็นกลุ่มที่เขาต่อต้านเหมืองอยู่แล้วซึ่งเป็นเรื่องปกติ และอีกกลุ่มคือกลุ่มคนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง ดังนั้นการฟ้องร้องในครั้งนี้เพียงเพื่อจะบอกให้สังคมรับรู้ว่า ความจริงเหมือง หรือบริษัททุ่งคำ จำกัด ไม่ได้ปล่อยสารพิษลงไปในลำน้ำฮวย
“ฉะนั้นการที่ในรายการมีการพูดข้อความเท็จและสร้างความเสียหายก็ต้องมีการดำเนินคดีเพื่อสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในสังคม ไม่ใช่จะบอกว่า คนด้อยโอกาสสามารถพูดเท็จได้ ส่วนจะมีการถอนฟ้องหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัททุ่งคำ จำกัด”
กรรมการบริหาร บมจ. ทุ่งคาฮาเบอร์ กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหรือการฟ้องร้องที่ผ่านมาระหว่างบริษัททุ่งคำ และชาวบ้าน ควรจะยุติได้แล้ว และไม่ควรใช้เด็กเป็นเครื่องมือเพราะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ส่วนกรณีที่มีการเพิ่มทุนของบริษัทเป็นการเพิ่มทุนของบริษัทแม่ คือ บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ โดยหลังจากที่มีการเพิ่มทุนแล้ว ธุรกิจเหมืองทองก็จะไม่ใช่ธุรกิจหลักอีกต่อไป
“จริงๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้น ง่ายนิดเดียว เพียงแค่เด็กเป็นคนบอกว่า ใครจัดฉากให้พูด แค่นี้เรื่องก็จบแล้ว เราไม่ได้จะลงโทษเอาเป็นเอาตายเด็กขนาดนั้น แค่อยากให้สังคมรู้ว่าสื่อไม่ควรใช้เด็ก เอาบทให้เด็กพูด ถ้าไปดูคลิปที่ออกอากาศจะรู้เลยว่า ไม่ใช่ภาษาของเด็ก ความจริงแล้วการฟ้องร้องไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคิดว่า สุดท้ายปัญหาน่าจะจบได้ด้วยดี เพราะไม่ได้อยากทำร้ายเด็ก”
ส่วนกรณีที่สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรีจะเรียกตัวตามหมายเรียกที่บริษัท ทุ่งคำ จำกัด เจ้าของเหมืองทองทุ่งคำ ฟ้องหมิ่นประมาทไปพบที่ สน.มีนบุรี นั้น นางภิรมย์ ศรีประเสริฐ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ล่าสุดทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความเห็นและทำหนังสือส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเห็นว่า เด็กถูกฟ้องจากบริษัททุ่งคำหลายท้องที่ ซึ่งจะเป็นภาระในการชี้แจงของเด็กและครอบครัว ดังนั้นจึงได้ขอความร่วมมือให้รวมคดีและฟ้องไปที่ภูมิลำเนาที่เด็กอยู่ และจะติดตามผลอีกครั้งว่าการร้องขอได้ผลอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
กสม.ขอ บ.ทุ่งคำ ทบทวนดำเนินคดีอาญาแก่เด็ก
สมาคมนักข่าววิทยุฯ เรียกร้อง บ.เหมืองทอง ทบทวนฟ้องเยาวชน จ.เลย
เปิดตัว 'สนง.กม.' ผู้รับมอบอำนาจบ.ทุุ่งคำ ฟ้องเด็กม.4 - โชว์รายได้ล่าสุด 2 แสน