รถโดยสารคว่ำที่เชียงใหม่ บ.เปรมประชาอ่วม! ศาลสั่งจ่ายค่าเสียหายกว่า 3 ล้าน
ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ตัดสินคดีรถโดยสารบริษัท เปรมประชาขนส่ง คว่ำที่อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2557 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ต้องจ่ายค่าเสียหายให้ผู้ฟ้องกว่า 3 ล้าน
จากกรณีที่รถโดยสารบริษัท เปรมประชาขนส่ง จำกัด พลิกคว่ำที่อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ บนทางหลวงหมายเลข 108 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย และบาดเจ็บ 61 ราย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 นั้น ในด้านคดีอาญาศาลได้ตัดสินให้คนขับรถจำเลยที่ 1 (ซึ่งยังคงหลบหนีการจับกุม) มีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต
ในส่วนของคดีทางแพ่ง ผู้โดยสารและญาติผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 13 ราย ได้ใช้ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ฟ้องคดีต่อนายอิ่นแก้ว มูลสุข คนขับรถ (จำเลยที่ 1) และบริษัท เปรมประชาขนส่ง จำกัด (จำเลยที่ 2) โดยแบ่งการฟ้องร้องออกเป็น 2 ศาล คือศาลแขวงในกรณีที่ผู้ร้องเรียกค่าเสียหายไม่เกิน 300,000 บาท 8 กรณี ซึ่งศาลแขวงได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยและผู้ฟ้องรับเงินจากเปรมประชาเรียบร้อยทุกคดีแล้วรวมทั้งหมด 155,000 บาท และศาลจังหวัดอีก 5 กรณี ซึ่งศาลได้นัดฟังตัดสินในวันที่ 25 ธันวาคม 2558 เวลา 11.15 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 15 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาเรื่องการละเมิดผิดสัญญารับขนส่งคนโดยสาร เพื่อเรียกค่าเสียหายรับผิดตามสัญญาประกันภัย มีรายละเอียดดังนี้
ผู้ฟ้องคดีคนที่ 1 นายสมบูรณ์ วงศ์ษา (ภรรยาเสียชีวิต) คดีหมายเลขดำ ผบ.458/2558 ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 จ่ายเงินทั้งหมด 886,000 บาท
ผู้ฟ้องคดีคนที่ 2 นายวรัญญู อยู่สุภาพ (ผู้บาดเจ็บ) คดีหมายเลขดำ ผบ. 459/2558 ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 จ่ายเงินทั้งหมด 236,740 บาท
ผู้ฟ้องคดีคนที่ 3 น.ส.วรพรรณ ประเสริฐ (ผู้บาดเจ็บ) คดีหมายเลขดำ ผบ. 460/2558 ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 จ่ายเงินทั้งหมด 355,200 บาท
ผู้ฟ้องคดีคนที่ 4 นายวีรวุฒิ อุปวงศิลป์ (ผู้บาดเจ็บ) คดีหมายเลขดำ ผบ. 461/2558 ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 จ่ายเงินทั้งหมด 285,434.50 บาท
ผู้ฟ้องคดีคนที่ 5 นายลำพูนและนางทอง เจริญเกียรติ (ลูกสาวเสียชีวิต) คดีหมายเลขดำ ผบ. 462/2558 ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 จ่ายเงินทั้งหมด 1,390,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ต้องจ่ายทั้งหมด 3,153,374.50 บาท
ทั้งนี้หากจำเลยประสงค์ที่จะอุทธรณ์คำสั่งของศาล มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันอ่านคำพิพากษา
ด้านนางอานุด อยู่สุภาพ แกนนำที่มีลูกชายได้รับผู้เสียหายจากอุบัติเหตุนี้ กล่าวว่า หลังจากกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 5 คน ได้รับฟังคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ ทุกคนพึงพอใจกับเงินชดเชยเยียวยาที่ได้รับ แม้ค่าชดเชยอาจไม่เป็นไปตามที่เรียกร้องแต่ทุกคนก็จำเป็นต้องลุกขึ้นมาปกป้องคุ้มครองสิทธิของตัวเองในการร้องขอให้ศาลช่วยพิจารณาคดีที่นำไปสู่การเยียวยาที่เป็นธรรมกับความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะบางครอบครัวต้องสูญเสียคู่ชีวิต บางครอบครัวก็ต้องสูญเสียลูกสาวไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาพออุบัติเหตุเกิดขึ้นในฐานะผู้บริโภคก็ไม่ได้ทำอะไร ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปและอุบัติเหตุของชาวแม่สะเรียงกับรถเปรมประชาก็มีมาเรื่อยๆ แต่ครั้งนี้พวกเราอยากแสดงพลังให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเห็นว่าชาวแม่สะเรียงก็ต้องการได้รถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัย มีคุณภาพมาตรฐาน จึงตัดสินใจรวมกลุ่มกันฟ้องคดี
นายคงศักดิ์ ชื่นคงไกรสาศ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเนื้อหาสาระหลักของ “พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551” เป็นคดีแพ่งระหว่างผู้บริโภคหรือผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้บริโภคตามกฎหมายกับผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายอันเนื่องมาจากการบริโภคสินค้าหรือบริการ เป็นกฎหมายที่ผู้บริโภค (รวมถึงผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทน) สามารถฟ้องร้องคดีต่อศาลที่ผู้บริโภคมีภูมิลำเนาอยู่หรือต่อศาลอื่นได้ อีกทั้งสามารถฟ้องคดีภายใน 3 ปีนับแต่วันที่รู้ถึงความเสียหาย แต่ไม่เกิน 10 ปี แต่ถ้ามีการเจรจาเกี่ยวกับค่าเสียหายระหว่างผู้ประกอบธุรกิจและผู้บริโภคอายุความสะดุดหยุดอยู่จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้บอกเลิกการเจรจา และที่สำคัญผู้ฟ้องไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล จึงทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้สะดวกขึ้น
อ่านประกอบ :
บ.เดินรถคู่กรณี"กลุ่มคนรักแม่ฮ่องสอน" ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ตั้งแต่ปี54
คนรักแม่ฮ่องสอน จี้ "ชัชชาติ"สอบบริษัทเดินรถในจ.-ผูกขาดรายเดียว 40 ปี
าก"สาย 8" ถึง "บ.เดินรถแม่ฮ่องสอน" บทพิสูจน์น้ำยา"ชัชชาติ"แกร่งสุดในปฐพีจริงหรือ?