อารยะขัดขืน! เครือข่ายปกป้องอันดามันฯ อดอาหาร ค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน กระบี่
เครือข่ายปกป้องอันดามันฯ อารยะขัดขืน ‘อดอาหาร’ หน้า ก.ท่องเที่ยวฯ ค้านกฟผ.เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ชี้กระทบท่องเที่ยว ธุรกิจนับร้อย ขัดยุทธศาสตร์ Andaman Go Green ขอโอกาสคนอันดามันตัดสินใจเอง
วันที่ 10 กรกฎาคม 2558 เวลา 10.00 น. สมาชิกเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน 2 คน นั่งอดอาหารเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ บริเวณหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
จากนั้นได้แถลงการณ์อารยะขัดขืนต่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อันดามัน จ.กระบี่ ใจความตอนหนึ่งว่า 3 ปีที่แล้ว เราใช้กระบวนการอันมีอยู่ในแผ่นดินนี้บอกกับกระทรวงพลังงานให้หยุดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบนพื้นที่การท่องเที่ยวของโลก
เราไม่อาจนำชีวิตคนนับแสน ธุรกิจนับร้อย การเกษตร และการประมง มาแลกกับกำไรทางธุรกิจของบริษัทถ่านหิน บริษัทที่ได้กำไรบนซากปรักหักพังของอันดามัน เราไม่อาจจะขายหน้าต่อนักท่องเที่ยวทั่วทั้งโลกที่พูดกับเราเสมอว่า คนไทยกำลังคิดอะไรอยู่ จึงเอาโรงไฟฟ้าถ่านหินมาสร้างในพื้นที่การท่องเที่ยวของโลก
แถลงการณ์ ยังระบุว่า กระทรวงพลังงานในยุคปฏิรูปของรัฐบาลนี้ล้าหลังอย่างน่าอาย รัฐบาลที่ประกาศการปฏิรูป แต่กลับดำเนินการตรงข้าม ขณะที่ทั้งโลกประกาศปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินและสร้างพลังงานสะอาดมาทดแทน รัฐบาลปฏิรูปของประเทศไทยกลับดำเนินการอย่างน่าอับอาย ด้วยการเอาใจพ่อค้าถ่านหิน ซึ่งเป็นเป็นการตั้งใจทำลายคนอันดามันให้ประสบกับหายนะ สิ่งที่รัฐบาลควรพิจารณาคือโลกคิดอย่างไรกับถ่านหิน
ทั้งนี้ หายนะการท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องจะกระทบนับ 100 ธุรกิจ ในขณะที่รัฐบาลประกาศว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะกลายเป็นรายได้หลักของประเทศ แต่กลับไม่ทำอะไรเลยกับกระทรวงพลังงานที่ประกาศสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่อันดามัน
สำหรับทางออกด้านพลังงาน แถลงการณ์ ระบุด้วยว่า มีมากมายหลายทาง หากไม่ปิดทางตัวเองว่าต้องเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน หากไม่มีนัยยะซ่อนเร้นกับพ่อค้าถ่านหิน และหากลืมตาดูความเป็นไปของโลก ก็จะพบความจริงว่าโลกไปไกลแล้วเรื่องพลังงานสะอาด
“จ.กระบี่มียุทธศาสตร์การพัฒนาสู่ ‘Krabi Go Green’ และเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2558 คนอันดามันได้มารวมตัวกันราว 1,500 คน ร่วมกันประกาศยุทธศาสตร์ ‘Andaman Go Green’ เพื่อยืนยันว่า อันดามันมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นภูมิภาคสีเขียวแห่งแรกของไทย ทั้ง Green Energy และ Green Tourism ให้อันดามันเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาสัมผัส ให้พลังงานที่ใช้ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขอโอกาสคนอันดามันได้กำหนดอนาคตตนเองบนพื้นฐานของประโยชน์ที่คนอันดามันส่วนใหญ่จะได้รับ”
แถลงการณ์ ระบุอีกว่า กฟผ.รังแกเรา กระทรวงพลังงานไม่ฟังเรา วันนี้เราหมดหนทางจากการได้ใช้วิธีการทั้งมวลแล้ว จึงได้แต่เอาชีวิตและความทุกข์ยากทั้งมวลมาแลกกับทะเลอันสวยงามของอันดามัน แลกกับชีวิตคนอันดามันนับล้านคนที่ถูกทำลายโดยมลพิษถ่านหิน แลกกับธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องอีกนับ 100 ธุรกิจ และกับความรับผิดชอบที่เราพึงมีต่อโลกใบนี้ โดยจะไม่สร้างมลพิษเพิ่มตามคำร้องของสหประชาชาติ .
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:เครือข่ายปกป้องอันดามันยื่นหนังสือสถานฑูตสหรัฐฯ หนุนยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน
โรงไฟฟ้ากระบี่เป็นปัญหาใต้! ภาคประชาสังคมเชื่อรัฐสร้างรองรับอุตฯ ขนาดใหญ่