ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก กก.บลจ.กรุงไทย -5 นักการเมืองท้องถิ่น ซุกทรัพย์สิน
กก.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย -5 นักการเมืองท้องถิ่นไม่รอด! ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุกคดีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน อยู่จ.ขอนแก่น สงขลา กระบี่ ให้รอลงโทษ 1 ปี ห้ามเป็น จนท.รัฐ - เล่นการเมือง 5 ปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อ 19 มิ.ย. 58 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเผยแพร่คำพิพากษาคดีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องกล่าวหา เจ้าหน้าที่รัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. จำนวน 6 คดี
1.ร.ต.สมาน ชัยดี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โจดหนองแก จ.ขอนแก่น (ผู้คัดค้าน) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีรับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และ พ้นจากตำแหน่งมาแล้วครบหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจาก 15 มิ.ย.55 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านมีความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.26/2558 วันที่ 12 พ.ค.58)
2. นายดนรอหมาน ราชเพ็ชร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา (ผู้คัดค้าน)จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วครบหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับจาก 31 ส.ค.55 อันเป็นวันพ้นจำตำแหน่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.29/2558 วันที่ 19 พ.ค.58)
3.นายสาโรจน์ เพชรทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกยาง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ (ผู้คัดค้าน)จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วครบหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 31 และ 33 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจาก 31 ส.ค.55 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท คัดค้านให้รับการสารภาพ มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม 30/2558 – 19 พ.ค.58)
4. นายปรีดา เหล่าเจริญวงศ์ (ผู้คัดค้าน)กรรมการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยรัฐวิสาหกิจถือหุ้นใหญ่ 99.99%) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นตำแหน่งแล้วครบหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 41 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 26 เม.ย.54 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ 31/2558-วันที่ 21 พ.ค.58)
5.นางพยุ ฟุ้งเฟื่อง เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกหาร อ.เขาพนม จ.กระบี่ (ผู้คัดค้าน)จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งเลขาฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับจาก 6 ก.ย.56 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี
(คดีหมายเลขแดงที่ 32/2558-วันที่ 21พ.ค.58)
6.นายสุริยา บุญทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกหาร อ.เขาพนม จ.กระบี่ (ผู้คัดค้าน)จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งเลขาฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับจาก 6 ก.ย.56 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษ จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ 33/2558-วันที่ 21พ.ค.58)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับจากต้นปี 2558 จนถึงขณะนี้นักการเมืองท้องถิ่นถูกศาลฎีกาฯตัดสินจงใจไม่ยืนบัญชีทรัพย์สิน รวม 28 คดี และ กรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 คดี รวม 29 คดี (คน) (เฉพาะคดีที่เผยแพร่คำตัดสินแล้ว)
สำหรับ นายปรีดา เหล่าเจริญวงศ์ เคยเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ริลลินช์ภัทร จำกัด และ ที่ปรึกษาสำนักงาน ก.พ.ร.
อ่านประกอบ:
รายชื่อ 27 นักการเมืองท้องถิ่น จงใจซุกบัญชีทรัพย์สิน ลุ้นในศาลฎีกาฯ
นักการเมือง ตจว.จงใจซุกทรัพย์สินอื้อ! โผล่ใหม่ 4 คดี -รอผลศาลฎีกาฯ 27 คน
ศาลฎีกาฯฟันนักการเมืองท้องถิ่น 11 คนรวด‘ซุกทรัพย์สิน’ สั่ง‘จำคุก’ให้รอลงโทษ