ศาลฎีกาฯฟันนักการเมืองท้องถิ่น 11 คนรวด‘ซุกทรัพย์สิน’ สั่ง‘จำคุก’ให้รอลงโทษ
จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ! ศาลฎีกาฯฟัน นักการเมืองท้องถิ่น 7 จว. 11 คนรวด ห้ามเล่นการเมือง 5 ปี ปรับ 8,000-24,000 บาท จำคุกคนละ 2-6 เดือน แต่ให้รอการลงโทษ คนละ 1 ปี ใน จ. ชลบุรี นครปฐม แพร่ กระบี่ พิษณุโลก อยุธยา และนนทบุรี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้แพร่คำวินิจฉัยคดีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร้อง กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. โดยเป็นคดีที่ยังไม่มีการเผยแพร่มาก่อนจำนวน 11 คดี และศาลฎีกาฯตัดสินให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีความผิดทั้งหมด โดยแต่ละคนถูกลงโทษห้ามเล่นการเมืองหรือดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปีนับจากพ้นตำแหน่ง ปรับ 8,000 - 24,000 บาท จำคุกคนละ 2-6 เดือน แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษ คนละ 1 ปี เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ใน จ. ชลบุรี 1 คน นครปฐม 3 คน แพร่ 1 คน กระบี่ 2 คน พิษณุโลก 2 คน อยุธยา 1 และ นนทบุรี 1 คน
สรุปรายละเอียดดังนี้
1.นางสาวอุลัยรัก สีนิล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ไม่ยื่นบัญชีฯกรณีพ้นจากตำแหน่งเลขานุการฯ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองนับตั้งแต่ 6 ก.ย.56 และให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ คงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.12/2558) 30 มี.ค.58
2.นางมลิวรรณ สุระมณี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลมหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองและในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 1 พ.ย.54 อันเป็นวันพ้นตำแหน่ง และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 เป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.15 /2558) 8 เม.ย.58
3.นายอนุวัตร ทับนาง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองและในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจากวันพ้นตำแหน่ง 1 ก.ย.55 และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 เป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.16 /2558) 8 เม.ย.58
4.นายธงชัย มีฤทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณี พ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 31 ส.ค.55 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.17 /2558) 8 เม.ย.58
5.นางวยุรี วงศ์หมื่นรัตน์ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณี พ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 16 พ.ค.55 วันพ้นตำแหน่ง และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.18 /2558) 8 เม.ย.58
6.นายศิลา ปัญจรี รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก (ประธานเครือข่ายชาวสวนยางระดับจังหวัดพิษณุโลก) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 9 ก.ย.54 วันพ้นตำแหน่ง และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 เป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทงจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.19 /2558) 22 เม.ย.58
7. นายสุรชัย แดนดง เลขานุการนายก อบต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง และ พ้นตำแหน่ง ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 9 ส.ค.56 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา เป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.21/2558) 24 เม.ย.58
8.นายพงษ์ศักดิ์ ละเอียด เลขานุการนายก อบต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 1 พ.ย.54 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 เป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทงจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท ผู้คัดค้าน ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.22/2558) 24 เม.ย.58
9.นายสุรพล พึ่งประดิษฐ์ เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลปราสาทอง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 23 ก.ย.54 อันเป็นวันพ้นจากตำแหน่ง และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 เป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทงจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.23/2558) 24 เม.ย.58
10.นางสาวชุตากาญจน์ หรือ ฌานุกา หรือ ฐินิรัตน์ พลพันธุ์ รองนายก อบต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณี พ้นตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 31 ก.ค.54 ซึ่งเป็นวันพ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ และมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 เป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.24/2558) 28 เม.ย.58
11.นายรชต (หรือ นายประเสริฐ) ลายแบน รองนายก อบต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับจาก 7 ต.ค.54 ซึ่งเป็นวันพ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ กับมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทง จำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท ผู้คัดค้าน ให้การรับสารภาพมีเหตุลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่านายรชตได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงอาญามีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม.25/2558) 28 เม.ย.58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้นักการเมืองท้องถิ่นถูกศาลฎีกาฯตัดสินจงใจไม่ยืนบัญชีทรัพย์สินนับจากต้นปี 2558 รวม 23 คน (กรณีเผยแพร่คำตัดสินแล้ว)
อ่านประกอบ:โผล่อีก 3 นักการเมืองท้องถิ่น!จงใจปกปิดทรัพย์สิน-รอศาลฎีกาฯตัดสิน