"อดีตนักข่าวช่อง 5" อ้างรับค่าตอบแทนที่ปรึกษาวิจัยเอแบคโพลล์ 2.1 ล.
ที่แท้ "อดีตนักข่าวช่อง 5" ปรากฎชื่อรับเงินค่าตอบแทน "เอแบคโพลล์" 2.1 ล้าน ปัจจุบันย้ายมาอยู่ช่องใหม่ "PPTV" ด้านเจ้าตัว ยอมรับทำงานให้จริงเป็นที่ปรึกษาวิจัย แต่ทำในฐานะส่วนตัว ไม่ได้เคยอาศัยความเป็นสื่อช่วย เลิกทำไปตั้งแต่ปี 56 แล้ว -ปธ.สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยันพร้อมลุยสอบข้อเท็จจริง เตรียมประสาน ม.อัสสัมชัญ ขอข้อมูลเพิ่ม
จากกรณีมีการปรากฎชื่อ นักข่าวรายหนึ่ง ในรายงานผลสอบข้อเท็จจริงการดำเนินงานของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์และหน่วยงานเครือข่าย ที่แต่งตั้งขึ้นโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ว่าได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงิน 2.1 ล้านบาท จากวงเงินที่จ่ายค่าตอบแทน 4.4 ล้านบาท ที่สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ จ่ายเป็นค่าตอบแทนให้กับสื่อมวลชน นั้น
(อ่านประกอบ : เปิดผลสอบเงิน"เอแบคโพลล์"จ่ายอุตลุด"ซื้อสุนัข-ค่าตอบแทนสื่อ-เลี้ยงอาหาร ตร.")
ล่าสุด นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แน่นอน ภายหลังจากที่สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ส่งเรื่องนี้มาให้ดำเนินการ
ส่วนนายสุปัน รักเชื้อ กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวยืนยันว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะมีการหารือร่วมกันระหว่างองค์กรวิชาชีพ และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คิดว่าน่าจะมีการสอบถามผลการสอบสวนกรณีนี้อย่างเป็นทางที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และขอความร่วมมือกับ นายนพดล กรรณิการ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อดีตผู้อำนวยการ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มาให้ข้อมูลด้วย
"นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบข้อมูลการนำเสนอของสื่อต่างๆ ในช่วงที่มีการระบุว่า เอแบคโพล จ่ายเงินค่าตอบแทนให้สื่อ ว่า มีการดำเนินการที่ผิดปกติหรือไม่ และในข้อเท็จจริงถ้าผลการสำรวจที่ออกมา เป็นหัวข้อที่ดีและน่าสนใจ ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้สื่อมวลชน" นายสุปัน ระบุ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้รับการชี้แจงข้อมูลจาก "นักข่าว" ที่ปรากฎชื่อเป็นผู้รับเงินค่าตอบแทนจาก เอแบคโพลล์ 2.1 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่เกิดเรื่อง นักข่าวรายนี้ ทำงานอยู่ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 แต่ปัจจุบันได้ย้ายที่ทำงานใหม่มาอยู่สถานีโทรทัศน์ ช่อง PPTV
โดยนักข่าวรายนี้ ยอมรับว่า เคยเข้าไปรับงานเป็นที่ปรึกษาการทำวิจัยให้กับ เอแบคโพลล์ จริง ในช่วงปี 2549-2556 แต่ทำในฐานะส่วนตัว ไม่ได้อาศัยความเป็นนักข่าวช่อง 5 เข้าไปรับงานแต่อย่างใด และเลิกทำไปเมื่อปี 2556
"เราเป็นนักข่าวก็จริง แต่ก็ไปในฐานะนักวิชาการ ลงพื้นที่วิจัยเก็บตัวอย่าง ส่วนการพีอาร์ก็มีกระบวนการของเขาอยู่แล้วในการเชิญนักข่าวมาทำข่าว เราไม่เกี่ยวข้องด้วย"
"ต้องชี้แจงก่อนว่าเราทำหน้าที่ในฐานะคณะวิจัยเป็น คณะวิจัยมีตำแหน่งถูกต้องอย่างเป็นทางการ มีการแต่งตั้งถูกต้องและเป็นที่ปรึกษาโครงการ และเป็นอาจารย์พิเศษ มีลูกศิษย์ลูกหาจริงๆ และเป็นวิทยากรพิเศษอยู่แล้ว”
(อ่านคำชี้แจงละเอียด ในเวทีทัศน์ "จรรยาบรรณเราก็มี":เปิดใจ"นักข่าว"รับค่าตอบแทนเอแบคโพลล์ 2.1ล.?)
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวยืนยันว่า ผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ PPTV ที่นักข่าวรายนี้ เพิ่งย้ายเข้ามาทำงานจากช่อง 5 ได้เชิญตัวนักข่าวรายนี้เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว