ยกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว! เงินกู้บริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน

ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ยกเลิกการกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 หลัง ครม.มีมติให้ยกเลิกการดำเนินการตามแผนงาน ปลายปี 2557

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558  ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ยกเลิกการกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555

ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555  ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ครั้งที่ 1 (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 และครั้งที่ 6 ว่ากระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการกู้เงินภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 (พระราชกำหนด) กับสถาบันการเงิน 4 แห่งประกอบด้วยธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) วงเงินกู้รวม 324,606 ล้านบาท นั้น

ด้วยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ยกเลิกการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการต่าง ๆ ตามโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยของรัฐบาลที่ผ่านมา และให้ใช้แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (ปี พ.ศ. 2558-2569 ) แทน จึงทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินกู้วงเงิน 324,606 ล้านบาท ข้างต้นอีกต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 ประกอบกับมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555

กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า กระทรวงการคลังได้ดำเนินการยกเลิกการกู้เงินสำหรับโครงการเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555  ในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ครั้งที่ 1 (เพิ่มเติม) ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 และครั้งที่ 6 วงเงินกู้รวม 324,606 ล้านบาท กับสถาบันการเงิน 4 แห่ง ข้างต้นเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม กรณีการใช้จ่ายงบในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ขณะนี้มีการใช้วงเงินไปแล้วกว่า 2.5  หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเบิกในช่วงปี 2556   และปีงบประมาณ 2557 เพื่อมาใช้ในการทำพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เพื่อที่จะไม่ให้น้ำเข้าท่วมเหมือนเหตุการณ์ในปี 2554 โดยงบที่เบิกมานั้นมาใช้ในการสร้างคันกั้นน้ำ  (รายละเอียด:สบอช.แจงใช้งบ 2 หมื่นล. โครงการน้ำ สร้างคันกั้นลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตะวันออก-ตก)

ส่วนบริษัทที่ชนะการประมูล ได้แก่ 1.บริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น (เค วอเตอร์) 2.ITD POWER CHINA JV 3.กิจกรรมร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที และ 4.กลุ่มบริษัทค้าร่วม ล็อกซเล่ย์ (อ่านรายละเอียด:คาด! อิตัลไทยกวาด 5 โมดูลจัดการน้ำ เค วอเตอร์ คว้า 'แก้มลิง-ฟลัดเวย์') ยังไม่ได้ลงนามในสัญญาจ้าง  เนื่องจากติดขัดปัญหาเรื่องของสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า บริษัทที่ชนะการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ อย่าง บริษัท K-water รัฐวิสาหกิจของเกาหลี ซึ่งชนะการประมูล 2 โมดูล (แผนงาน) ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์  จากทั้งหมด 9 โมดูล ได้ทุ่มเงินลงทุนไปในโครงการจัดการน้ำฯ มากกว่า 1,000 ล้านบาท  โดยเรื่องดังกล่าว แม้แต่ในการหารือทวิภาคีระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับผู้นำมิตรประเทศระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 25  ที่กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557  นางสาวปัก กีน-ฮเย ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ก็ได้ตอกย้ำ โดยขอให้รัฐบาลไทยดูแลธุรกิจของเกาหลีด้วย โดยเฉพาะการเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการน้ำของบริษัท K-water 

รศ.ดร.สุวัฒนา จิตตลดากร ที่ปรึกษาอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมแหล่งน้ำ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวถึงการประกาศยกเลิกโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทที่เคยประมูลงานฟ้องร้องรัฐบาลหรือไม่ว่า เมื่อประกาศยกเลิกถือว่าสัญญาทุกอย่างยุติไปโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ไม่ได้มีการเซ็นสัญญาจึงไม่น่าฟ้องร้องได้ หากจะฟ้องรัฐบาลจริงอาจทำได้ในส่วนที่ได้ดำเนินการบางโครงการไปแล้ว

"ถ้าอยากฟ้องร้องจริง ๆ คิดว่าคงไม่กล้าฟ้อง เพราะถ้าฟ้อง บริษัทก็ทำมาหากินยาก เพราะจะประมูลงานโครงการต่อไปก็ลำบาก ดังนั้นคิดว่าคงไม่ทีใครทำ"ที่ปรึกษาอนุกรรมการฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้ติดต่อไปยังนายนริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อสอบถามถึงหากถูกบริษัทชนะการประมูลโครงการฯ ฟ้องร้อง โดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ ระบุเพียงว่า เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียง 1 เดือน ยังไม่ทราบข้อมูลทางด้านกฎหมายที่ดี รวมถึงข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณและอนุมัติโครงการทั้งหมดที่ผ่านมา ฉะนั้นหากกล่าวไปอาจมีความผิดพลาดได้ .

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

‘ดร.อภิชาติ’ ลุ้น 4 บ.ชนะประมูล รักษาสิทธิ์ทำโปรเจ็กต์น้ำ 3.5 แสนต่อ

ความเห็นตุลาการ ศาลปค.สั่งกบอ.รับฟังโครงการน้ำ โมดูลเอ 1 - 6 และบี 1- 4