เจ้าของบ.เอส เค วันฯ ปัดผูกขาดรับงาน กสทช. อ้างมีบริษัทใหญ่เป็นคู่แข่ง
เจ้าของ บ.เอส เค วัน แจง "อิศรา" ได้งาน กสทช.ตามกระบวนการปกติ เผยเดินเข้าไปแนะนำตัวกับแต่ละหน่วยงานด้วยตัวเอง ปัดผูกขาด อ้างมีบริษัทใหญ่เป็นคู่แข่ง
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เปิดเผยรายงานตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่าในปี 2556 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษและวิธีตกลงราคาในปริมาณสัญญาที่สูงที่สุด โดยพบว่ามีการใช้วิธีพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้างเป็นจำนวนเงิน ทั้งสิ้น 1,311.79 ล้านบาท ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีตกลงราคา ผู้ขายที่ขายสินค้าให้สำนักงาน กสทช. สูงที่สุด คือ บริษัท เอส เค วัน ซีสเท็ม จำกัด เป็นจำนวน 84 ใบสั่งซื้อ เป็นจำนวนเงิน 6.50 ล้านบาท นั้น
( อ่านประกอบ : เจาะธุรกิจ"เอส เค วัน"คู่ค้าวิธีตกลงราคา "กสทช."พบกวาดงานสภาฯอื้อ 16 ล. ,สตง.ชำแหละกสทช.ฉบับเต็ม! พบจัดซื้อวิธีพิเศษพุ่ง1.3พันล. หวั่นเอื้อทุจริต )
ล่าสุด นายสุรชัย สินสุกิจ กรรมการบริษัท เอส เค วัน ซิสเท็ม จำกัด ได้ติดต่อขอชี้แจงข้อเท็จจริงกับสำนักข่าวอิศรา
โดยระบุว่า ภายหลังการเสนอข่าวดังกล่าว ทำให้มีลูกค้าไม่สบายใจ ตั้งคำถาม ทั้งที่เอสเควันฯเพียงบริษัท เล็กๆ ดำเนินงานกับหน่วยงานรัฐตามกระบวนการปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า บ.เอสเควันฯ เข้าไปเป็นคู่สัญญา กับ กสทช. ได้อย่างไร
นายสุรชัยกล่าวว่า เดิมทีทำงานเป็นเซลล์ด้านอุปกรณ์ดิจิตอล เมื่อลาออกมามีร้านขายวัสดุเกี่ยวกับอุปกรณ์ปรินเตอร์ เมื่อทราบว่าหน่วยงานรัฐ หน่วยงานไหน ต้องการสินค้าประเภทนี้ ก็เข้าไปแนะนำตัว ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ทำให้รู้จุดอ่อน จุดแข็ง ของบริษัทใหญ่ เมื่อบางอย่างที่บริษัทใหญ่ทำไม่ได้ ไม่คล่องตัว แต่บางครั้งบริษัทเล็กๆ ของตนทำได้ ก็ทำให้หน่วยงานรัฐเลือกร้านของตน
“คือมีบริษัทอีกหลายร้อยหลายพันบริษัทที่ทำค้าขายกับราชการ ผมก็งง และไม่สบายใจ เมื่อมีชื่อบริษัทผมปรากฏเป็นข่าว ลูกค้าที่ผมขายอยู่ก็ไม่สบายใจ จริงๆ แล้ว ผมก็ดีใจที่ได้มีชื่อออกสื่อ บริษัทผมคงไม่มีปัญาจะจ้างสื่อ แต่ก็ขอความเป็นธรรม ว่าเราได้งานมาก็เพราะผมไปอธิบายกับลูกค้า ไปพรีเซนท์งานด้วยตัวเอง อดทนกับลูกค้า หลังจากที่ตัวผมเอง ได้ลาออกบริษัทใหญ่แล้วก็มาทำงานของตัวเอง ก็พยายามติดต่อหน่วยงานราชการ ที่ผมเคยขายของให้เมื่อตอนที่ผมเคยอยู่บริษัทใหญ่ ร้านผมที่ได้เป็นคู่สัญญาที่เป็นข่าวก็ แค่ 6 ล้านบาทเท่านั้น” นายสุรชัยระบุ
และกล่าวว่า เอสเควัน ค้าขายพวกวัสดุสำหรับปรินเตอร์อาทิหมึกพิมพ์และพิมพ์งานดิจิตอล วัสดุสำนักงานที่หน่วยงานราชการต้องใช้ทุกวัน
นายสุรชัยกล่าวว่า เมื่อก่อนหลายหน่วยงานก็ซื้อวัสดุเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ดิจิตอลจากร้านประจำที่ตนเคยทำงาน ต่อเมื่อเริ่มมีร้านของตัวเอง เริ่มแรกที่ก่อตั้งร้าน จึงได้ไปแนะนำตัวกับหน่วยงานต่างๆ ว่าเป็นใคร ร้านมาจากไหน รับผิดชอบ รักษาความรวดเร็วในการมอบงาน
“บริษัทผมมีแค่ 7-8 คน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกค้าพอในในบริการของผม ผมก็ดีใจแล้ว” นายสุรชัยระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการตกลงราคากับ กสทช. รวมแล้วกว่า 84 ครั้ง เป็นสินค้าอะไร นายสุรชัยกล่าวว่าส่วนใหญ่ เป็นหมึกปรินเตอร์ หมึกเลเซอร์ต่างๆ ที่ไว้ปรินท์งานและพิมพ์งานต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการได้งานกับ สำนักงานเลขาธิการสภาสภาผู้แทนราษฎร
นายสุรชัยกล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ต่างไปจากที่อิศราเสนอข่าวคือใน่สวนของเครื่องพิมพ์อิงเจ็ตระบบ ดิจิทัล 3 เครื่อง วงเงิน 5,681,700 บาทนั้น ในที่สุด หน่วยงานดังกล่าวไม่ได้ทำสัญญากับร้านของตน ส่วนการได้งานอื่นๆก็เนื่องจากไปพรีเซนท์ ไปนำเสนองานตามปกติ
“หน่วยงานเหล่านี้ สมัยที่ผมเป็นลูกจ้างร้านอุปกรณ์ดิจิทัล ผมก็เป็นเซลล์ในพื้นที่เหล่านี้ เมื่อถึงวันที่ผมมีร้านของตัวเอง ผมก็ไปพรีเซนท์กับเขาว่าถ้าผมทำได้ ก็โปรดพิจารณา แต่ถ้า ผมทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องพิจารณาผม เช่นงานของสภาฯ เราก็ผลิตเอกสารให้กรรมาธิการ แม้แต่การปฏิรูป ผมก็ทำให้ เช่น เมื่อเขาต้องการใช้เครื่อง ผมก็เอาเครื่องมาตั้งให้เลย เราเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็ทำทุกอย่างรวดเร็ว รับผิดชอบงาน”
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการเป็นคู่สัญญากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสุรชัยกล่าวว่าเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร เนื่องจากเป็นตัวแทนเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อหนึ่งอยู่แล้ว เป็นการยื่นเสนอไปตามปกติ ทำทุกอย่างไปตามกระบวนการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ว่าหน่วยงานรัฐอีกเยอะหรือไม่ที่เป็นคู่สัญญากับร้านของนายสุรชัย
นายสุรชัยกล่าวว่ามีอีกไม่มาก เป็นหน่วยงานย่อยๆ
“ผมรับจ้างถ่ายเอกสารด้วย ที่ไหนมีงาน เราก็รับ เท่านั้นเอง ธุรกิจของเรา ใช้วิธีไปพรีเซนต์โดยตรง เมื่อเขาสนใจ ก็ใช้วิธีตกลงราคา สิ่งที่เราขายได้คือ ขายพวกวัสดุ สินค้าที่ใช้แล้วหมดไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเป็นคู่สัญญากับ กสทช.ถึง 84 ครั้ง ถือเป็นการผูกขาดหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า ในการเสนองานมีคู่แข่งและมีบริษัทที่ใหญ่กว่า
“ผมมีคู่แข่งนะครับ และมีบริษัทที่ใหญ่กว่าผมอยู่” นายสุรชัยระบุ
ภาพประกอบจาก : www.google.co.th