จักริน :วันนี้ผมต่อสู้คดีละเมิดลิขสิทธิ์รูป เพื่ออนาคตช่างภาพไทยทั้งปท.
"..ณ เวลานี้เมื่อวงการถ่ายภาพเรากำลังถูกละเมิด ผมมองว่าไม่ใช่เพียงแค่ผมเท่านั้นมันหมายถึงทุกคนที่ถือกล้องถ่ายภาพอยู่ในมือ ผมพยายามจะสื่อความรู้สึกที่ผมมีว่าไม่ได้ทำเพื่อตนเองผมกำลังทำเพื่อทุกคนเพื่ออนาคตของช่างภาพรุ่นต่อๆไป.."
ตั้งแต่วันแรกที่ผมจับกล้องถ่ายภาพจนถึงวันนี้ผ่านมากว่า30ปีแล้ว
เริ่มตั้งแต่ฟิลม์ ขาวดำ ฟิลม์สี ฟิลม์สไลด์ จนปัจจุบันเป็นไฟล์ดิจิตอล
สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คือ ภาพถ่ายทุกภาพผมตั้งใจสร้างสรรค์ทุกภาพ เพราะผมคิดเสมอว่า ภาพถ่ายเป็นงานศิลปะเช่นเดียวกับภาพวาดและปฏิมากรรมชิ้นเยี่ยม
ภาพถ่ายนั้นเป็นศิลปะหนึ่งในสาขาทัศนะศิลป์ ซึ่งไม่ว่าประเทศใดในโลก ภาพถ่ายก็ยังถูกยกย่องเป็นงานศิลปะชั้นสูงเช่นเดียวกัน...
ฉะนั้นภาพถ่ายจึงจัดเป็นศิลปะแขนงเดียวกับภาพวาด ที่ควรได้รับการคุ้มครองเรื่องลิขสิทธิ์ ทางปัญญาเช่นกัน
ปัจจุบันผมเองไม่เพียงแต่ถ่ายภาพเป็นอาชีพ ผมยังสอนถ่ายภาพให้ผู้สนใจและชมรมถ่ายภาพทั่วประเทศรวมถึงสอนถ่ายภาพให้มหาวิทยาลัยทั่วภาคอีสานในสาขาศิลปะการถ่ายภาพและทัศนะศิลป์ ...ในคณะศิลปกรรมและคณะศึกษาศาสตร์ ซึ่งบุคคลเหล่านี้เมื่อเรียนจบออกไปจะเป็นอาจารย์สอนนักศึกษารุ่นต่อๆไป...
สาระสำคัญที่ผมพยายามสั่งสอนและปลูกฝังนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การถ่ายภาพหรือการจัดองค์ประกอบศิลป์เท่านั้น
ผมสอดแทรกศีลธรรม จริยธรรม ตลอดไปจนถึงจรรยาบรรณของช่างภาพที่ดี
สอนสิ่งที่เราควรคำนึง ก่อนที่เรากดชัตเตอร์ โดยไม่เอาเปรียบบรรยากาศโดยรอบ ต้องให้เกีรยติสถานที่ ที่สำคัญต้องทุ่มเทอุทิศตนเพื่อสังคมและผู้อื่นเสมอ...
มาวันนี้ผมกำลังสงสัยว่า สิ่งที่ผมสอนสั่งลูกศิษย์หลายพันคนที่ผ่านมานั้น กำลังถูกสั่นคลอนด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์
โดยการถูกคนบางคนหรือบางกลุ่มก๊อบปี้ภาพถ่ายของเราไปแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตนเองโดยไร้ความรับผิดชอบ ไม่มีการขออนุญาตใด
ผมกำลังคิดว่า หรือสิ่งที่เราสอนผู้คนมาตลอดชีวิตของผมมากมายมานั้นมันผิดหรือไม่?
...สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมกลับมาทบทวนบทบาทของตนเองต่อสังคมเรา ทำให้คิดไปว่าถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นที่ยอมรับของคนในสังคมใครๆก็สามารถเอางานไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเองได้โดยไม่ผิด โดยเฉพาะเมื่อคนที่เอาภาพถ่ายของผมไปใช้นั้นก็ทำงานเป็นสื่อ
แล้วเรื่องจรรยาบรรณของสื่อสารมวลชนล่ะ?
ผมยิ่งคิดผมก็ยิ่งรู้สึกท้อแท้ จนแทบสิ้นหวังกับการที่จะทำงานด้านนี้
ผมยอมรับว่าผมเครียดมาก ผมพยายามคิดว่า ผมผิดอะไรที่ผมทำงานศิลปะสร้างสรรงานที่มีคุณค่าทางทัศนะศิลป์ ถ้าเกิดเหตูการณ์แบบนี้แล้วผมร้องขอความเห็นใจจากใครไม่ได้ ต่อไปผมก็คงต้องยอมแพ้ เลิกถ่ายภาพ
อาจถึงเวลาที่ผมต้องวางกล้องถ่ายภาพที่ผมรักมาตลอด เลิกสอนและเลิกยุ่งเกี่ยวกับวงการถ่ายภาพไปตลอดชีวิต...!!
ณ เวลานี้เมื่อวงการถ่ายภาพเรากำลังถูกละเมิด ผมมองว่าไม่ใช่เพียงแค่ผมเท่านั้นมันหมายถึงทุกคนที่ถือกล้องถ่ายภาพอยู่ในมือ ผมพยายามจะสื่อความรู้สึกที่ผมมีว่าไม่ได้ทำเพื่อตนเอง
ผมกำลังทำเพื่อทุกคนเพื่ออนาคตของช่างภาพรุ่นต่อๆไป
มาตรฐานสิ่งเหล่านี้จะเป็นมรดกทางกฎหมายที่จะคุ้มครองและเพื่อความถูกต้องของสังคมไทยต่อไป...
ขอบคุณครับ
จักริน ภัสสรดิลกเลิศ
อ่านประกอบ :
ทนาย"วู้ดดี้-จักริน"เปิดหน้าแลกหมัดคดีลิขสิทธิ์รูป-ตัวเลขชดใช้พุ่ง 1.5 ล.
ทนาย"วู้ดดี้"ไม่รับข้อเสนอจ่ายเงินซื้อรูป ลุยสู้คดีช่างภาพดังฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์
"ช่างภาพดัง"ยื่นฟ้อง"วู้ดดี้" นำรูปถ่ายไปใช้โปรโมทรายการไม่ขออนุญาต
เปิดคำฟ้อง"วู้ดดี้"คดีนำรูปไปไม่ขออนุญาต ทำ"จักริน"คิดเลิกสอนถ่ายภาพ!
หมายเหตุ: ภาพประกอบจาก google