คลี่ข้อสงสัย '3 ผู้จัดวิกพระรามสี่' ปมช่อง 3 อนาล็อกเสี่ยงจอดำ
ทันทีที่ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลากรณีช่อง 3 อนาล็อก จอดำในระบบโครงข่ายทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2557 เวลา 16.30 น. นั้น ทำให้ช่อง 3 ต้องเร่งหารือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ดำเนินการออกอากาศคู่ขนานให้เรียบร้อย ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
โดยในเวทีวิชาการ ‘ช่อง 3 กับ กสทช.:ประเด็นทางกฎหมายและสังคมที่มากกว่าภาวะ ‘จอดำ’ บนเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียม’ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 จัดโดยศูนย์ศึกษานโยบายสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับศูนย์เศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับความสนใจจากนักวิชาการ สื่อมวลชน ตลอดจนผู้จัดละครของช่อง 3 อนาล็อก ได้แก่ อรุโณชา ภาณุพันธ์, จันทร์จิรา จูแจ้ง, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, ธัญญา โสภณ, จริยา แอนโฟเน และปาจรีย์ ณ นคร
นอกจากประเด็นในเวทีแล้ว (อ่านประกอบ:นักวิชาการติง กสท.มองข้ามกฎ ‘ครองสิทธิข้ามสื่อ’ กำกับทีวีดิจิตอล) ช่วงท้าย ผู้ดำเนินรายการเปิดให้ผู้เข้าฟังได้มีโอกาสถามและแสดงความคิดเห็น
สำนักข่าวอิศรา (WWW.ISRANEWS.ORG) ได้รวบรวมบางตอนมานำเสนอ
‘พุดเดิ้ล’ ปาจรีย์ ณ นคร ยกมือตั้งคำถามเป็นคนแรกกับน.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคว่า ในฐานะดิฉันเป็นผู้บริโภครับชมละครช่อง 3 อนาล็อกผ่านทางกล่องทรู หากสุดท้ายจอดำขึ้นมาจริง ผู้บริโภคจะทำอย่างไร
น.ส.บุญยืน ตอบว่า สังคมไทยจะอยู่ได้ด้วยการเคารพกติกา ในเมื่อวันนี้มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้ออกกติกาและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย จึงต้องไม่มีใครรับอภิสิทธิเหนือใคร
“ความจริง กสทช.มิได้สั่งปิดช่อง 3 อนาล็อก แต่อยากให้ไปออกอากาศคู่ขนานแทน หากคุณยังเลือกออกอากาศอนาล็อกก็รับชมได้เฉพาะภาคพื้นดิน สมมติดิฉันเป็นช่อง 3 เลือกระบบอนาล็อกอย่างเดียว จะให้ขยายโครงข่ายเพื่อผู้บริโภครับชมได้ชัดขึ้น เพราะสาเหตุต้องรับชมผ่านจานดาวเทียมนั้น เนื่องจากสัญญาณผ่านเสาหนวดกุ้ง-ก้างปลาไม่ชัด”
น.ส.บุญยืน ยังระบุถึงกรณีศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2557 แสดงว่าศาลได้การันตีคำสั่งของ กสท.ให้ผู้บริการโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวียุติการออกอากาศช่อง 3 อนาล็อก ทั้งนี้ เสนอแนะให้เร่งออกอากาศคู่ขนานแทน
ส่วนผู้บริโภคจะฟ้องต่อศาลเพิ่มเติมกรณีจอดำนั้น เชื่อว่าสุดท้าย ศาลจะชี้ว่าผู้บริโภคยังมีทางเลือกอื่นให้รับชมได้ แต่ท้ายที่สุด ดิฉันไม่เชื่อว่า ช่อง 3 อนาล็อก จะยอมปล่อยให้จอดำ และเลือกใช้ระบบอนาล็อก
ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค จึงตั้งคำถามกลับไปยัง ‘พุดเดิ้ล’ ว่า คุณเชื่อเหมือนดิฉันหรือไม่ ก่อนจะได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายว่า “ไม่แน่ใจ”
ด้าน ‘อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง’ กล่าวเชิงตั้งคำถามว่า ขณะนี้ผู้บริโภคเข้าไม่ถึงทีวีดิจิตอลเกิดจากการไม่ยอมออกคู่ขนานของช่อง 3 อนาล็อกหรือไม่ หรือเป็นเพราะความไม่พร้อมของ กสทช. เพราะวันนี้ผู้บริโภคเกิดความสับสน และต่างกล่าวโทษช่อง 3 อนาล็อก เป็นตัวถ่วงความเจริญ พวกเราจึงตกเป็นจำเลย
รศ.อรพรรณ พนัสพัฒนา คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรกของ กสทช. แต่แทนที่จะแก้ไขให้ถูกต้องก่อน กลับพยายามกลัดกระดุมเม็ดต่อไปอีก จนทำให้ผิดไปเรื่อย ๆ ดังนั้น ขอเสนอให้ กสทช.ระงับคำสั่งไว้ก่อน จนกว่าคดีที่ช่อง 3 อนาล็อก ฟ้องร้องต่อศาลปกครองจะสิ้นสุด
“ระยะนี้ควรให้ช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศไปก่อน แล้วตกลงกันให้เสร็จว่า หากศาลตัดสินให้ผู้ประกอบการสิ้นสภาพก็ต้องยอมรับ แล้วคิดต่อว่าจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าตัดสินให้ กสทช.มีความผิดก็ต้องยอมรับเช่นกัน” นักวิชาการนิติศาสตร์ กล่าว
ด้านรศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ‘อ๊อฟ พงษ์พัฒน์’ ในประเด็นข้างต้น แต่อธิบายเพิ่มเติมว่า ทีวีดิจิตอลมีปัญหาหลายเรื่อง กล่าวคือ ความไม่พร้อมของผู้ประกอบการ ลักษณะโครงข่ายไม่เป็นไปตามสัญญา ไร้การจัดทำเรตติ้ง ส่งผลกระทบต่อโฆษณา อีกทั้ง ผู้บริโภคยังมีความเคยชินกับการเปิดดูช่อง 3 อนาล็อกอยู่ สิ่งเหล่านี้ต้องเร่งแก้ไข
ฝ่ายน.ส.บุญยืน เสริมว่า ช่อง 7 มีสัดส่วนผู้บริโภค 77% ช่อง 3 มีสัดส่วนผู้บริโภค 74% แต่ช่อง 7 กลับมีรายได้น้อยกว่าช่อง 3 จึงตอบไม่ได้ว่า ใครจะดึงใครในทีวีดิจิตอล หากมุ่งในเรื่องผู้บริโภค วันนี้เราเป็นลูกค้าช่อง 3 อนาล็อก ซึ่งไทยต้องมีกฎระเบียบ ขึ้นอยู่กับจะเลือกไปทางไหน
“ผู้บริโภคคงไม่ไปต่อสู้เพื่อช่อง 3 อนาล็อก ให้เอาช่อง 3 คืนมา คงไม่ได้ เพราะต้องมีกฎกติกาอยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะเป็นแฟนขอร้องให้ไปหาข้อตกลงกติกากันมา” ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค สรุป
ขณะที่ ‘หน่อง’ อรุโณชา ภานุพันธ์ กล่าวเป็นคนสุดท้าย โดยขอความเห็นใจว่า ทีวีดิจิตอลเกิดขึ้นครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ซึ่งตามแผนดำเนินงานใช้ระยะเวลาเปลี่ยนผ่านถึง 11 ปี และใช้คอนเซปต์ Any Way Any Time โดยการเปิดช่องทางรับชมทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ ๆ ซึ่งส่วนตัวยังงงว่า เราสามารถรับชมทีวีผ่านโทรศัพท์มือถือได้แล้วเหรอ???
สำหรับประเด็นที่พูดคุยกันกรณีช่อง 3 อนาล็อก จะจอดำภายในวันที่ 11 ตุลาคม 2557 ผลกระทบจะเป็นอย่างไร ‘อรุโณชา’ กล่าวว่า ในฐานะผู้บริโภคในทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีราว 70% ของผู้ชมทั่วประเทศ จะไม่ได้รับชม ซึ่งระยะเวลาเปลี่ยนผ่านนั้นต้องให้เกิดความพร้อมหลายส่วน
“หน่องทำละครเรื่องหนึ่ง ยกตัวอย่าง ‘บางระจัน’ ต้องเตรียมงานเป็นปี ตั้งแต่การเตรียมบท ถ่ายทำ ซึ่งก่อนหน้าจะมีการประกาศคำสั่ง เราได้วางแผนการผลิตล่วงหน้าไปแล้ว” เธอ อธิบาย และว่า ล่าสุดได้พูดคุยกับคุณวิทวัส สุนทรวิเนตร์ หนึ่งในผู้ผลิตรายการช่อง 3 อนาล็อก ก็ถูกถอดโฆษณาออกทันที เพราะลูกค้าไม่มีความมั่นใจรายการจะได้ออกอากาศหรือไม่
กรณีเช่นนี้ อรุโณชา เห็นว่า เกี่ยวพันกับแผนงานหมด ตั้งแต่เอเจนซี่โฆษณา โดยเฉพาะช่วงละครตอนอวสาน ซึ่งจะมีเรตติ้งสูงสุด เพราะคนรอชม ก็จะกระทบต่อการวางแผนซื้อสื่อนั้น ๆ อีกอย่างหนึ่ง ละครของเธอที่กำลังออกอากาศผลิตมาเป็นปี แต่ผู้บริโภคอาจรับชมได้ไม่จบเรื่อง ถือเป็นความสูญเสีย เปรียบกับคอลัมน์หนึ่งที่เราเขียนจนผู้อ่านติด แต่กลับถูกจำกัดช่องทางการจัดจำหน่าย
“เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้น เหมือนงานที่สร้างสรรค์หายไปจากสายตาผู้ชม 70% ด้วยเหตุอันใด ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น จึงอยากขอความเป็นธรรม อยากให้คนดูละครจนจบเรื่อง และให้การเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิตอลเป็นไปอย่างละมุนละม่อม ไม่ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่าย” เธอ วิงวอน
ทั้งหมดนี้ คือ ช่วงประเด็นที่ถูกตั้งคำถามขึ้นจากผู้จัดละครช่อง 3 อนาล็อก ที่ใกล้จะปิดตัวลงในเย็นวันที่ 11 ตุลาคม ศกนี้?!?! .