เจ้าของแคมเปญล้างทุจริตกรมศุลฯ เผยเจอกับตัวถูกเรียกใต้โต๊ะ 4 หมื่น
เจ้าของแคมเปญ "เชนจ์" ศุลกากร เผย สุดทน ถูกเจ้าหน้าที่เรียกเก็บเงินใต้โต๊ะมาหลายครั้ง ล่าสุด ถูกเรียก 4 หมื่นบาท ลั่นจะไม่ยอมทนและไม่อยากให้สังคมไทยยอมจำนนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบศุลกากร เตรียมยื่น คสช. แก้ไขปัญหา เมื่อรวบรวมรายชื่อผู้สนุบสนุนได้ตามเป้าหมาย
จากกรณีที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ใช้ชื่อว่า "สินัตตรา ประเสริฐสม" ได้เข้าไปตั้งแคมเปญรณรงค์ ล่ารายชื่อประชาชนผู้สนับสนุนให้มีการตรวจสอบและรื้อการคอรัปชั่นที่ทำกันมายาวนานในกรมศุลกากร จำนวน 3 หมื่นรายชื่อ ในเว็ปไซต์ www.change.org เพื่อรวบรวมให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการทำงานและระบบการคอรัปชั่นทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องยาวนานในกรมศุลกากร
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2557 นางสาวสินัตตรา ประเสริฐสม ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงสาเหตุและที่มาของการเริ่มแคมเปญเพื่อยื่นเสนอให้ คสช. แก้ไขปัญหาดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตท แต่ปัจจุบัน ทำธุรกิจส่วนตัว เกี่ยวกับการนำเข้าวัสดุก่อสร้าง ซึ่งปัญหาการคอร์รัปชั่นโดยการเรียกรับผลประโยชน์ในศุลกากรเคยได้ยินมานาน และทราบว่าเป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน ทั้งในสนามบินและที่ท่าเรือ แต่ปัจจุบันเมื่อมาประกอบธุรกิจด้วยตนเอง ก็ได้ประสบกับการเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ศุลกากรโดยตรง
“เราเคยได้ยินมามากว่ามีทั้งกรณีที่บริษัทชิปปิ้งฮั้วกับศุกากรเพื่อที่จะเรียกเงินใต้โต๊ะจากลูกค้า หรือบางทีศุลกากรก็ฮั้วกับชิปปิ้ง โดยใช้ข้ออ้างว่าเอกสาร รายละเอียดไม่เรียบร้อย แจ้งพิกัดผิดบ้าง บางทีก็เรียกว่าขอสินน้ำใจบ้าง”
นางสาวสินัตตรา อธิบายต่อว่า สาเหตุที่ตัดสินใจทำแคมเปญขึ้นในเว็บไซต์เชนจ์ สืบเนืองจากประสบกับตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่พยายามจะแจ้งว่านางสาวสินัตราแจ้งพิกัดสินค้าที่นำเข้ามาผิด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พิกัดจะผิดเนื่องจากนำเข้าผ่านมา 3 ครั้งแล้ว ถ้าผิดคงไม่สามารถออกมาจาก ต้นทางได้
“พิกัดนี้ผู้ผลิตที่ประเทศจีนเขาเป็นคนกำหนดขึ้นมาเอง มันพิกัดที่เป็นสากล บริษัทที่จีนส่งออกไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ที่ไทย ดังนั้น พิกัดผิดไม่ได้แน่นอน” นางสาวสินัตราระบุ
และกล่าวด้วยว่า นับแต่เร่มทำธุรกิจนำเข้า ก็ประสบกับเหตุการณ์ที่ถูกเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์หลายครั้ง ที่ผ่านมาก็ต้องยอม เนื่องจากการส่งสินค้าให้ลูกค้า จะล่าช้ากว่ากำหนดไม่ได้เด็ดขาด แต่ในที่สุด ก็ตัดสินใจทำแคมเปญรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชนที่ต้องการให้มีการรื้อระบบคอร์รัปชั่นในศุลกากร เนื่องจากรู้สึกว่า คนไทย ไม่ควรต้องยอมทนต่อระบบการทุจริตคอร์รัปชั่น ในองค์กรอีกต่อไปแล้ว รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุด ที่ถูกเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์เป็นจำนวนเงินสูงถึง 40,000 บาท
“กรณี ล่าสุด เจอเจ้าหน้าที่เรียกมา 4 หมื่นบาท เขาขอมาเราก้ต้องให้ เพราะถ้าเขาขอมา แล้วเราไม่ให้ สินค้า เราก็ออกมาไม่ได้ เราก็ปรึกษาชิปปิ้งของเรา ที่เขาคุ้นเคยกับระบบนี้อยู่แล้ว เขาก็บอกว่า จริงๆ แล้วจ่ายไป 3 พันบาท เจ้าหน้าที่เขาก็เอา แล้ว ก็จ่ายไป 3 พันบาท แต่จริงๆ แล้ว ที่เราเห็นว่าควรจะต้องรื้อทั้งระบบ เพราะเหตุการณ์แบบนี้มีมานานแล้ว เขาขอมาเราก็ต้องให้ ไม่อย่างนั้น สินค้าเราก็ออกมาไม่ได้ ระบบมันเป็นแบบนี้มานาน แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมคนไทยต้องทน ถ้าใครเข้ามา ในธุรกิจนี้ก็ต้องทนอย่างนั้นหรือ”
นางสินัตรา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยพยายามร้องเรียนต่อรัฐบาลก่อน แต่ไม่เป็นผล ในที่สุด จึงตัดสินใจทำแคมเปญนี้ขึ้นเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้กับใครอีก โดยคาดหวังว่าการที่มีผู้มาร่วมลงชื่อ จะเป็นกลุ่มที่ช่วยก่อให้เกิดแรงผลักดันมากกว่าเราทำเพียงคนเดียว
“เราคิดว่า เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งของสังคม ก็เลยลองเข้าไปทำแคมเปญนี้ในเชนจ์ดู ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่า จะมีคนตอบรับเยอะขนาดนี้ เมื่อได้รายชื่อตามจำนวนที่ต้องการจะนำไปยื่นต่อ คสช. เพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในศุลกากรที่มีการทำเป็นเครือข่ายอย่างเป็นระบบ"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่า ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่ออธิบดีกรมศุลกากร เพื่อสอบถามถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
(อ่านประกอบ : "เอกชน" ล่า 3 หมื่นชื่อร้อง คสช.สางทุจริตกรมศุลฯ หลังถูกเรียกเงินใต้โต๊ะ)