อ้าง"ผู้ใหญ่"สั่ง!ทีโอทีห้าม“อิศรา”เหยียบตึก หลังขอสัมภาษณ์ผู้บริหาร
บริษัท ทีโอทีฯ สั่ง รปภ.ห้าม "อิศรา" ขึ้นตึก เจ้าหน้าที่อ้าง เลขาฯ ยงยุทธ-ซีอีโอ สั่งให้รอที่ด้านล่าง หลังผู้สื่อข่าวแจ้งว่าขอสอบถามปมเอ็มโอยูคลื่น 2100 Mhz เอื้อเอกชน ก่อนถูกปล่อยรอเก้อจนตึกปิดยังไร้เงา เจ้าหน้าที่ โบ้ย! เลขาฯ คงลืม และไม่สามารถตรวจเช็คให้ได้ว่ายังทำงานหรือกลับบ้านไปแล้ว รปภ.เผย "ผู้ใหญ่สั่งมา"
จากกรณีที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดจากหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ที่นายประสิทธิ์ยื่นต่อสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 และหนังสือเรื่อง ลาออกที่ยื่นต่อประธานคณะกรรมการบริษัท ทีโอที จำกัด ( มหาชน ) พบว่ามีใจความตอนหนึ่งระบุถึงการโอนคลื่น 2100 Mhz ของบริษัททีโอที จำกัด ( มหาชน ) ไปให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นใช้ในลักษณะที่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติโครงการโทรศัพท์ 3 จี ที่มีมติให้บริการแบบ MVNO และการโอนคลื่นความถี่ครั้งนี้อาจขัดต่อพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 มาตรา 46 และมีการระบุว่าในระยะเวลา 5-6 เดือนที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารได้มีความพยายามผลักดัน ให้มีการนำคลื่นความถี่ 2100 Mhz ของ ทศท ไปให้บริษัทผู้บริการดทรคมนาคมรายหนึ่งใช้ประโยชน์ โดยชำระค่าตอบแทนการใช้คลื่น เพียงเดือนละเล็กน้อยไม่กี่ล้านบาท และจะไม่นำเสนออนุมัติต่อคณะกรรมการบริษัท ซึ่งอาจขัดต่อ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ มาตรา 46 หรือไม่ หรือไม่ หากขัดต่อกฎหมาย อาจทำให้ฝ่ายบริหารและคณะกรรมการบริษัท อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
( อ่านประกอบ : เปิดทุกฉบับ! หนังสือลาออก "ประสิทธิ์" ย้ำทีโอทีส่อเอื้อประโยชน์ "เอกชน" )
ล่าสุด วันที่ 3 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่า เดินทางไปที่บริษัททีโอที จำกัด ( มหาชน ) อาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารที่ทำงานของนายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อสัมภาษณ์นายยงยุทธ ถึงกรณีดังกล่าว แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ประจำอาคาร ห้ามไม่ให้ขึ้นตึก โดย รปภ.หน้าลิฟท์ แจ้งให้ผู้สื่อข่าวไปแลกบัตรที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวไปแลกบัตร เจ้าหน้าที่โต๊ะสอบถามว่ามาพบใคร เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งความประสงค์ให้ทราบว่าต้องการสัมภาษณ์นายยงยุทธ์ และต้องการพบเจ้าหน้าที่ชื่ออ้อย ซึ่งเป็นเลขาฯของนายยงยุทธ์
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่โต๊ะได้โทรศัพท์ภายในติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ชื่ออ้อย แล้วแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ดังกล่าวติดประชุม ให้ผู้สื่อข่าวรออยู่ด้านล่างนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวยืนยันว่า จะขอขึ้นไปรอที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นห้องทำงานของนายยงยุทธ์และเจ้าหน้าที่ชื่ออ้อย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้ามผู้สื่อข่าวไม่ให้ขึ้นไป โดยกล่าวว่า ผู้ใหญ่สั่งมา หากผู้สื่อข่าวขึ้นไป รปภ. จะเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวจำเป็นต้องขึ้นไป เพราะต้องการให้ผู้บริหารชี้แจง กรณี ที่ บมจ. ทีโอที มีความพยายามจะลงนามข้อตกลงที่อาจเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน จำเป็นต้องให้ผู้บริหารชี้แจง และจะขอขึ้นไปรอ แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่สามารถอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปได้จริงๆ
ผู้สื่อข่าวจึงไปที่ตึก 9 ซึ่งเป็นที่ทำการของฝ่ายกฎหมาย เพื่อสอบถามว่าฝ่ายกฎหมายทราบข้อมูลการโอนคลื่น 2100 Mhz ของบริษัททีโอที จำกัด ( มหาชน ) ไปให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่น ใช้ ในลักษณะที่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติโครงการโทรศัพท์ 3 จี ที่มีมติให้บริการแบบ MVNO และการโอนคลื่นความถี่ครั้งนี้ อาจขัดต่อพระราชบัญญัติ องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 มาตรา 46 ตามข้อมูลที่นายประสิทธิ์ ศิรภากรณ์ ชี้แจงต่ออัยการสูงสุดหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงอาคาร 9 เจ้าหน้าที่ รปภ. ได้มากันไว้และสอบถามว่าจะไปไหน ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งความประสงค์ว่าต้องการมาพบฝ่ายกฎหมาย เพื่อให้ชี้แจง ว่าฝ่ายกฎหมายรับทราบกรณีที่มีความพยายามจะเซ็นสัญญา MOU ที่อาจเอื้อประโยชน์ ให้กับเอกชนหรือไม่
เจ้าหน้าที่ รปภ.กล่าวว่าฝ่ายกฎหมายไม่สะดวก ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวว่าขอให้ผู้สื่อข่าวได้แจ้งกับฝ่ายกฎหมายโดยตรงได้หรือไม่ ซึ่งหากได้รับการยืนยันจากฝ่ายกฎหมายว่าไม่ต้องการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก็จะเดินทางกลับ
เจ้าหน้าที่ รปภ. ได้พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้ เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งความประสงค์ เจ้าหน้าที่ปลายสายกล่าวว่าฝ่ายกฎหมายไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ผู้สื่อข่าวเพิ่งแจงความประสงค์ว่าต้องการสัมภาษณ์ฝ่ายกฎหมาย เหตุใดจึงกล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายไม่สะดวก ผู้สื่อข่าวขอแจ้งความประสงค์กับฝ่ายกฎหมายโดยตรงได้หรือไม่
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุว่า ไม่สามารถติดต่อใครได้ ผู้สื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ที่ผู้สื่อข่าวสนทนาด้วยนี้ อยู่ฝ่ายกฎหมายหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบว่าอยู่ฝ่ายดูแลพื้นที่ ไม่ใช่ฝ่ายกฎหมาย
จากนั้น เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของอาคาร 9 แจ้งผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัท ทีโอทีฯ กำลังเดินทางมาเพื่อพบกับผู้สื่อข่าว
จากนั้น เจ้าหน้าที่แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ 2 คน เดินทางมาพบผู้สื่อข่าว ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งความประสงค์ให้ทราบอีกครั้งและยืนยันว่าต้องการให้นายยงยุทธ์ได้ชี้แจง ในฐานะที่ เป็นผู้บริหารของ ทีโอที ที่ดูแลคลื่นความที่ซึ่งเป็นสมบัติของสาธารณะ ได้อธิบาย ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีความพยายามผลักดัน ให้มีการลงนามข้อตกลงดังกล่าวกับบริษัท AWN ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกับเอไอเอสโดยไม่ผ่านคณะกรรมการบริษัทจริงหรือไม่
เจ้าหน้าที่แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ พยายามอธิบายกับผู้สื่อข่าวว่า เท่าที่ทราบ ยังไม่มีการลงนามกับ AWN ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอไอเอส การเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการยังไม่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวยืนยันว่าต้องการทราบข้อเท็จจริง จากนายยงยุทธ และฝ่ายกฎหมาย วันนี้ มีฝ่ายกฎหมายรายใด สะดวกจะให้ข้อมูลหรือไม่ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์กล่าวว่า จะนำเรียนเรื่องนี้ต่อนายยงยุทธ์ แต่ไม่สามารถให้คำตอบได้ ว่านายยงยุทธ์จะสะดวกให้สัมภาษณ์หรือไม่ และถามผู้สื่อข่าวว่า ให้เวลานานเท่าใด เพราะผู้บริหารอาจไม่สามรถให้ข่าวอะไรที่จะเป็นประเด็นที่ถูกจับจ้องได้ อาจต้องรออีกสักระยะหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวแจ้งว่าทุกประเด็นที่อิศราติดตาม ตรวจสอบ และเดินทางมาทีโอที ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้ง ที่ 4 ในรอบ 1 เดือน แล้ว มีความตั้งใจคือเพื่อขอพบกรรมการบริษัท รวมถึงนายยงยุทธ์ โดยทุกครั้งที่มาล้วนเป็นเรื่องที่ต้องการคำชี้แจงจากผู้บริหารทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นประเด็นที่เกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะ ขณะนี้ เรื่องความพยายามในการผลักดันเอ็มโอยู ระหว่าง ทีโอที กับ AWN ถือเป็นประเด็นที่สำนักข่าวอิศรา ต้องการให้นายยงยุทธ์ชี้แจงอย่างเร่งด่วน เพราะเกี่ยวพันกับการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นประโยชน์สาธารณะ จึงต้องการให้ชี้แจงกับสังคมโดยเร็ว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์กล่าวว่า จะนำเรื่องเรียนต่อนายยงยุทธ และขอเวลาผู้สื่อข่าวสัก 2 วัน เพื่อให้คำตอบว่านายยงยุทธ จะสะดวกให้สัมภาษณ์หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า นอกจากประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งต้องการให้นายยงยุทธชี้แจงแล้ว ยังมีประเด็นเรื่องการผูกขาด การเช่ารถ ที่ต้องการทราบคำชี้แจงด้วยว่า เพราะเหตุใด บ.ทีโอที จึงเช่ารถจากเฉพาะบริษัทเหล่านี้
( อ่านประกอบ : ผ่าขุมทรัพย์เช่ารถยนต์ 800 ล้านใน“ทีโอที”เสร็จ 3 รายใหญ่ )
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ รายนี้กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบจริงๆ เพราะ ในทีโอที มีฝ่ายต่างๆ ที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องต่างๆ เป็นจำนวนมาก ต้องขอเวลาไปตรวจสอบว่าเป็นหน่วยงานฝ่ายใด ที่ดูแลเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อแจ้งความประสงค์ว่าขอสอบถามฝ่ายกฎหมายด้วยตนเองอีกครั้งได้หรือไม่ เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายชี้แจงเรื่องเอ็มโอยู ระหว่าง ทีโอที กับ AWN โดยหากฝ่ายกฎหมายปฏิเสธ ผู้สื่อข่าวก็จะเดินทางกลับ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าว เดินทางจากอาคาร 9 กลับมา ที่อาคาร 1 อีกครั้ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำอาคารยังคงปฏิเสธที่จะให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปบนอาคาร โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ชื่ออ้อย ให้ผู้สื่อข่าวรอที่นี่ เพราะติดประชุม ยังไม่ว่าง ประชุมเสร็จจะลงมาพบ เมื่อผู้สื่อข่าวแจ้งความประสงค์ว่าจะขอขึ้นตึก เพราะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เกี่ยวกับการทำข้อตกลงที่เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ที่ผู้สื่อข่าวต้องสัมภาษณ์ และเป็นการใช้สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ทำไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณะ
เจ้าหน้าที่ รปภ. ไม่น้อยกว่า 3 นายและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำอาคาร 1 กล่าวย้ำว่า ไม่สามารถให้ขึ้นไปได้จริงๆ เพราะผู้ใหญ่สั่งมา
รปภ. รายหนึ่งกล่าวว่า หากเจ้าหน้าที่ที่ผู้สื่อข่าวมาพบ ยอมให้ขึ้นไปได้ ก็สามารถขึ้นไปได้ แต่ตอนนี้ขอให้รออยู่ที่ชั้นล่างนี้ก่อน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวนั่งรออีก ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งถึงเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ชื่ออ้อย ซึ่งเป็นเลขาของนายยงยุทธ ก็ไม่ได้มาพบผู้สื่อข่าว หรือยินยอมให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปพบแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำอาคาร ว่า เจ้าหน้าที่ชื่ออ้อยว่าอย่างไรบ้าง อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวไปพบได้หรือยัง
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเจ้าหน้าที่ชื่ออ้อยไม่ติดต่อกลับมาเลย คงกลับไปแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วยติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ชื่ออ้อยให้อีกครั้งได้หรือไม่
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำอาคารโทรศัพท์แล้วกล่าวว่า สายไม่ว่าง ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้สื่อข่าวจะทราบได้อย่างไร ว่าเจ้าหน้าที่ชื่ออ้อยยังอยู่ที่โต๊ะทำงาน ยังประชุมอยู่ หรือกลับไปแล้ว หากไม่ให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปพบเพื่อดูด้วยตนเองว่าเจ้าหน้าที่รายนี้กลับบ้านหรือยัง ทาง รปภ. และเจ้าหน้าที่จะช่วยเช็คให้ได้หรือไม่
เจ้าหน้าที่ตอบตรงกันว่า ไม่สามารถตรวจเช็คให้ได้ นอกจากโทรศัพท์ไปที่โต๊ะเท่านั้น ซึ่งขณะนี้สายไม่ว่าง ไม่ทราบว่ายกหูโทรศัพท์ออก หรือลืมและกลับบ้านไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ รปภ. แจ้งว่า ผู้สื่อข่าวคงต้องมาใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลา 18.30 น. รปภ.ได้มาแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ตามระเบียบของอาคาร ถึงเวลาที่ต้องขออนุญาตเชิญผู้สื่อข่าวออกไปแล้ว เพราะอาคารมีกฎอยู่ว่าให้อยู่ได้ถึงเพียงเวลา 18.30 น. เท่านั้น