โฆษกศาลปค.ปัดไม่รู้ผลมติ ก.ศป. สิ้นสภาพ-ยันสอบต่อปม จม.น้อยฝากตร.

โฆษกศาลปกครอง ปัด ไม่รู้ผลมติที่ประชุม หลังหัสวุฒิ เรียกประชุมด่วน สรุปก.ศป.ยังอยู่หรือสิ้นสภาพ หลังรธน.สิ้นสุด ระบุเชื่อ กก.สอบปม "จดหมายน้อย" ยังเดินหน้าต่อไป 

จากกรณีที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายหัสวุฒิ วิทิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุดในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการศาลปกครองสูงสุด( ก.ศ.ป.)เรียกประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดเป็นการเร่งด่วนในวันพุธที่ 4 มิถุนายน เพื่อพิจารณาสถานะของ ก.ศป.โดยนายหัสวุฒิเห็นว่าสิ้นสภาพตามรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอาจส่งผลกระทบต่อกรณีที่ กศป มีมติ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนายหัสวุฒิ วิทิตวิริยกุล ว่ามีส่วนรู้เห็นและเห็นชอบในการกระทำของนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ในการทำหนังสือจำนวน 2 ฉบับ ไปถึงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เพื่อสนับสนุนพ.ต.ท.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงกุล รองผกก.ป. สน.หัวหมาก เป็นผู้กำกับการ (ผกก.) 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 ภายหลังงานประกาศผลรางวัล เล่าเรื่องคดีปกครอง ท้าประลองทำหนังสั้น” ที่มีนายเกษม คงสัตย์ธรรม รองประธานศาลปกครองสูงสุด  เป็นประธานมอบรางวัลแก่นักศึกษาที่ได้รับรางวัลจากการส่งภาพยนตร์เข้าประกวดในโครงการดังกล่าว  

นายไพโรจน์ มินเด็น ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง ให้สัมภาษณ์ถึงสื่อมวลชนถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประธานศาลปกครองสูงสุดได้เรียนเชิญตุลาการศาลปกครองสูงสุด 3 ท่าน มาขอคำปรึกษาถึงสถานะของ กศป. โดยการปรึกษาเริ่มขึ้นตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึงบ่าย 3 โมงจึงแล้วเสร็จ 

นายไพโรจน์กล่าวว่าโดยส่วนตัวแล้ว ตอนนี้ยังไม่ทราบมติใดๆ จากที่ประชุม กศป แต่ประเด็นหลักในที่ประชุมคือการหารือเรื่องสถานะ เนื่องจาก กศป เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐธรรมนูญสิ้นสุด ก็ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกฎหมายว่าสถานภาพของ กศป  ยังคงอยู่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถามว่า เมื่อสถานะของ ก.ศป ยังไม่ชัดเจน แล้วกรณีที่ กศปมีมติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี จดหหมายน้อย จะยังมีการดำเนินการสอบต่อไปหรือไม่ นายไพโรจน์ ตอบว่า เมื่อมีมติไปแล้ว ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า ก็ต้องดำเนินการต่อ

“ส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับ ก.ศป เพราะ ก.ศป มีมติ ไปล้วว่าให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นการมีมติก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้น ในทางปฏิบัติก็ต้องทำกันต่อไป แต่นี่ในความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ แต่ผมยังไม่ทราบแน่ชัดว่าที่ประชุม ก.ศป มีความเห็นอย่างไร หลังจากที่ประธานศาลปกครองสูงสุด เรียกขอคำปรึกษาวานนี้” นายไพโรจน์ระบุ

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ถามอีกว่า ยืนยันได้แน่ชัดหรือไม่ว่ากรรมการสอบข้อเท็จจริง จะยังทำงานต่อไป
นายไพโรจน์ กล่าวเพียงว่า “ก็รับมอบไปแล้ว ก็ต้องดำเนินงาน”

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าของการสอบข้อเท็จจริงกรณีจดหมายน้อย นายไพโรจน์ตอบว่าไม่ทราบ เพราะยังไม่มีรายงานใดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายไพโรจน์ ทราบหรือไม่ว่า  ปธ.หัศวุฒิจะชี้แจงหรือตอบคำถามต่อสาธารณะ ถึงข้อเท็จจริงในกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่านายหัสวุฒิรู้เห็นเรื่องจดหมายน้อย นายไพโรจน์ ตอบว่า เมื่อการสอบข้อเท็จจริงยังไม่สร็จ ก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องชี้แจงอะไร เพราะว่ายังเป็นเรื่องของการสืบหาข้อเท็จจริง รอให้ข้อเท็จจริงเปิดเผยก่อน แล้วค่อยว่ากัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื่องจากสังคมยังตั้งข้อสังเกต เมื่อประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นผู้ที่ถูกกล่าวหา ก็ควรต้องแสดงความชัดเจน หรือแสดงความรับผิดชอบด้วยการตอบคำถามหรือ ชี้แจงใดๆ หรือไม่

นายไพโรจน์ตอบว่า “ท่านประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นผู้รักษาการตำแหน่งประธานศาลฯ ตามกฎหมาย เข้าใจไหม คือท่านต้องดำเนินการตามกฎหมาย ก็เหมือนกับ รมต. แต่ท่านเป็นรักษาการตาม พรบ. จัดตั้งศาลปกครอง เพราะฉะนั้น ท่านก็ทำตามหน้าที่ของท่าน เรื่องรักษาการตำแหน่ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องข้อเท็จจริงและตอนนี้ก็ยังอยู่แค่ขั้นสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ได้มีการสอบสวน หรือสอบวินัย” นายไพโรจน์ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่ารายงานการสอบข้อเท็จจริงกรณีจดหมายน้อยจะแล้วเสร็จ หรือการสอบดำเนินไปถึงขั้นตอนใดและสอบบุคคลใดบ้าง นายไพโรจน์กล่าวเพียงว่ายังไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่าได้สัมภาษณ์นายเกษมที่มาเป็นประธานมอบรางวัลในงานดังกล่าว ถึง กรณีผลการหารือถึงสถานะของ ก.ศป. และการสอบข้อเท็จจริงเรื่องจดหมายน้อย แต่นายเกษมปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กล่าวเพียงว่าให้รอสัมภาษณ์นายไพโรจน์ที่เป็นโฆษกของศาลปกครอง

( อ่านประกอบ : เรียกประชุมใหญ่ตุลาการศาล ปค.สูงสุดด่วน 4 มิ.ย.หารือ สถานะ ก.ศป. )