“ตันหมดแล้ว” หม่อมอุ๋ย ชี้รัฐบาลล้มเหลว บริหารประเทศต่อได้ยาก
อดีตรองนายกฯ ร่ายจดหมายยาวเหยียดส่งถึงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ลาออก ให้เหตุผลทำภารกิจไม่สำเร็จสักอย่าง อยู่รักษาการต่อ รังแต่จะฉุดศก.ทรุด คนไทย ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น การลงทุนที่เกือบจะหยุด ก็อาจหยุดยาว
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดแถลงข่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน พร้อมเสนอทางออก ณ ห้องอิศราอมันตกุล ชั้น 3 อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าวว่า ตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศกำลังเสื่อมถอยลง ธุรกิจท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่การลงทุนในโครงการใหญ่ๆ ก็ขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้ เพราะคนสงสัยว่า จะมีการโกงกินตลอดเวลา ประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยและต่างประเทศก็ตกต่ำถึงขีดสุด ไม่ต่างกับการว่างงานจากที่เคยรู้สึกว่าไม่มีปัญหา ตัวเลขการว่างงานขณะนี้ก็เริ่มสูงขึ้น รวมถึงปัญหาของชาวนาก็ไม่มีใครแก้ไขได้ ฉะนั้นหากรัฐบาลนี้รักษาการต่อไป ปัญหาน่าจะรุนแรงขึ้น การลงทุนที่เกือบจะหยุด ก็อาจจะหยุดเลย เศรษฐกิจอาจไม่เติบโตก็เป็นได้
จากนั้น ม.ร.ว. ปรีดิยาธร อ่านจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โดยร้อยเรียงถ้อยความให้เห็นสถานภาพที่แท้จริง สิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติภารกิจที่สำคัญๆ ให้ลุล่วงไปได้มาโดยตลอด เช่น รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่สามารถจ่ายเงินจำนำข้าวให้กับชาวนาได้ ปล่อยให้ชาวนาจำนวนมากรอรับเงินเป็นเวลานาน ขณะที่การขายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ ก็น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยเพราะไม่มีความสามารถเพียงพอ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความบกพร่องของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ขณะที่เรื่องพลังงานทดแทน นโยบายผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าวว่า ก็เป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องง่าย ทำได้ไม่ยากเลย เช่นเดียวกับแนวคิดการตั้งสภาปฏิรูปประเทศไทย องค์กรเอกชนต่างๆ ทุกองค์กรไม่ให้ความร่วมมือ เนื่องจากไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการปฏิรูปอย่างจริงจัง ต่างก็กลัวว่ารัฐบาลจะมีวาระซ่อน เป็นต้น
ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าวถึงการขาดความเชื่อถือ จนมีผลให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศให้ก้าวหน้าต่อไปได้ เนื่องจากประขาชนสงสัยมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงในทุกๆ โครงการที่รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำหรือโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทั้งประเทศมูลค่า 2,000,000 ล้านบาท ฉะนั้นการที่รัฐบาลที่ล้มเหลวแล้ว เลือกที่จะเป็นรัฐบาลรักษาการต่อไป รังแต่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศรุนแรงขึ้น
“ เหลือทางเดียวจริงๆ ให้ประเทศชาติอยู่รอดได้ นายกฯ ต้องเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ตัดสินใจลาออกจากการเป็นรัฐบาลรักษาการ” ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าว และว่า สำนึกของผู้บริหารประเทศ เมื่อถึงจุดหนึ่งผู้บริหารประเทศจะต้องไม่คิดว่า ใครถูกใครผิด มิเช่นนั้นประเทศจะนิ่งอยู่แบบนี้ ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารประเทศจะต้องหาทางที่ดีที่สุดเพื่อให้ประเทศรอดและเดินหน้าต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้าย ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าวถึงข้อเสนอให้รัฐบาลรักษาการลาออก พร้อมกับเปิดช่องทางที่จะให้มีการแต่งตั้งคนกลางเข้ามาบริหารบ้านเมืองว่า ในรัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ เมื่อถึงทางตันสุดท้ายรัฐบาลล้มเหลว ไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ จะเปิดช่องให้สามารถแต่งตั้งคนกลางได้ ตามกระบวนการประชาธิปไตย ซึ่งคนกลางที่ประชาชนยอมรับนี้มีให้เลือกมากมาย โดยจะต้องเป็นคนที่ประชาชนเชื่อถือ และศรัทธา งานถึงจะเดินต่อไปได้
เมื่อถามถึงกรณีผู้คนออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลหลายล้านคน ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าวว่า ในหลายประเทศทั่วโลก หากมีคนออกมาประท้วงแบบนี้ เปิดใจพูดแบบนี้ไม่ทน ไม่เอา ผู้คนระแวงทุกเรื่องว่าจะโกง เขาลาออกไปแล้ว แค่คิดง่ายๆ ระหว่างให้คน 20 กว่าคนลาออก กับให้คน 3 ล้านกว่าคนเดินกลับเข้าบ้าน อะไรทำได้ง่ายกว่ากัน เพื่อให้ประเทศไปรอด ฉะนั้นหากผู้นำต้องมีใจคิดถึงประเทศชาติจริงๆ และคิดเป็นด้วย
“ที่ผมออกมาในวันนี้เพราะเห็นว่า ตันหมดแล้ว ช่วยชาวนาก็ช่วยไม่ได้ การผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานทดแทน เรื่องเล็กๆ ก็ทำไม่ได้ แล้วจะทำเรื่องใหญ่ๆ ได้อย่างไร”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:จม.จาก"หม่อมอุ๋ย"ถึงยิ่งลักษณ์ เปิดทางคนกลาง-จี้ยุติบทบาท ก่อนปท.เสียหาย
|