ตากหนาว...ลุยวัดลาวในแมดิสัน
หลังจากไปวัดทิเบต Deer Park Buddhist Center ก่อนฤดูหนาวต้นเดือนพฤศจิกายน ความกระหายที่จะเดินทางไปวัดของชนชาติอื่นก็ซ่อนงำในใจเรื่อยมา กระทั่งมาเจอกับ GREGORY หรือ GREG นักศึกษาหนุ่มชาวอเมริกันที่ศูนย์ศึกษานานาชาติ
GREG เรียนที่วิทยาลัยเทคนิคในแมดิสัน เคยมีเพื่อนเป็นคนไทย พูดภาษาไทยได้เล็กน้อยจากการศึกษาทางอินเตอร์เน็ต รู้เรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยบ้าง มีความสนใจพระพุทธศาสนาเป็นพิเศษ เป้าหมายในชีวิตคืออยากบวชเป็นพระสงฆ์ในเมืองไทยสักครั้ง
วันหนึ่งเมื่อบอกความประสงค์ GREG ก็บอกว่า “I have ever been there” เท่านั้นเองการเดินทางก็เริ่มต้นในเวลาเที่ยงตรงของวันหยุดปลายเดือนธันวาคม 2556
ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ เมืองหลายเมืองของรัฐวิสคอนซิน ปกคลุมไปด้วยหิมะ เราซึ่งมี “ภีรกาญจน์ ไค่นุ่นนา”อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และ GREG รวม 3 คนออกจากที่พักขึ้นรถประจำทางสาย 5 ที่สถานี MIFFLIN St. นั่งสุดทางไปลงที่ South Transfer Point จากนั้นรอประมาณครึ่งชั่วโมงต่อสาย 16 ออกนอกชานเมือง ประมาณ 7 นาที รถวนเข้า WOORLAND ROAD ลงป้ายที่เขียนว่า WOORLAND ROAD ตัดกับ Warner STREET จากนั้นเดินตามทางเข้าไปในหมู่บ้านประมาณ 300 เมตร เจอป้าย Warner STREET ตัดกับ Warner Lane เลี้ยวซ้ายเดินตามทางประมาณ 100 เมตร พบบ้านหลังหนึ่งมีธงปักอยู่หน้าบ้าน 3 ผืน 1 ในนั้นเป็นธงธรรมจักร ไม่มีป้ายบอก มองจากภายนอกเหมือนบ้านอาศัย 2 ชั้นธรรมดา เมื่อเดือนเข้าไป ด้านข้างเขียนข้อความ “WELCOME” พร้อมภาษาลาว “ยินดีต้อนรับ” และมองเห็นพระพุทธรูปอยู่มุมห้อง ใช่แล้วที่นี่ คือ “วัดลาว”
ชั้นล่างเปิดประตูโล่งไว้ก็จริง แต่ประตูห้องด้านในถูกปิดล็อกทั้งชั้นล่างและชั้นบน Greg เข้าใจว่าพระยังจำวัดหรืออาจไม่ได้ยินเสียง จึงตัดสินใจเคาะประตู ไม่มีเสียงตอบรับ นั่นก็หมายความไม่มีใครอยู่ เรารอประมาณ 15 นาที ตัดสินใจเดินออกมาอย่างผิดหวัง กำลังก้าวพ้นธรณีสงฆ์ รถยนต์โฟร์วีลคันโตขับสวนมา มองภายในรถมีพระอยู่ 2 รูปพร้อมคนขับและคนที่นั่งมาด้วย 2 คน
“พระมาแล้ว”คนหนึ่งตะโกน เราจึงย้อนกลับอีกครั้ง เมื่อรถยนต์จอดนิ่ง 2 ฆราวาส 2 พระสงฆ์ก้าวลงจากรถด้วยสัมภาระพะรุงพะรัง “ภีระกานต์”กุลีกุจอเข้าไปช่วยขนเข้ากุฎิ พระรูปหนึ่ง ทราบภายหลังชื่อ พระมหาประเสริฐ ธมมปาโล กล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษ “WELCOME” และบอกอีกครั้งว่า “upstairs”
ไม่ลังเลที่จะขึ้นไปชั้น 2 ตามคำเชิญ นั่งรอที่ห้องใหญ่มองดูคล้ายศาลาวัด มีประธานองค์ใหญ่ตั้งอยู่ เมื่อนั่งเข้าที่เข้าทาง พระมหาประเสริฐถามเป็นภาษาไทยว่า พูดไทยได้ไหม?
เมื่อตอบว่าเป็นคนไทย และแนะนำตัวเป็นภาษาไทยว่า คนหนึ่งอยู่ภาคกลาง คนหนึ่งอยู่อีสาน อีกคนเป็นชาวอเมริกันซึ่งเคยมาที่นี่แล้ว การสนทนาภาษาไทยภาคกลาง ภาษาลาว สลับด้วยภาษาอังกฤษก็เริ่มต้น
พระท่านบอกว่าวัดนี้ปัจจุบันมีพระจำวัด 2 รูป คือ ตัวท่านพระมหาประเสริฐ ธมมปาโล กับ พระศรายุธ ปภสสโร เดินทางมาจากรัฐอื่นทั้งคู่
เดิมปี 2007 วัดแห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่ 3 รูป หลังจากนั้นทั้ง 3 ท่านก็ไปจำพรรษาที่วัดอื่น ท่านจึงเข้าบูรณะอย่างเป็นทางการในปี 2009 ตกแต่งใหม่หมด พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เห็นอยู่ท่านไปรับมาจากรัฐเวอร์จิเนีย เจ้าของเป็นชาวต่างชาติประมูลมาจากที่ไหนสักแห่งแล้วเอาไว้ตั้งไว้ในบ้านปรากฏว่าอยู่ไม่มีความสุข เจ็บป่วยอยู่เรื่อย คนไทยแนะนำให้ถวายวัด ก็เลยไปเอามาที่นี่ในปี 2510
รัฐวิสคอนซินมีวัดลาวทั้งหมด 4 แห่ง ในเมดิสันมีชุมชนลาวประมาณ 30-50 ครอบครัว น้อยกว่าเมืองมิลวอลกี้มีอยู่นับพันครอบครัว วัดจัดกิจกรรมทุกอย่างตามหลักพระพุทธศาสนา ฟังธรรมทุกวันอาทิตย์เวลาค่ำ
GREG แจ้งความประสงค์อยากบวช การสนทนาระหว่าง มหาประเสริฐ ธมมปาโล กับ พระศรายุธ ปภสสโร และ GREG ว่าด้วย สติ สมาธิ และปัญญา ก็ดำเนินไปอย่างออกรส
ห้วงหนึ่งพระศรายุธ กล่าวว่า “เอ..นักข่าวนี่ ถ้าพูดถึงเรื่องกรรม เวลาตีแผ่ความดีของบุคคลอื่นถือเป็นกรรมดีนะ แต่ถ้าตีแผ่ความไม่ดีก็ถือเป็นกรรมไม่ดี หักลบกลบล้างกันพอดีนะ เป็นอโหสิกรรม”
แต่ถือว่าเป็นงาน เป็นการศึกษาเรียนรู้ เพราะสิ่งภายนอก ถ้ามีเจตนามันถึงจะเป็นกรรม ถ้าไม่มีเจตนาร้าย กรรมนั้นก็สักว่าเป็นกริยา ถ้ามีเจตนาก็จะมีแรงถ่วงทำให้ลึกลงไป
แต่ถ้าเราไม่พูดถึง เช่น ถาม GREG ว่าคุณชอบความทุกข์หรือถึงได้พูดถึงความทุกข์อยู่เรื่อย ถ้าไม่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงมัน ถ้าเราพูดถึงมันก็เหมือนเป็นวจีที่เชื่อมโยง ถ้าพูดถึงมันบ่อยๆมันก็เหมือนเราเขย่าต้นไม้นะ เขย่าบ่อยๆ เหมือนเราขับรถเจอคนเมาขับอยู่ข้างหน้าถ้าเราบอกว่า “เฮ๊ยมึงแส่มาหากูแล้วหนอๆ” มันก็เหมือนเป็นวจีกรรมของเราที่จะดึงรถมาหาเรา แต่ถ้าเราเห็นแล้วบอกว่า “อย่ามาล้มใส่กูนะ ไปไกลๆนะ” มันก็เหมือนเป็นแรงผลักให้ออกไปไกลๆ เป็นแนวคิดที่ทำให้เรามีทางเลือก มีทางออกนั่นแหละเขาเรียกว่าปัญญา แต่ถ้าไม่มีทางออก ไม่มีทางเลือกแสดงว่าปัญญาไม่เกิด เหมือนเราขับรถหลงทาง ไม่มีทางไป ไม่มีทางออก เราจะเครียดทันทีใช่ไหม
ท่านยังบอกอีกว่าปัญหาทั้งหลายทั้งปวง เราต้องช่วยเหลือตัวเราก่อน อย่าหวังจะให้คนอื่นช่วยไม่ได้ เราต้องยื่นมือออกไปก่อนแล้วคนอื่นจะช่วยดึง
“อาตมาว่าถ้าเรามีศรัทธา มีฉันทะ กำลังของความคิด กำลังของปัญญา ก็มองเหมือนกับว่ามองในโลกในแง่ด้านดีหรือด้านบวก เป็น Positive Thinking ถ้ามองโลกในด้านไม่ดี หาฉันทะหาความสุขไม่เจอก็เป็น Negative Thinking”
ขณะที่พระมหาประเสริฐบอกกับ GREG ว่า dhamma หรือธรรม เป็นเหมือนอกาลิโก คุณสามารถปฏิบัติได้ทุกทีไม่ว่านั่งยืนเดินนอน
GREG ข้องใจอย่างต่อเนื่อง จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมงจึงกระซิบบอกเขาว่าเราควรจะกลับ พระท่านจะได้จำวัด
“up to you” GREG ตอบ
ครู่ต่อมาทั้ง 3 คนก็กราบลา พร้อมอาหารคาวหวานและผลไม้ที่พระท่านยกมาให้ 2 ถุงใหญ่
ได้ยินเสียงรำพึงในใจ “รู้สึกเหมือนเด็กวัด ยังไงไม่รู้?”
วัดแห่งนี้มีชื่อว่า Buddhist Temple of Madison ตั้งอยู่เลขที่ 2805 Warner Lane Madison ,WI 53713
เป็นวัดเล็กๆ แต่มีความอบอุ่นตามแบบฉบับไทย-ลาว
….(เสนาะ สุขเจริญ)
อ่านประกอบ:
Deer Park แห่ง“ทะไล ลามะ” วัดทิเบตในวิสคอนซิน
ใบไม้โอบกอด…ที่ OLBRICH GARDENS แมดิสัน