ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ‘เฉลิมพงษ์’ คู่เทียบ ‘วันเฉลิม’ แห่งทองเนื้อเก้า
หลายคนคงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ชีวิตอย่าง 'ด.ช.วันเฉลิม' ในละครฮอตฮิตเเห่งปี 'ทองเนื้อเก้า' จะมีอยู่จริงในสังคมหรือไม่ หากมีอยู่จริง สักกี่คนที่จะหลุดพ้นจากบ่วงตัณหาราคีเช่นนี้ อย่างน้อยก็มีเขา 'เฉลิมพงษ์ ภักดีเรือง'
ความโด่งดังของละครที่ถูกจับตามองแห่งปี ‘ทองเนื้อเก้า’ ยังแรงต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากบท ‘อีลำยอง’ ที่ถูกถ่ายทอดฝีมือโดย ‘นุ่น วรนุช’ จะดีขึ้นทุกวี่ทุกวันแล้ว คงต้องยกเครดิตให้กับเจ้าหนูน้อยต่างวัยผู้รับบท ‘วันเฉลิม’ ลูกชายอีลำยอง อย่าง ‘น้องเมลิค-น้องแม็ค’ ที่ออกอากาศไปเพียง 2 รุ่นก็เรียกกระแสความชื่นชอบในความกตัญญูได้ไม่น้อย เรียกว่าทำเอาคอละครสงสารกันเป็นแถว
แต่จะมีใครรู้บ้างว่าในประเทศไทยได้มีผู้ชายคนหนึ่งที่มีชีวิตเหมือนกับวันเฉลิมใน ‘ทองเนื้อเก้า’ แทบทุกประการ เขาเป็นบุคคลธรรมดา แต่เพียบพร้อมไปด้วยศีลธรรม อุทิศตนเพื่อส่วนรวม จนได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง ผู้ชายคนนี้มีดีกรีเป็นถึงแชมป์วาดภาพ กีฬา อดีตแกนนำนักอนุรักษ์ป่าพรุคันธุลี โดยปัจจุบันทำงานในบ.เอกชนเเห่งหนึ่ง คือ ‘เฉลิมพงษ์ ภักดีเรือง’ (เหลิม) ชาวอ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
‘เฉลิมพงษ์’ ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2531 ซึ่งเป็นวันเกิดเดียวกับ ‘วันเฉลิม’ ในนวนิยายอมตะ ทำให้พ่อแม่ตั้งชื่อนี้ให้เพื่อเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล ในโอกาสที่เกิดในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ภูมิพลอดุลยเดช
เขาบอกเล่าถึงชีวิตวัยเด็กว่า เกิดมาในครอบครัวอบอุ่น มีพ่อแม่ ญาติพี่น้อง กระทั่งระยะหลังแม่เริ่มดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เช่นเดียวกับพ่อที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เล่นการพนัน และติดยาเสพติดด้วย ทำให้ภาพความหลังครั้งเก่าเต็มไปด้วยความขมขื่น เป็นภาพฝังใจตลอดเวลา เพราะเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องเงินหรือหึงหวงบ่อยครั้ง แต่ด้วยความยากลำบากจึงทำให้ตนเองรู้จักคิดและใฝ่ดี เพียงเพื่อไม่อยากให้เกิดภาพเช่นนั้นกับตนเองอีก
“ฉาก ‘ลำยอง’ คิดจะให้ ‘วันเฉลิม’ ออกจากโรงเรียน ทำให้ตนเองรู้สึกนึกถึงตอนจะเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมต้น ช่วงนั้นแม่ก็พูดกับตนเองให้หยุดเรียนเหมือนกัน เพราะไม่มีเงินที่จะซื้อเสื้อผ้านักเรียนใหม่ แต่ก็พยายามบอกแม่ว่าเราอยากเรียนต่อ และพยายามขวนขวายทำอย่างไรก็ได้เพื่อจะได้เรียน กระทั่งน้าเข้ามาช่วยเหลือส่งให้เรียน แต่มีข้อแม้ตนเองจะต้องช่วยทำงานรับจ้างตอบแทน”
เขากล่าวต่อว่า ใครจะบอกเป็นคนจนก็ยอมรับ ไม่อายใคร เมื่อใครถามจะบอกว่าที่บ้านจน เผื่อบางทีอาจได้รับโอกาสหยิบยื่นบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม รู้สึกไม่ดีหากจะมีใครมาต่อว่าแม่เป็นพวกขี้เมาจะรู้สึกโกรธมาก ทั้งนี้ กลับกันหลายคนก็ชื่นชมว่า แม้แม่จะติดเหล้า แต่เรายังเป็นคนดี ขยันทำงาน ตั้งใจเรียนอยู่
กระทั่งพ่อกับแม่แยกทางกัน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แม่เริ่มดื่มเหล้ามากขึ้น สูบบุหรี่หนักขึ้น และบางครั้งเมื่อเมามากก็จะตีเราโดยไม่มีเหตุผล เช่นเดียวกับในละคร แต่ผิดกับ ‘อีลำยอง’ อย่างหนึ่งตรงที่แม่ยังคงทำงานเลี้ยงดูตามกำลัง และสั่งสอนให้เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ลักขโมยของ
แต่แล้วความทุกข์ก็เข้ามาเยือน เมื่อ ‘เฉลิมพงษ์’ เล่าต่อว่า แม่ต้องมาจากไปด้วยโรคมะเร็ง อันเกิดจากการดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ซึ่งช่วงนั้นตนเองกำลังศึกษาอยู่ที่ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี เมื่อกลับไปเห็นสภาพร่างกายของแม่ที่ซูบผอม หนังหุ้มกระดูก เลยแอบน้ำตาไหลไม่ให้แม่เห็น อย่างไรก็ตาม แม้แม่จะร่างกายไม่แข็งแรง แต่ท่านยังเดินไปซื้อกับข้าวมาปรุงให้ตนเองทาน เรียกว่าใช้เวลาช่วงปิดเทอมตลอด 3 เดือนมาดูแล จนแม่ลาลับโลกไป
เฉลิมพงษ์ ยังสะท้อนว่า ได้นั่งชม ‘ทองเนื้อเก้า’ ทุกสัปดาห์ รู้สึกเหมือนกำลังดูตนเองอยู่ แม้บางฉากบางตอนอาจจะไม่สุดโต่งเหมือนชีวิตจริง แต่ก็เป็นเสี้ยวหนึ่งที่ทำให้ระลึกถึง ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่เกิดมาในมีชีวิตเช่นนี้ เพราะถ้าไม่มีวันนั้น เชื่อว่าคงไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับปัจจุบันนี้ที่ได้รับโอกาสจากคนรอบข้างเสมอมา
“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ ไม่ว่าจะเกิดมาในครอบครัวแบบไหน ถ้ารู้จักคิด รู้จักสู้ เชื่อมั่นว่าประสบความสำเร็จได้ทุกคน” หนุ่มน้อยวัย 25 ปี ทิ้งท้าย
เพราะโลกคือละคร .
...................................................
อ่านเรื่องที่่เกี่ยวข้อง
เปิดบทประพันธ์อมตะ ‘ทองเนื้อเก้า’ เช็คภูมิหลัง ‘อีลำยอง’
ล้วงโหล 'ยาดอง' หลังกระเเส 'ลำยอง' ฟีเวอร์!! ของดีบำรุงความงามจริงหรือ?
ตกม้าตาย ? คนดูส่ายหน้า ‘ทองเนื้อเก้า’ เซ็ตฉากหลอกตา
จับตา ‘ทองเนื้อเก้า’ เวอร์ชั่น ‘คุณนายนุ่น’ คืนบัลลังก์ราชินีดราม่า
ภาพประกอบ : http://drama.kapook.com