- Home
- Thaireform
- ในกระแส
- ยธ.เล็งตั้ง คกก.รื้อ กม.สสส. 3 ประเด็น วัตถุประสงค์ชัด ใช้งบฯ รัดกุม ขจัดประโยชน์ทับซ้อน
ยธ.เล็งตั้ง คกก.รื้อ กม.สสส. 3 ประเด็น วัตถุประสงค์ชัด ใช้งบฯ รัดกุม ขจัดประโยชน์ทับซ้อน
ก.ยุติธรรม แม่งานจัดถกรื้อ กม.สสส.ตามคำสั่ง ‘ประยุทธ์’ ชูเเก้วัตถุประสงค์-วิธีงบประมาณ-ผลประโยชน์ทับซ้อน เตรียมเสนอ รมต. 3 กระทรวง พร้อมตั้ง คกก.แก้ไขกฎหมาย
วันที่ 11 เมษายน 2559 สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 และ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมีนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 2 ชั้น 8 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ
นายชาญเชาวน์ เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมหารือเพื่อแก้ไขเฉพาะ พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2544 เท่านั้น ซึ่งมีความเห็นสอดคล้องให้แก้ไข 3 ประเด็น ตามที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตั้งไว้ ดังนี้
1.วัตถุประสงค์ การจัดต้องกองทุน สสส. ต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาอาจมีบางข้อความในกฎหมายทำให้เข้าใจหรือตีความได้ว่า มีขอบเขตกว้างหรือเลยจากหลักการสร้างเสริมสุขภาพ และขัดมาตรฐานในระดับสากล
2.วิธีงบประมาณ จากวาทกรรมทำให้เข้าใจว่า กองทุน สสส.ไม่ใช่หน่วยงานราชการ ฉะนั้นจะใช้จ่ายงบประมาณอย่างไรก็ได้ ซึ่งจะศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติสอดคล้องกับกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ เดิมมีกฎหมายแม่บทอยู่แล้ว คือ พ.ร.บ.บริหารทุนหมุนเวียน จึงต้องปฏิบัติให้สอดคล้อง
3.ผลประโยชน์ทับซ้อน ได้มีการทำความเข้าใจกันเกี่ยวกับความหมายในเรื่องนี้ด้วย
ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่อว่า 3 ประเด็นที่มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะต้องแก้ไข ขณะนี้ยังไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจะแก้ไขอย่างไร รวมถึงเรื่องอาจมีการนำงบประมาณจากภาษีเหล้า บุหรี่ จัดผ่านกระทรวงการคลัง จนหลายคนกังวลจะไม่แตกต่างจากระบบราชการก็ยังไม่มีการพูดถึง
อย่างไรก็ตาม จะนำข้อหารือในการประชุมครั้งนี้ทั้งหมดนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขกฎหมายต่อไป และจะนำข้อหารือครั้งนี้เสนอต่อคณะกรรมการชุดดังกล่าวด้วย .