- Home
- Thaireform
- สารคดีเชิงข่าว
- คลายสงสัย 10 ข้อ กม.ลิขสิทธิ์ควรรู้ ทำอย่างไรไม่ละเมิด
คลายสงสัย 10 ข้อ กม.ลิขสิทธิ์ควรรู้ ทำอย่างไรไม่ละเมิด
พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 เเละ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 6 เมษายน 2558 ซึ่งมีเนื้อหาคุ้มครองลิขสิทธิ์ในยุคดิจิทัล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต ตามนโยบายของประเทศ ภายหลังกฎหมายฉบับเก่าไม่อาจรองรับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดังกล่าวได้ เพราะได้ตราขึ้นบังคับใช้ตั้งแต่ 20 ปีที่่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลายคนต่างมีข้อสงสัยถึงรายละเอียดของกฎหมายฉบับใหม่ จะทำอย่างไรไม่ให้ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ตอบคำถามดังกล่าวไว้ 10 ข้อ ดังนี้
1.ลิขสิทธิ์คุ้มครองอะไรบ้าง มีอะไรที่เราสามารถเอามาใช้ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือไม่
-ลิขสิทธิ์คุ้มครองงานสร้างสรรค์ เช่น บทความ หนังสือ ซอฟต์แวร์ เพลง รูปภาพ ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพข่าว ภาพยนตร์ ละคร เป็นต้น แต่ข้อเท็จจริงต่าง ๆ รวมทั้งข่าวประจำวันทั่วไปในส่วนของข้อเท็จจริงที่รายงานเพียงแค่ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ไม่เข้าข่ายงานอันมีลิขสิทธิ์ เราจึงสามารถเอามาใช้ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต
2.เราสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือเพลงจากอินเตอร์เน็ตมาฟังและแชร์ต่อให้เพื่อนได้หรือไม่
-การดาวน์โหลดถือเป็นการทำซ้ำที่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ กรณีเว็บไซต์ลิขสิทธิ์ที่เจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ก็สามารถดาวน์โหลดได้ แต่ไม่สามารถแชร์ต่อได้ ส่วนกรณีเว็บไซต์ที่ให้บริการโดยเก็บค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด เมื่อผู้ใช้เสียค่าบริการแล้ว จึงจะดาวน์โหลดมาเพื่อรับชมหรือรับฟังได้ แต่ไม่สามารถแชร์ต่อได้เช่นกัน
3.การก๊อปปี้บทความหรือรูปภาพจากเว็บไซต์มาใส่เฟซบุ๊กของเราหรือแชร์ต่อทางไลน์ทำได้หรือไม่
-บทความหรือรูปภาพเป็นงานลิขสิทธิ์ การนำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการก๊อปปี้หรือแชร์ต่อ ควรพิจารณาประกอบกับเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้เนื้อหาของเว็บไซต์นั้น ๆ ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม ถ้านำมาใช้ในปริมาณน้อย เช่น 1-2 ภาพ ที่ไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ (ECONOMIC VALUE) อย่างมีนัยสำคัญและไม่ได้เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไรโดยมีการแสดงที่มาของบทความหรือรูปภาพ ก็อาจถือว่าเป็นการใช้งานลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม (FAIR USE) ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
4.การนำงานมาใช้และเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตผู้สร้างสรรค์เพียงพอหรือไม่ท่ีจะไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
-การนำงานมาใช้และเผยแพร่ต้องอ้างอิงที่มาหรือให้เครดิตเสมอ จึงจะไม่ถือเป็นงานละเมิดลิขสิทธิ์ และต้องเป็นกรณีที่ไม่ขัดต่อการแสวงหาผลประโยชน์จากงานลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ รวมทั้งต้องไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควรด้วย
5.การแฮ็กหรือหลบเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงงานลิขสิทธิ์ เช่น รูปภาพหรือคลิปวิดีโอบนอินเทอร์เน็ต และลบลายน้ำดิจิทัลออก และปรับแต่งรูปภาพหรือคลิปวีดิโอและโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของเรามีความผิดอย่างไรและมีโทษเท่าไหร่
-การแฮ็กหรือหลบเลี่ยงมาตรการทางเทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงงานลิขสิทธิ์โดยรู้อยู่แล้วว่า การกระทำดังกล่าวอาจจูงใจหรือก่อให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง ถือว่ามีความผิดฐานละเมิดมาตรการทางเทคโนโลยี และหากทำการลบลายน้ำดิจิทัลออกโดยรู้อยู่แล้วว่า การกระทำนั้นอาจจูงใจให้เกิด ก่อให้เกิด ให้ความสะดวก หรือปกปิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ถือว่ามีความผิดฐานละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิ ส่วนการปรับแต่งรูปภาพหรือคลิปวีดิโอของผู้อื่นและโพสต์ไว้บนเว็บไซต์ของเราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น มีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์โดยการดัดแปลงและเผยแพร่งานลิขสิทธิ์นั้นต่อสาธารณชน
โทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ปรับ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท เพื่อการค้า ปรับ 1-8 แสนบาท หรือจำคุก 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
โทษฐานละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิและมาตรการทางเทคโนโลยี ปรับ 1 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท เพื่อการค้า ปรับ 5 หมื่น ถึง 4 แสนบาท หรือจำคุก 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
6.การก๊อปปี้ภาพหรือบทความจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ในลักษณะอย่างไรจึงจะต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์และอย่างไรจึงไม่ต้องขออนุญาต
-กรณีที่ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ เช่น การนำภาพหรือบทความนั้นไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เป็นต้น กรณีที่ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ ต้องเป็นการใช้ในปริมาณพอสมควร เช่น นำมาใช้ในการวิจัยหรือศึกษางาน ซึ่งไม่ใช่เพื่อหากำไร ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท ใช้ในการติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น ใช้ในการเสนอข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น และใช้ในการเรียนการสอน เป็นต้น
7.การทำบล็อก (Blog) แล้วนำคลิปวีดีโอของยูทูปมาเผยแพร่ที่บล็อกของเราโดยฝังโค้ด (Embed) ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่
-ถ้าเจ้าของคลิปวีดิโอบนยูทูปเผยแพร่คลิปวีดิโอนั้นในลักษณะ Public จะถือว่าเจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้สาธารณชนทั่วไปเข้าถึงงานดังกล่าวได้ เพราะฉะนั้น การทำบล็อกแล้วนำคลิปวีดิโอซึ่งเผยแพร่บนยูทูปมาไว้ในบล็อกของเราในลักษณะการฝังโค้ด จึงไม่อาจเข้าข่ายละเมิดเช่นเดียวกับการแชร์ลิงก์ของคลิปวีดิโอดังกล่าว เนื่องจากการฝังโค้ดหรือการแชร์ลิงก์เป็นการอ้างอิงกลับไปยังคลิปวีดิโอของเจ้าของลิขสิทธิ์
สำหรับการดาวโหลดคลิปวีดิโอและอัพโหลดขึ้นใหม่ในบล็อก เป็นการทำซ้ำหรือเผยแพร่งานลิขสิทธิ์ในบล็อก จึงจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน
8.หากซื้อซีดีภาพยนตร์ ซีดีเพลง หรือรูปภาพมาอย่างถูกต้อง เมื่อใช้แล้วจะนำออกขายต่อได้หรือไม่ กรณีซื้อโดยดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ ภาพยนตร์ เพลงจากเว็บไซต์ จะขายต่อได้หรือไม่
-การซื้อซีดีภาพยนตร์ ซีดีเพลง หรือรูปภาพ ผู้ซื้อได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในแผ่นซีดีภาพยนตร์ ซีดีเพลง หรือรูปภาพนั้น จึงสามารถนำออกขายต่อได้ (กรณีซีดีภาพยนตร์จะต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551) แต่ผู้ซื้อไม่สามารถทำสำเนางานเพื่อนำออกขายได้ เนื่องจากสิทธิในการทำซ้ำและนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ สำหรับกรณีการซื้อมาโดยวิธีการดาวน์โหลดนั้น เป็นการที่เจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้ใช้สิทธิ (License) ดังนั้น ไม่สามารถนำไฟล์งานดังกล่าวออกขายต่อไป
9.ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต (ISPs) เช่น YouTobe Google True DTAC จะมีความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยหรือไม่ หากผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตอัพโหลดหนังหรือเพลงละเมิดลิขสิทธิ์
-ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ หากให้ความร่วมมือกับเจ้าของลิขสิทธิ์ในการนำงานละเมิดออกจากเว็บไซต์ตามคำสั่งศาล
10. จะทำอย่างไรเมื่อมีคนนำงานลิขสิทธิ์ของเราไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
-เมื่อพบว่ามีการละเมิดเกิดขึ้น เจ้าของลิขสิทธิ์อาจแจ้งเตือนให้ผู้กระทำละเมิดหยุดการกระทำดังกล่าว หรือเจ้าของลิขสิทธิ์อาจไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจหรือฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาลหรืออาจขอให้มีการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท โดยใช้บริการไกล่เกลี่ยของกรมทรัพย์สินทางปัญญาหรือศาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:นักข่าวบันเทิงระวัง นำภาพดาราจาก IG เเม้ขออนุญาต เเต่อาจผิด กม.อื่น