เสนอ"คณะทำงาน10คน"พูดคุยดับไฟใต้ นายกฯเยือนมาเลย์1ธ.ค.คิกออฟสันติสุข
กระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังจะ "คิกออฟ" อย่างเป็นรูปเป็นร่างเร็วๆ นี้ หลังจากที่ปล่อยให้บางฝ่ายรอเก้อมานานหลายเดือน
ความคืบหน้าที่ผ่านมาในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเพียง 2 อย่าง คือ
1.เปลี่ยนชื่อจากกระบวนการพูดคุยสันติภาพ เป็นกระบวนการพูดคุยสันติสุขฯ และ
2.เสนอชื่อ พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายไทย โดยเปลี่ยนตัวจาก พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ อดีตที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีประสบการณ์เจรจากับพรรคคอมมิวนิสต์มลายาจนยอมวางปืน สร้างความสงบสุข ณ ดินแดนมาเลเซีย และด้ามขวานทองของไทยเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน
ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ ยังไม่ปรากฏชัด ยกเว้นการเดินทางไปประสานการพูดคุยของ นายถวิล เปลี่ยนศรี ก่อนเกษียณจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จากนั้นมีการส่งคณะทำงานไปร่วมยกร่างทีโออาร์ หรือเอกสารกำหนดรายละเอียดและขอบเขตภารกิจ ที่ประเทศมาเลเซีย
ทว่าโฉมหน้าคณะพูดคุยกลับยังไม่ถูกเปิดเผยและแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ขณะที่การเดินทางเยือนมาเลเซียของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่เชื่อกันว่าน่าจะเป็นโอกาสของการประกาศ "คิกออฟ" พูดคุยดับไฟใต้รอบใหม่ กลับถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ท่ามกลางกระแสข่าวที่สื่ออินโดฯรายงานว่ารัฐบาลไทยดอดติดต่อประสานงานรองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย "นายยูซุฟ คัลลา" ในฐานะคนหน้าเดิม ให้ยื่นมือเข้าช่วยบริหารจัดการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ จนมาเลเซียไม่ค่อยสบายใจ และไม่ยอมพูดคุยแบบทวิภาคีกับนายกฯประยุทธ์ ระหว่างร่วมประชุมอาเซมที่อิตาลี
อย่างไรก็ดี ล่าสุด นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการ สมช. ได้ออกมายืนยันชัดเจนว่าไทยไม่เคยขอให้อินโดนีเซียเข้ามาช่วยจัดการพูดคุยหรือแก้ไขปัญหาไฟใต้ พร้อมย้ำว่าจะยังคงใช้บริการมาเลเซียในฐานะ "ผู้อำนวยความสะดวก" ต่อไป
ประกอบกับล่าสุดมีข่าวว่า มาเลเซียเปิดทางให้นายกฯประยุทธ์ เดินทางเยือนและพบปะหารือข้อราชการกับ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลย์แล้ว ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จึงเชื่อกันว่ากระบวนการพูดคุยสันติสุข น่าจะได้ฤกษ์ "คิกออฟ" เสียที
มีรายงานว่า สมช.และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เสนอโครงสร้างองค์กรพูดคุยดับไฟใต้และกรอบการพูดคุยไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ โครงสร้างคณะพูดคุยที่มีการเสนอ คล้ายๆ กับที่เคยปรากฏเป็นข่าว คือ มี 3 ระดับ แต่ที่ชัดเจนมากขึ้นคือเรื่ององค์ประกอบและที่มาของตัวบุคคล กล่าวคือ
ระดับที่ 1 คณะกรรมการระดับอำนวยการ มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกฯที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน มีปลัดกระทรวงต่างประเทศ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการ สมช. เลขาธิการ กอ.รมน. เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) ร่วมเป็นกรรมการ
นอกจากนั้นยังมีคณะที่ปรึกษาของคณะพูดคุย คาดว่ามี พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษา
ระดับที่ 2 คณะกรรมการพูดคุยสันติสุข ประกอบด้วยประธานและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องราวๆ 10-12 คน ได้แก่ พล.อ.อักษรา เกิดผล ได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าคณะพูดคุย ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย ผู้แทน สมช. กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทน กอ.รมน. ผู้แทนกองทัพบก ผู้แทน สขช. ผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 4 นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ
ระดับที่ 3 คณะกรรมการประสานงานในพื้นที่ มีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เป็นผู้รับผิดชอบหลัก
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า โครงสร้างและกรอบการพูดคุยนั้น ได้เสนอขึ้นไปยังนายกรัฐมนตรีระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีการอนุมัติ โดยเบื้องต้นมี 2 แนวทาง คือ
1.ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนนายกฯเดินทางเยือนมาเลเซีย โดยการนำเรื่องเข้าขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน หรือหารือวงเล็กโดยนายกฯ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เลขาธิการ สมช. เลขาธิการ กอ.รมน. และ ผบ.ทบ. เพื่อเห็นชอบในหลักการก่อนออกเป็นคำสั่ง
2.ดำเนินการหลังจากนายกฯเยือนมาเลเซียแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้มีการหารือระหว่างผู้นำสองประเทศลงตัวก่อน มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่าฝ่ายไทยจัดทำโครงสร้างเรียบร้อยแล้วไปเสนอให้มาเลเซียอนุมัติ ซึ่งไม่ถูกต้อง และเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับประเทศ
"จริงๆ แล้วการจัดโครงสร้างพูดคุยไม่ควรสัมพันธ์อะไรมากกับการเยือนมาเลเซียของนายกรัฐมนตรี เพราะการแก้ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องภายในของไทย ขณะที่มาเลเซียมีสถานะเป็นผู้อำนวยความสะดวก" แหล่งข่าวระบุ และว่าจนถึงขณะนี้รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงก็ยังไม่ได้เร่งรัดให้ สมช.จัดประชุมเพื่อวางตัวบุคคลสำหรับการพูดคุยเลย คาดว่าน่าจะดำเนินการหลังจากนายกฯเดินทางกลับจากเยือนมาเลเซีย
ด้าน พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวถึงกระแสข่าวกระบวนการพูดคุยเริ่มต้นได้ช้า เพราะมาเลเซียไม่พอใจไทยว่า ไม่เป็นความจริง เรื่องที่มีข่าวว่านายกฯนาจิบ ไม่ยอมหารือกับนายกฯประยุทธ์ ช่วงเดินทางไปร่วมประชุมอาเซมนั้น แท้ที่จริงมีการพบปะกันแบบที่เรียกว่า corridor meeting คือยืนตรงระเบียงหรือเทอร์เรซแล้วหารือกัน เพียงแต่ไม่ใช่การประชุมทวิภาคีอย่างเป็นทางการเท่านั้น
"ระหว่างการพูดคุย ท่านนายกฯได้ขอให้มาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกต่อไป จากนั้นนายกฯนาจิบก็ถามว่า หัวหน้าคณะพูดคุยของไทยเป็นทหารใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบว่าใช่ นี่คือสิ่งที่คุยกัน"
สำหรับสาเหตุที่กระบวนการพูดคุยไม่รวดเร็วตามที่หลายฝ่ายคาดหวัง พล.อ.อกนิษฐ์ บอกว่า ช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงของการจัดทำทีโออาร์ร่วมกัน เพื่อกำหนดบทบาทของแต่ละฝ่าย แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้ช้าก็คือ รัฐบาลพยายามแปลงประกาศ คสช.ฉบับที่ 98/2557 เรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้กำหนดนโยบายและโครงสร้างการแก้ไขปัญหาเอาไว้ เพื่อออกเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
"ช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจาก คสช.เข้าสู่กลไกปกติ เรามีรัฐบาลแล้ว จึงได้แปลงประกาศ คสช.ฉบับที่ 98/2557 ให้เป็นระเบียบสำนักนายกฯ เพื่อให้แนวทางนี้คงอยู่ต่อไป ทุกหน่วยต้องปฏิบัติตาม และทุกรัฐบาลต้องปฏิบัติ ไม่ใช่รัฐบาลใหม่เข้ามาก็เปลี่ยนแปลงอีก ระเบียบนี้จะมีองค์กรที่รองรับการทำงาน และวางโครงสร้างกระบวนการพูดคุยสันติสุขที่มีคณะทำงาน 3 ระดับ คือ ระดับนโยบาย คณะพูดคุย และระดับพื้นที่"
พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวด้วยว่า อีกสาเหตุหนึ่งของความล่าช้า คือ ฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนก็ขอเวลา เพราะนโยบายของรัฐบาลคือจะทำการพูดคุยแบบ Inclusive dialogue คือคุยรวมกับทุกขบวนการ ฉะนั้นฝ่ายขบวนการต้องตกลงกันให้เสร็จก่อนว่าจะเอาอย่างไร ไม่ใช่ให้คุยทีละกลุ่ม แกนนำขบวนการต้องคุยกัน และแต่ละขบวนการต้องไปคุยกับสมาชิกภายใน ทั้งบีอาร์เอ็น พูโล บีไอพีพี หรือกลุ่มอื่นใด เนื่องจากขณะนี้ภายในของแต่ละขบวนการยังคิดไม่ตรงกัน
ขณะที่ฝ่ายมาเลเซียก็ต้องไปพิจารณาว่าจะให้ใครทำหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวก เนื่องจาก ดาโต๊ะ สรี อาหมัด ซัมซามิน ฮาซิม ผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยสันติภาพเมื่อปีที่แล้ว จะหมดวาระในเดือน ก.พ.2558 (ทำหน้าที่ 2 ปี) ต้องรอดูว่าจะเปลี่ยนตัวหรือไม่
และทั้งหมดนี้คือความคืบหน้าอีกขั้นของกระบวนการพูดคุยเพื่อดับไฟใต้!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : กราฟฟิกโครงสร้างคณะพูดคุยสันติสุขฯ
ขอบคุณ : กราฟฟิกโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
หมายเหตุ : งานชิ้นนี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันศุกร์ที่ 14 พ.ย.2557 ด้วย
อ่านประกอบ :
1 เสนอแผน"โครงสร้าง3ระดับ"พูดคุยดับไฟใต้ - "ถวิล"จ่อบินถกมาเลย์
2 รู้จัก "พล.อ.อักษรา เกิดผล" หัวหน้าทีมพูดคุยดับไฟใต้ (ฝ่ายทหาร)