โรงเรียนพระราชดำริ“ศูนย์ครูใต้” น้ำพระทัยจากแม่ของแผ่นดิน
เลขา เกลี้ยงเกลา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
เป็นที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าอยู่แล้วว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยสถานการณ์ความไม่สงบและชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก พระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาฯปีนี้ พระองค์ก็ทรงเอ่ยถึง “โครงการปะการังเทียม” ที่สามารถช่วยฟื้นฟูอาชีพของประมงพื้นบ้านในนราธิวาสและปัตตานี
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน พระองค์ก็ทรงมีพระราชเสาวนีย์ถึงข้าราชการครูที่ปลายด้ามขวาน...
“ถ้าขืนปล่อยให้ข้าราชการครูต้องเผชิญชะตากรรมอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันโดยไม่มีหนทางแก้ไขแล้ว ในอนาคตคงไม่มีครูที่มีความรู้ความสามารถยอมเสียสละอาสาลงไปสอนหนังสือให้เด็กนักเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกต่อไป”
เป็นพระราชเสาวนีย์ที่แสดงให้เห็นถึงพระปณิธานและน้ำพระทัยที่ทรงห่วงใย “ครูใต้” ซึ่งเสี่ยงอันตรายสอนหนังสืออยู่ในพื้นที่ ต่อมาพระองค์จึงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อจัดสร้าง “โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับข้าราชการครู” หรือ “ศูนย์ครูใต้” ขึ้นเป็นแห่งแรกในโครงการฟาร์มตัวอย่างในพระราชดำริ ที่บ้านน้ำดำ หมู่ 3 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
“ศูนย์ครูใต้” มีเนื้อที่หลายร้อยไร่ เป็นเสมือนที่พักรวมและเปิดโอกาสให้ครูในท้องถิ่นใกล้เคียงได้พักอาศัย เพื่อช่วยพยุง คุ้มภัยครูซึ่งเปรียบเสมือน “เรือจ้าง” ให้ทำหน้าที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับเด็กๆ และเยาวชนของชาติได้อย่างมั่นคง ร่มเย็น และปลอดจากภยันตราย
ภายใน "ศูนย์ครูใต้" มีบ้านพักครูขนาดสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และมีที่จอดรถพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ปลูกเรียงกันเป็นแถวตามแนวคลองชลประทานทั้งหมด 150 หลัง มีร้านค้า ร้านเสริมสวย โรงยิมสำหรับออกกำลังกายและคลายเครียด ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติที่มีหนังสือพระราชทานจำนวนมาก และอินเตอร์เน็ตพร้อมห้องภาษาถึง 7 ภาษา เพื่อให้ครูสามารถมีชีวิตได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยโดยไม่ต้องเดินทางออกไปภายนอก เว้นแต่ช่วงเวลาไปสอนหนังสือ
ครูชายแดนใต้วันนี้มีชีวิตไม่ต่างอะไรกับ "เรือจ้าง" ที่ต้องลอยคว้างอยู่กลางสายธารอันเชี่ยวกราก "ศูนย์ครูใต้" จึงเปรียบเสมือนมุมพักหลบสายลมแรงซึ่งเปิดกว้างสำหรับครูทุกศาสนิก แม้จะเป็นครูจากจังหวัดอื่น แต่หากเต็มใจมาสอนในพื้นที่นี้ก็เปิดโอกาสให้เข้ามาพักอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครเป็นพุทธหรือมุสลิม เพราะทุกคนล้วนอยู่ในประเทศไทยและเป็นพี่น้องกัน
ภายใน "ศูนย์ครูใต้" มีการจัดวางกำลังดูแลอย่างเข้มข้น มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งภายในศูนย์ และดูแลช่วงที่ครูออกไปสอนหนังสือ เพราะเมื่อครูปลอดภัย ไม่หวาดระแวง ครูก็จะมีขวัญกำลังใจที่ดี ตั้งใจสอนหนังสือเด็กๆ ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ห่วงกังวลใดๆ
สิ่งที่พิเศษมากกว่านั้น ก็คือการจัดตั้ง โรงเรียนพระราชดำริ “ศูนย์ครูใต้” จังหวัดปัตตานี ขึ้นในพื้นที่ฟาร์มตัวอย่างด้วย โดยโรงเรียนแห่งนี้เปิดทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี 2552 ในระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งหมด 45 คน ครู 7 คน
โรงเรียนพระราชดำริและศูนย์ครูใต้ ถือเป็นน้ำพระทัยจาก “แม่ของแผ่นดิน” ที่ทรงมีพระเมตตาต่อเด็กๆ และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ ฟาร์มตัวอย่าง รวมถึงครูในดินแดนปลายด้ามขวานให้ได้ใช้ชีวิตและเล่าเรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีคุณภาพ เพื่ออนาคตของชาติตัวน้อยๆ จะได้มีพลังในการศึกษาหาความรู้เพื่อนำกลับมาพัฒนาชุมชนและสังคมต่อไป
บุณณดา รักจันทร์ ครูสาวจากพัทลุง ซึ่งรับราชการครูในพื้นที่ปัตตานีมาหลายปี และเป็นครูรุ่นแรกของโรงเรียนพระราชดำริ "ศูนย์ครูใต้" กล่าวว่า มาสอนที่นี่ตั้งแต่เริ่มเปิด และพักในบ้านพักครูที่มีทุกอย่างครบ สะดวก อากาศดี ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ที่สำคัญคือรู้สึกปลอดภัย
"วันจันทร์ถึงวันศุกร์ฉันสอนหนังสือและพักที่นี่ ส่วนวันเสาร์กับอาทิตย์จะกลับบ้านที่พัทลุง อยู่ที่นี่ต้องเตรียมทำกับข้าวให้เด็กในช่วงเช้าด้วย ครูทุกคนที่ถนัดในแต่ละสาขาวิชาต้องสามารถสอนเด็กได้ทุกช่วงชั้น และดูแลเด็กอย่างทั่วถึงใกล้ชิด”
ขณะที่ วีระ บุญละเอียด ครูชายหนึ่งในสองคนของโรงเรียนพระราชดำริฯ เล่าว่า ย้ายมาจาก จ.นราธิวาส มาสอนวิชาศิลปะ พลศึกษา และวิชาการงานอาชีพ ที่ผ่านมาทางโรงเรียนยังขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอนอยู่บ้าง แต่ก็หวังว่าอีก 2-3 ปีคงจะมีครบสมบูรณ์
“ผมเป็นคนแถวนี้ ไม่คิดย้ายไปไหน เมื่ออยู่ที่ไหนต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ โรงเรียนแห่งนี้มีความสำคัญ เพราะพระราชินีทรงจัดตั้งให้เด็กๆ ได้เข้ามาเรียน เมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ก็ตั้งใจทำงานให้สำเร็จลุล่วงสมดังพระปณิธานของพระองค์ท่าน เพื่อให้เด็กได้มีความรู้และพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิม” ครูวีระ กล่าว
สำหรับโครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านน้ำดำ เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มกันของชาวบ้านที่ร่วมกันบริจาคที่ดินเพื่อสาธารณประโยชน์ตั้งแต่ปี 2547 ในอดีตที่ดินผืนนี้เป็นที่นา แต่ถูกน้ำท่วมขัง จึงเรียกว่า "พรุในบั๊วะ" หรือ "พรุแม่นม" ต่อมาจึงมีการตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ และขอที่ดินเพิ่มจากราชพัสดุ รวมทั้งกรมชลประทาน และเริ่มลงหลักปักฐานสร้าง "ศูนย์ครูใต้" เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2549 ตามแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ปัจจุบัน "ศูนย์ครูใต้" ภายในฟาร์มตัวอย่างสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นโรงเรียนในบรรยากาศฟาร์มที่งดงามมากแห่งหนึ่ง รายล้อมได้ด้วยแปลงไม้ดอกไม้ประดับ ผักปลอดสารพิษ โรงเพาะเห็ด ฝูงแพะนม แพะเนื้อ ไก่ไข่ ไก่เบตง มีกระชังเลี้ยงปลา ทั้งปลานิล ปลาทับทิม และปลาดุก เนื้อปลาที่นี่ไม่เหม็นคาว เพราะเลี้ยงในน้ำไหล นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปอีกมาก เช่น กล้วยฉาบจากแปลงกล้วยหิน กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ ข้าวเกรียบเห็ด ข้าวเกรียบปลา หรือแม้แต่ไข่เค็มสมุนไพร
ทั้งหมดนี้คือ "น้ำพระทัย" จากแม่ของแผ่นดิน
----------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : 1-3 การเรียนการสอนในบรรยากาศสุขสงบของโรงเรียนพระราชดำริ "ศูนย์ครูใต้"
อ่านประกอบ : ศูนย์ครูใต้...บ้านใหม่"แม่พิมพ์ชาติ"พ้นภัยความรุนแรง
http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=4379&Itemid=86