- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ปะทะเดือดรือเสาะ "พ.ต.ท.-ลูกน้อง" พลีชีพ วิสามัญฯ4ศพรวม"เปเล่ดำ"
ปะทะเดือดรือเสาะ "พ.ต.ท.-ลูกน้อง" พลีชีพ วิสามัญฯ4ศพรวม"เปเล่ดำ"
รือเสาะเดือด! เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น ก่อนเปิดฉากยิงปะทะนาน 4 ชั่วโมง "พันตำรวจโท" พลีชีพพร้อมลูกน้อง ขณะที่ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบโดนวิสามัญฯ 4 ราย เป็นระดับแกนนำ 2 คน ทั้ง "อุสมาน เด็งสาแม" และ "อับดุลรอฮิง ดาอีซอ" เจ้าของฉายา "เปเล่ดำ" ด้าน "ประชา" ควงแขน "ภราดร" ถกคณะที่ปรึกษา-กลุ่มวาดะห์ เผย 5 ข้อบีอาร์เอ็นยอมรับได้แต่ไม่ 100%
ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 สนธิกำลังกับทหารหลัก หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และตำรวจชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) รวมจำนวน 50 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่บ้านสะแนะ หมู่ 1 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มก่อความไม่สงบ หลังมีข่าวแจ้งว่ามีผู้ก่อความไม่สงบคนสำคัญเข้าไปกบดานในบ้านหลังหนึ่งท้ายหมู่บ้าน
ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 12.30 น.วันเสาร์ที่ 5 ต.ค.2556 ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปถึงหน้าบ้านไม่มีเลขที่ในหมู่บ้านสะแนะ ปรากฏว่าถูกกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยซึ่งหลบอยู่ภายในใช้อาวุธปืนสงครามและปืนพกสั้นยิงถล่มใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหาที่กำบังและเปิดฉากยิงตอบโต้ พร้อมกับวิทยุขอกำลังเสริม
ระหว่างการยิงปะทะ มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 นาย คือ จ.ส.ต.วิชิต อดทน สังกัด ศชต. และได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย คือ ส.ต.อ.โยธิน จันทรเดช และ พ.ต.ท.อติพัฒน์ สุพรรณวิวัฒน สารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 (สว.กปพ.บก.สส.ภ.3) ช่วยราชการ ศชต. โดย พ.ต.ท.อติพัฒน์ อาการสาหัส ภายหลังทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
สำหรับ พ.ต.ท.อติพัฒน์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 55 ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา เป็นนายตำรวจยศ "พันตำรวจโท" อีกคนหนึ่งที่ต้องสังเวยชีวิตไปกับสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2556 พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศวร์ เจ้าของฉายา "ชุมแพ" รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.รือเสาะ ก็ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดจนเสียชีวิตพร้อมลูกน้องอีก 2 นายในพื้นที่ อ.รือเสาะ มาแล้ว
รวม 7 ผู้ต้องสงสัย – "เปเล่ดำ" สิ้นชื่อ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้อาวุธหนักยิงถล่มเข้าไปในบ้าน จนกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยต้องหนีออกจากบ้าน และวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ายางพารา มีการยิงปะทะกันอีกหลายระลอกนาน 4 ชั่วโมง กระทั่งช่วงเย็นเสียงปืนจึงสงบลง
จากการเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ พบศพ นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรืออุสตาซรอฮิง ฉายา "เปเล่ดำ" นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นบ้าน นอกจากนั้นยังพบศพในสวนยางพาราท้ายหมู่บ้านอีก 3 ศพ ทราบชื่อคือ นายอุสมาน เด็งสาแม แกนนำผู้ก่อความไม่สงบคนสำคัญที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.รือเสาะ และอำเภอใกล้เคียง นายมะสุเพียร สาและ ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา และ นายซูกิฟลี แมแล อยู่บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 2 ต.อาซ่อง อ.รามัน
พร้อมกันนี้ได้ยึดอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ปืนพกสั้น 2 กระบอก และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ยอมมอบตัว 7 คน คือ 1.นายมะนูรดิน เฮงตาแกะ มีหมายจับที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) 1 หมาย 2.นายมะรอกี มะนุ มีหมายจับ ป.วิอาญา 3 หมาย 3.นายรุสมาน มาแน มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย
4.นายรูฟีอิง มะลี 5.นายปรีชา เจ๊ะแม มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย 6.นายสือมาน บาเฮง และ 7.นายบัสซอรี ตันหยงอูตง โดยทั้งหมดถูกส่งตัวไปสอบสวนขยายผลที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสนราธิวาส 30 อ.รือเสาะ ก่อนส่งต่อให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา ต่อไป
"รือเสาะ" ระอุต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ส.ค.
สำหรับ นายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ หรือ "เปเล่ดำ" นั้น ข้อมูลจากแฟ้มประวัติของฝ่ายความมั่นคงระบุว่า เป็นแกนนำกลุ่มติดอาวุธอาร์เคเคคนสำคัญที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส กับ อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกัน เหตุรุนแรงขนาดใหญ่หลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเหตุซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) บนภูเขาตะโละหะลอ เขตรอยต่อระหว่าง อ.รือเสาะ กับ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จนมีเจ้าหน้าที่อีโอดีบาดเจ็บสาหัส 3 นาย เมื่อวันที่ 27 ก.ย. หรือเหตุยิงถล่มรถตำรวจ สภ.รือเสาะ จนมีกำลังพลเสียชีวิต 4 นาย เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เชื่อว่าล้วนมีนายอับดุลรอฮิงเข้าไปเกี่ยวข้อง
สำหรับเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.รือเสาะ นอกจากเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่อีโอดี บริเวณเขตรอยต่อ อ.รือเสาะ กับ อ.ยี่งอ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่อีโอดีได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 นายเพราะรถคว่ำขณะนำกำลังเข้าไปช่วยเหลือแล้ว ยังมีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีกหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะช่วงเดือน ส.ค.2556
30 ส.ค. โจมตีฐานทหาร 2 จุดแต่ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ
21 ส.ค. กำลังผสมทหารพราน ทหารหลัก และตำรวจ เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านกือเล็งตก หมู่ 4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ และเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัย ทำให้ นายมะอีซอ ดอเลาะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 4 บ้านรือเสาะ เสียชีวิต
16 ส.ค. คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถตำรวจ สภ.รือเสาะ บนถนนหน้าโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ ทำให้ตำรวจเสียชีวิตในคราวเดียวถึง 4 นาย
9 ส.ค. เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่หมู่ 9 บ้านพงยือติ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ และเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัย ก่อนวิสามัญฆาตกรรม นายมูฮัมหมัดสะแปอิง แวกะจิ และ นายอุสมาน แวกะจิ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน มีภูมิลำเนาอยู่บ้านสโล หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ
"ประชา-ภราดร" ล่องใต้พบกลุ่มครู
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมผู้แทนจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไปพบปะครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มหาวิทยาลัยนราธิสาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เรื่องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าทีมพูดคุยสันติภาพฝ่ายบีอาร์เอ็นจาก นายฮัสซัน ตอยิบ เป็นคนอื่นนั้น ยังเป็นเพียงกระแสข่าว แต่จากการประสานงานไปยังผู้อำนวยความสะดวกของรัฐบาลมาเลเซีย ยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนตัว ยังคงเป็น นายฮัสซันเหมือนเดิม ส่วนข่าวที่ออกมาคงเป็นปฏิบัติการข่าวสาร เพราะต้องยอมรับความจริงว่าภายในขบวนการของกลุ่มก่อความไม่สงบยังไม่เป็นเอกภาพ โดยกลุ่มที่มีความเห็นต่างก็อยากจะให้เปลี่ยนตัวบุคคลเพื่อปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้น
ย้ำให้บีอาร์เอ็นเป็นเจ้าภาพดึงกลุ่มอื่นร่วมคุย
ส่วนการเปิดช่องทางพูดคุยกับกลุ่มพูโลนั้น พล.ท.ภราดร บอกว่า ยังไม่มีการคุยกับกลุ่มพูโลในต่างประเทศ เพราะต้องยอมรับว่าคนที่มาพูดคุยเป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ จึงต้องยึดตรงนี้เป็นหลัก ที่ผ่านมากลุ่มพูโลมีการติดต่อสื่อสารเข้ามา แต่คณะพูดคุยยังยึดหลักให้กลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นเจ้าภาพ ซึ่งขณะนี้มีการประสานงานกันอยู่แล้ว และมี 2-3 กลุ่มพยายามติดต่อสื่อสารเข้ามาโดยผ่านกลุ่มบีอาร์เอ็นและฝ่ายไทยเองในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
"การพูดคุยกับกลุ่มอื่นต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มบีอาร์เอ็น เพราะบีอาร์เอ็นมีความประสงค์ที่จะให้มาพูดคุยกันโดยเร็ว และในหลักการกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ส่วนกลุ่มอื่นถือเป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งถ้ากลุ่มบีอาร์เอ็นบูรณาการแทนได้ เราก็ยินดี ซึ่งก็ต้องให้เวลาระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ เราคงต้องเปิดโอกาสให้มีการพูดโดยตรง" พล.ท.ภราดร ระบุ
ถก "ที่ปรึกษา-วาดะห์" อ้างรับ 5 ข้อ BRN ได้
จากนั้นในช่วงบ่าย พล.ต.อ.ประชา พร้อมคณะ ได้ประชุมกับคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 32 คน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นแกนนำกลุ่มวาดะห์ เพื่อหาข้อสรุปเรื่องการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นครั้งต่อไปที่ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของบีอาร์เอ็นนั้น โดยภาพรวมยอมรับได้แต่ทุกข้อ แต่ไม่เต็มร้อย ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องมาวิเคราะห์ให้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของชาติพันธุ์มลายู เรื่องเขตปกครองพิเศษ และเรื่องยกเลิกหมายจับ
ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าไม่แบ่งแยกดินแดน ฝ่ายไทยก็พร้อมพูดคุย ซึ่งตอนนี้น้ำหนักอยู่ที่การแบ่งเขตปกครองพิเศษเหมือนเมืองพัทยาและกรุงเทพมหานคร เป็นเขตเศรษฐกิจ อัตลักษณ์สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งการพูดคุยต้องมาวิเคราะห์ว่าฝ่ายบีอาร์เอ็นจะยอมรับในหลักการหรือไม่ โดยในวันที่ 20 ต.ค.จะมีการพูดคุยครั้งที่ 5 (นับวันที่ 28 ก.พ.2556 ซึ่งเป็นวันลงนามในข้อตกลงริเริ่มกระบวนการพูดคุยด้วย) ที่ประเทศมาเลเซีย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น และเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธที่ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส