- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ย้อนวิบากกรรม‘ธัมมชโย’ก่อนถูกถอดสมณศักดิ์-จับตาธรรมกายแก้เกมดีเอสไอ?
ย้อนวิบากกรรม‘ธัมมชโย’ก่อนถูกถอดสมณศักดิ์-จับตาธรรมกายแก้เกมดีเอสไอ?
“…นับจากที่มีคำสั่งตามมาตรา 44 ออกมา ปฏิบัติการกระชับพื้นที่ในวัดพระธรรมกายดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบแทบจะทุกตารางนิ้วของวัดพระธรรมกาย ส่วนพระลูกวัด หรือศิษยานุศิษย์ ที่ขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ ต่างถูกดีเอสไอ ใช้วิธี ‘อ่อนหาแข็ง’ ตั้งแต่เชิญตัวมาพูดคุยเพื่อให้หยุดเคลื่อนไหว กระทั่งเรียกมาพบ หรือแม้แต่การแจ้งข้อกล่าวหาเลยทีเดียว โดยมีพระลูกวัดหลายรายแล้วที่ถูกดีเอสไอตั้งข้อหา ซึ่งล่าสุดคือ พระสนิทวงศ์ ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ที่ปัจจุบัน ‘หลบฉาก’ ไม่ออกมาแถลงข่าวแล้ว…”
‘พระธัมมชโย’ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นหนึ่งในบุคคลที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดในขณะนี้ !
เนื่องจากตกเป็นหนึ่งผู้ถูกกล่าวหาหลายร้อยคดี โดยมีคดีสำคัญคือ ฟอกเงิน และรับของโจร จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น (ปัจจุบันถูกจำคุกในคดียักยอกทรัพย์สินสหกรณ์คลองจั่นฯ) ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้สรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการ ดำเนินการฟ้องต่อศาลไปแล้ว
(อ่านประกอบ : อัยการสั่งฟ้อง‘ธัมมชโย-พวก’คดีฟอกเงิน-รับของโจร เสียหายเบื้องต้น 2.9 พันล.)
หากใครยังจำกันได้ ในช่วงปี 2556 หรือประมาณ 4 ปีก่อน คดียักยอกทรัพย์สินสหกรณ์คลองจั่นฯ หลายคดี มีนายศุภชัย เป็นผู้ถูกกล่าวหา ถูกดีเอสไอตรวจสอบเชิงลึกอย่างต่อเนื่องร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการสาวเส้นทางการเงินที่ถูกนายศุภชัยยักยอกไป
พบข้อมูลเบื้องต้นว่า มีเงินสด-เช็ค รวมวงเงินประมาณ 1 พันล้านบาท ไหลไปสู่ ‘วัดพระธรรมกาย’ ?
เพื่อให้สาธารณชนทราบความชัดเจนมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ย้อนความเป็นมาของ ‘พระธัมมชโย’ ที่เกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน มีข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
ช่วงปี 2558 ชื่อของพระธัมมชโย กำลังร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ร้องให้มหาเถรสมาคม (มส.) ตรวจสอบกรณีสมเด็จพระสังฆราช (องค์ก่อน) เคยมีพระลิขิตให้พระธัมมชโย ‘ปาราชิก’ เมื่อปี 2549 อย่างไรก็ดี มส. ได้ลงมติย้ำอีกครั้งว่า พระธัมมชโย ไม่ปาราชิก เนื่องจากยอมรับและปฏิบัติตามลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช โดยคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่วัดพระธรรมกายแล้ว
ต่อมา สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า มีเช็คจากสหกรณ์คลองจั่นฯอย่างน้อย 4 ใบ ที่ถูกสั่งจ่ายไปยังพระธัมมชโย (เมื่อครั้งเป็นพระราชภาวนาวิสุทธิ์) และวัดพระธรรมกายโดยตรง รวมเป็นเงิน 316,780,000 บาท (ดูเอกสารประกอบ)
นอกจากนี้ยังมีเงินสด-เช็ค ไหลไปยัง ‘อดีตพระวัดพระธรรมกาย-บุคคลที่มีความสัมพันธ์กับวัดพระธรรมกาย’ อีกหลายราย ตามสำนวนของดีเอสไอ เช่น นายสถาพร วัฒนาศิรินุกูล โดยนำเงินดังกล่าวซื้อทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง และรถยนต์ รวมถึงปืน ในนามของตนเอง และในนามของบริษัท เอสดับบลิวโฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทในเครือ ทำให้เกิดความเสียหาย 250 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเรียกนายสถาพรมาแจ้งข้อกล่าวหา
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ปรากฏรายชื่อเอกชนที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ได้แก่ 1.บริษัท เอส.ดับบลิว โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 2.บริษัท เอส.ดับบลิว.กมลา บีช กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 3.บริษัท เอส.ดับบลิว.ภูเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 4.บริษัท อิมพีเรียล รีซอร์ส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 5.บริษัท ซันไชน่า รีซอร์ส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเครือข่ายของนายสถาพรทั้งสิ้น
(อ่านประกอบ : INFO: 13 คดียักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯในมือดีเอสไอ-เบ็ดเสร็จ 2 หมื่นล.)
ต่อมาช่วงต้นปี 2559 ดีเอสไอสรุปสำนวนเพื่อเตรียมส่งให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องคดีต่อศาล โดยได้ออกหมายเรียกให้พระธัมมชโยเข้ามามอบตัว ทว่ากลับไม่ยอมมา โดยอ้างว่า ‘อาพาธ’ ทำให้ดีเอสไอร้องขอหมายค้นจากศาลอาญา
ทว่า การค้นรอบแรกของดีเอสไอปรากฏว่า ‘เหลว’ เนื่องจาก มีศิษยานุศิษย์หลายพันคน รวมถึงพระลูกวัดหลายราย มานั่งสวดมนต์เป็น ‘กำแพงมนุษย์’ ไม่ให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ-ตำรวจ เข้าไปตรวจค้นยันกุฏิพระธัมมชโยได้ ส่วนฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย แถลงข่าวพร้อมโชว์ภาพพระธัมมชโย อยู่ระหว่างรักษาอาการป่วย โดยมีแพทย์ถวายอาการรักษาอยู่ด้วย ทำให้ดีเอสไอต้องล่าถอยไป
กระทั่งกลางปี 2559 ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) ส่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาในคดีฟอกเงิน และรับของโจร รวม 5 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตกรรมการสหกรณ์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 3) และนางทองพิน กันล้อม อดีตเหรัญญิกสหกรณ์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 5) ถูกกล่าวหาว่า สมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน
กลุ่มสอง พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูรณ์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาที่ 2) และนางศศิธร โชคประสิทธิ์ (ผู้ต้องหาที่ 5) ถูกกล่าวหาว่า สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร
โดยเบื้องต้นพนักงานอัยการ ยืนยันว่า ยังไม่สามารถส่งฟ้องตัวพระธัมมชโยได้ เนื่องจากดีเอสไอยังไม่สามารถนำตัวมา
ดีเอสไอจึงขอหมายค้นจากศาลอาญาเป็นรอบที่สอง แต่คราวนี้ก็ ‘ล้มเหลว’ เหมือนเดิม ไม่สามารถเข้าไปค้นยังกุฎิของพระธัมมชโยได้ เนื่องจากมีศิษยานุศิษย์ และพระลูกวัด มาสวดมนต์ ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เช่นเดิม
ทำให้ทางการต้อง ‘วางหมาก’ ใหม่ ช่วงปลายปี 2559 ถึงคิวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยกคดีที่พระธัมมชโย เป็นผู้ถูกกล่าวหาบุกรุกที่ดินสาธารณะหลายคดี โดยขอหมายค้นจากศาลอาญา เพื่อขอเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ทว่าก็ ‘คว้าน้ำเหลว’ อีก เป็นหนที่ 3
กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) งัด ‘ไม้แข็ง’ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ประกาศให้วัดพระธรรมกายและพื้นที่โดยรอบเป็น ‘พื้นที่ควบคุม’ มอบหมายให้ดีเอสไอเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการปิดล้อม เพื่อนำตัวพระธัมมชโย มาให้พนักงานอัยการส่งฟ้องคดีต่อศาลให้ได้
นับจากที่มีคำสั่งตามมาตรา 44 ออกมา ปฏิบัติการกระชับพื้นที่ในวัดพระธรรมกายดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบแทบจะทุกตารางนิ้วของวัดพระธรรมกาย ส่วนพระลูกวัด หรือศิษยานุศิษย์ ที่ขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ ต่างถูกดีเอสไอ ใช้วิธี ‘อ่อนหาแข็ง’ ตั้งแต่เชิญตัวมาพูดคุยเพื่อให้หยุดเคลื่อนไหว กระทั่งเรียกมาพบ หรือแม้แต่การแจ้งข้อกล่าวหาเลยทีเดียว โดยมีพระลูกวัดหลายรายแล้วที่ถูกดีเอสไอตั้งข้อหา ซึ่งล่าสุดคือ พระสนิทวงศ์ ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ที่ปัจจุบัน ‘หลบฉาก’ ไม่ออกมาแถลงข่าวแล้ว
ทว่าถึงปัจจุบัน ประมาณ 20 วันแล้ว กลับยังไม่เจอแม้แต่ ‘เงา’ ของพระธัมมชโย ?
จนล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 5 มี.ค. 2560 มีพระบรมราชโองการโปรเกล้าฯถอดถอนสมณศักดิ์ของ พระธัมมชโย เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาในหลายคดี โดยเฉพาะคดีฟอกเงิน และรับของโจร กรณีสหกรณ์คลองจั่นฯ แต่ไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2560
(อ่านประกอบ : โปรดเกล้าฯถอดสมณศักดิ์‘ธัมมชโย’ ไม่ยอมมอบตัว-หลบหนีคดีฟอกเงิน)
ดังนั้นต้องรอดูการ ‘แก้เกม’ ของวัดพระธรรมกายว่า จะเดินหมากออกมาในรูปแบบใด หลังจากถูกทางการ ‘รุกหนัก’ ขนาดนี้ เพราะต้องไม่ลืมว่าวัดพระธรรมกายเคยแก้เกมป้องกันการบุกค้นของดีเอสไอ-สตช. มาได้แล้วถึง 3 ครั้ง 3 ครา และกลวิธีของวัดพระธรรมกายก็ค่อนข้างไม่ธรรมดา เริ่มตั้งแต่การปลุกระดมมวลชน จนถึงทำสงครามจิตวิทยากับสังคม
และท้ายสุดพระธัมมชโย จะยอมออกมามอบตัวเพื่อสู้คดี ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง หรือจะ ‘หลบหนี’ แบบพระชื่อดังรูปอื่น ๆ ที่เคยทำมาแล้วอดีตกันแน่ ?
อ่านประกอบ :
ทุกตารางนิ้ว กม.ต้องคลุมถึง!‘บิ๊กตู่’สั่ง ยธ. หาทางออกปมธรรมกาย
อัยการสั่งฟ้อง‘ธัมมชโย-พวก’คดีฟอกเงิน-รับของโจร เสียหายเบื้องต้น 2.9 พันล.
ยันแจ้งข้อหา‘ธัมมชโย’นอกสถานที่ได้! ดีเอสไอชงอัยการฟ้อง‘ศุภชัย-พวก’คดีฟอกเงิน
INFO: 13 คดียักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯในมือดีเอสไอ-เบ็ดเสร็จ 2 หมื่นล.
หมายเหตุ : ภาพประกอบพระธัมมชโยจาก postjung, ภาพวัดพระธรรมกายจาก upyim