เช็คไส้ใน“ออมสิน-ธ.ก.ส.”ก่อนลุยไฟแก้หนี้จำนำข้าวให้รัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"

“..ผมเห็นใจชาวนา ที่เดือนร้อนจากการไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ซึ่งปัจจุบันเราก็เห็นแล้วว่ามีชาวนาหลายคนต้องเสียชีวิตลงไปแล้วหลายราย เป็นหน้าที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องรีบแก้ไขปัญหา แต่รัฐบาลก็ต้องระมัดระวังวิธีการด้วย หากตัดสินใจทำอะไรไปแล้ว และมีปัญหาเกิดขึ้นในทางกฎหมาย รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองตัดสินใจทำลงไป..”

ชื่อของธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กลับมาอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง! 

เมื่อมีข่าวหลุดรอดออกมาว่า ทั้งสองธนาคาร ยอมรับข้อเสนอของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำข้าว

โดยวิธีการให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในรูปแบบอินเตอร์แบงก์ (การปล่อยกู้ระหว่างธนาคาร) จากที่เคยให้วงเงินปกติ 5,000 ล้านบาท เป็น 20,000 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลัง จะทำ Letter of comfort ค้ำประกันให้อีกครั้ง ซึ่งจะมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้ 

(อ่านประกอบ: แผนใหม่"กิตติรัตน์"ให้ คลัง ค้ำ ธ.ก.ส.กู้ออมสิน 2 หมื่นล.โปะหนี้จำนำข้าว)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลฐานะการเงินของทั้ง 2 ธนาคาร พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ 

1.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประกาศฐานะการเงินในไตรมาสที่ 2 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2556 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1,243,046 ล้านบาท

โดยส่วนใหญ่เป็นเงินให้สินเชื่อรวมกับลูกหนี้รอการชดใช้โครงการนโยบายรัฐ จำนวน 1,212,711 ล้านบาท

รวมไปถึงมีสินเชื่อจากการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตรตามนโยบายรัฐบาลปีการผลิต 2555/56 ร้อยละ 23.88 เปอร์เซ็นต์

และมีหนี้สินและส่วนของเจ้าของทั้งสิ้น 1,243,046 ล้านบาท

โดยเป็นโครงสร้างของหนี้สินเป็นเงินรับฝาก รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิ และหนีสินตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม จากการออกพันธบัตร และหนี้สินอื่น

ดังนั้น ธ.ก.ส. มีหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น 30,335 ล้านบาท

2.ธนาคารออมสิน ประกาศฐานะการเงินในไตรมาสที่ 3 เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2556 ระบุว่า มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2,078,298,572 พันบาท (2.078 ล้านล้านบาท)

โดยส่วนใหญ่เป็นเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิ จำนวน 1,491,117,962 พันบาท (1.491 ล้านล้านบาท)

และมีหนี้สินและส่วนของเจ้าของทั้งสิ้น 2,078,298,572 พันบาท (2.078 ล้านล้านบาท)

โดยส่วนใหญ่เป็นเงินรับฝาก จำนวน 1,779,761,664 พันบาท (1.779 ล้านล้านบาท)

ดังนั้น ธนาคารออมสิน มีทรัพย์สินเท่ากับหนี้สิน

ทั้งนี้ แผนการหาแหล่งเงินกู้เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวครั้งนี้ ถูกจับตามองอย่างมาก ในเรื่องความถูกต้องของข้อกฎหมาย เพราะกรณีการทำ Letter of comfornt นี้ ต้องเข้าครม.อนุมัติ และอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ที่ระบุไว้ใน(3) ว่ารัฐบาลรักษาการจะต้องไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้าง ความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป

และ (4) ที่ระบุว่าจะต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการ เลือกตั้ง และไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์แสดงความเห็นต่อ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงเรื่องนี้ว่า กกต.คงไม่สามารถแสดงความเห็นได้ว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด เพราะเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล ถ้าสิ่งที่ดำเนินการไปเข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ดำเนินการไป

“ผมเห็นใจชาวนา ที่เดือนร้อนจากการไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ซึ่งปัจจุบันเราก็เห็นแล้วว่ามีชาวนาหลายคนต้องเสียชีวิตลงไปแล้วหลายราย เป็นหน้าที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องรีบแก้ไขปัญหา แต่รัฐบาลก็ต้องระมัดระวังวิธีการด้วย หากตัดสินใจทำอะไรไปแล้ว และมีปัญหาเกิดขึ้นในทางกฎหมาย รัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองตัดสินใจทำลงไป”

คำถามที่น่าสนใจคือ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. คำนึงถึงข้อปฏิบัติทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ 

หรือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็พร้อมที่จะเดิน "ลุยไฟ" ไปกับรัฐบาลชุดนี้