- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ดัน 2 สะพานข้ามเจ้าพระยาขอรัฐ 3.3 พันล. แก้รถติด-รับรัฐสภาใหม่
ดัน 2 สะพานข้ามเจ้าพระยาขอรัฐ 3.3 พันล. แก้รถติด-รับรัฐสภาใหม่
นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.)ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญศึกษาและติดตามการดำเนินงานของกรุงเทพมหานครตามนโยบายของรัฐบาลเปิด เผยว่า สภากทม.ได้ตั้งคณะกรรมการฯเพื่อติดตามการทำงานของกทม.ในการเร่งรัดการดำเนิน โครงการต่างของรัฐบาลให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็วที่สุด ซึ่งโครงการที่ต้องเร่งดำเนินการในขณะนี้ คือการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในจุดต่างๆ เนื่องจากสภาพปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในการเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักตลอดทั้งวัน ดังนั้น การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเพิ่มเติมจึงเป็นตัวช่วยในการระบายการจราจร สร้างความสะดวกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งสะพานที่กทม.จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วคือสะพานข้ามแม่น้ำเจ้า พระยาบริเวณเกียกกาย เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ดังนั้นการก่อสร้างสะพานเกียกาย จึงจะช่วยรองรับปัญหาการจราจรติดขัดที่จะเกิดขึ้น โดยสะพานดังกล่าวจะเป็นงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้างจากรัฐบาล คณะกรรมการวิสามัญฯได้เสนอให้กทม.เร่งของบประมาณในการก่อสร้างบางส่วนจาก รัฐบาล จำนวน 2,500ล้านบาท ภายในปี59นี้ เพื่อเร่งดำเนินโครงการ
นายนิรันดร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะกรรมการวิสามัญ ได้เสนอให้ กทม.เร่งดำเนินการสะพานอีกแห่งคือ สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาโครงการ สะพานราชวงศ์-ท่าดินแดง เชื่อมระหว่างถนนราชวงศ์ ฝั่งพระนคร และถนนท่าดินแดง ฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นสะพานที่ไม่มีปัญหาด้านการเวนคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากประชาชน และใช้งบประมาณในการก่อสร้างน้อย จึงสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสะพานดังกล่าว เป็นสะพานขนาดเล็กเหมาะกับท้องถิ่น สำหรับเชื่อมโยงชุมชนทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ มีทางเดินเท้าและทางจักรยาน มีรูปแบบเป็นสะพานโครงเหล็กแบบโค้ง 2 ชั้น ชั้นบนเป็นทางเดินรถ ส่วนชั้นล่างเป็นถนนคนเดินและทางจักรยาน ทางเดินรถมีขนาด 2 ช่องจราจร ความยาวช่วงกลาง 140 ม. ความยาวสะพาน 480 ม. สามารถรองรับปริมาณการจราจรในระยะ 10 ปี และ 20 ปี โดยใช้เงินในการดำเนินโครงการทั้งสิ้นประมาณ 837 ล้านบาท ดังนั้นสภากทม.จะเร่งให้กทม.เสนอของบประมาณก่อสร้างสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อดำเนินการในปี60นี้ รวม 2 สะพานขอสนับสนุนงบรวม3,337ล้านบาท