ป.ป.ท.ใช้ข้อมูล‘อิศรา’! ปูพรมลุยสอบเชิงลึกปม อผศ.จ้างช่วงขุดคลองทั่ว ปท.
ป.ป.ท.ใช้ข้อมูล ‘อิศรา’ ! ปูพรมส่งเจ้าหน้าที่ลุยสอบเชิงลึกปม อผศ. จ้างช่วงขุดคลองทั่วประเทศ พบข้อมูลบางอย่างอาจจ้างเอกชนจริง รอดูรายละเอียดในสัญญาก่อน ด้าน ปธ.ป.ป.ช. ขีดเส้นสอบ ‘ราชภักดิ์’ ใช้เวลาไม่เกินครึ่งปี ยันข้อมูลครบถ้วนเกือบครบแล้ว ให้ความเป็นธรรมทุกคน
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เรียกรับผลประโยชน์และเก็บค่าหัวคิวในโครงการขุดลอกแหล่งน้ำทั่วประเทศว่า เบื้องต้นทราบว่าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปดำเนินการตรวจสอบแล้ว กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ มีการลงพื้นที่ตามต่างจังหวัดต่าง ๆ ขณะนี้ยังไม่จบ
ขณะที่ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเชิงลึกในหลายพื้นที่แล้ว โดยลงในพื้นที่ที่ปรากฏเป็นข่าวในสำนักข่าวอิศราด้วย ก็พบข้อมูลบางอย่างที่พบว่า อาจมีการจ้างช่วงเอกชนให้เข้าไปทำจริง แต่ต้องตรวจสอบข้อมูล และรายละเอียดในสัญญาก่อน ซึ่งจะดูตามข้อเท็จจริง
(อ่านประกอบ : นัดส่งหลักฐานให้ตร.!กลุ่มธรรมาภิบาลจ่อชงไพบูลย์ สอบทุจริตขุดคลอง อผศ.)
@ปธ.ป.ป.ช.ขีดเส้นใช้เวลาสอบ ‘ราชภักดิ์’ ไม่เกินครึ่งปี
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ในส่วนของ ป.ป.ช. ว่า ประเด็นของหน่วยงานในโครงการอุทยานราชภักดิ์ไม่มีเรื่องทุจริต แต่ที่ ป.ป.ช. สอบ อาจจะมองเห็นประเด็นอื่น เช่น เรื่องที่ ‘เซียนอุ๊’ หรือนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปรับเงินได้อย่างไร ถือเป็นเรื่องส่วนตัว อีกเรื่องคือกรณีราคากลาง ซึ่ง สตง. กับผู้ร้องเรียนต้องคุยกัน เพราะไม่มีบรรทัดฐานเรื่องราคากลาง ส่วนเมื่อ ป.ป.ช. รับเรื่องแล้วจะเข้าไปดำเนินการ คุยกับ สตง. โดยไม่ต้องผ่านตน เพราะหน่วยงานเหล่านี้มีระบบปกติอยู่แล้ว ศอตช. ทำหน้าที่เพียงบูรณาการเท่านั้น
ส่วนกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงยังกังขากับผลสอบของ สตง. อยู่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ถ้ามีอะไรไม่เห็นด้วยในจุดของการตรวจสอบก็ให้เสนอมา แต่ถ้าเป็นเรื่องทัศนคติที่ไม่เห็นด้วย ตนขอไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย ไม่ไปกล่าวอะไรกับคนที่พูดในเชิงทัศนคติ เพราะเป็นวิจารณญาณของประชาชนต่อความน่าเชื่อถือต่อองค์กรที่ตรวจสอบว่ามีมากแค่ไหน
ส่วน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ในเมื่อมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบ ป.ป.ช. จะพิจารณาว่ามีประเด็นใดบ้าง และดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงด้วย แม้ว่าหน่วยงานที่ตรวจสอบก่อนหน้านี้จะดำเนินการครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่ ป.ป.ช. จะพิจารณาดำเนินการให้ครบถ้วนอีกครั้ง ส่วนกรณีที่ระบุว่า ‘เซียนอุ๊’ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ในฐานะเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านใหม่ จ.อยุธยา มีบริบทในตำแหน่ง เนื่องจากมีกฎหมายอยู่ แต่ ‘เซียนอุ๊’ อาจดำเนินการในฐานะส่วนตัวได้ ต้องตรวจสอบกฎระเบียบต่าง ๆ ว่า มีการห้ามทำอาชีพเสริมใดบ้าง ส่วนจะผิดเฉพาะบุคคลหรือไม่ ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงก่อน
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวถือเป็นที่สนใจของสังคม ป.ป.ช. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ต้องปฏิบัติตามกฎหมายทุกเรื่อง เมื่อมีการกล่าวหาหรือร้องเรียน ก็ต้องใช้ระเบียบว่าด้วยการแสวงหาข้อเท็จจริงหรือไต่สวนดำเนินการ เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาเข้ามาชี้แจง ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีมูลก็ให้ข้อกล่าวหาตกไป
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ไม่ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ แต่เรื่องใดที่คนให้ความสนใจต้องเร่งรัดโดยการจัดลำดับความสำคัญ ทำให้เกิดความชัดเจน ส่วนที่หลายฝ่ายยังคาใจผลการตรวจสอบที่ ศอตช. ได้แถลงไป ป.ป.ช. ไม่กดดัน หากใครมีข้อมูลนอกเหนือจากนี้ส่งมาเพิ่มเติมได้
“ข้อมูลที่ ป.ป.ช. มีในขณะนี้เรียกว่าเกือบครบถ้วน และกระบวนการตรวจสอบต่าง ๆ ไม่น่าจะใช้เวลาถึงครึ่งปี เพราะมันชัดเจนอยู่แล้ว ผมจะกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
อ่านประกอบ :