ใช้ ม.44 ปลด‘ปานเทพ’พ้น ปธ.ป.ป.ช.-เปิดช่องให้ กก.เก่า-ใหม่เลือกเอง
‘บิ๊กตู่’ ออกคำสั่ง ม.44 ปลด ‘ปานเทพ’ พ้นเก้าอี้ ปธ.ป.ป.ช. เปิดช่องให้ กก.เก่า-ใหม่ เลือกคนที่เหมาะสมนั่งเก้าอี้แทน เผยหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดความซ้ำซ้อน ลงมติไม่ได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 45/2558 เรื่อง การเลือกประธาน ป.ป.ช.
คำสั่งดังกล่าว ระบุว่า ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปฏิบัติหน้าที่วุฒิสภาได้มีมติเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ให้ความเห็นชอบพลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ พลตํารวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ ให้ดํารงตําแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แล้วนั้น
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศและการปฏิรูปองค์กรตามรัฐธรรมนูญ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 28/2558 ลงวันที่ 16 กันยายน พุทธศักราช 2558 พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตั้งแต่วันที่คําสั่งนี้ใช้บังคับ
ข้อ 2 ให้สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจัดให้มีการประชุมระหว่างบุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดํารงตําแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่วุฒิสภา ได้แก่ พลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ พลตํารวจเอก วัชรพลประสารราชกิจ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ ร่วมกับกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่ยังคงอยู่ในวาระการดํารงตําแหน่ง ได้แก่ นายณรงค์ รัฐอมฤต นายปรีชา เลิศกมลมาศ พลตํารวจเอก สถาพร หลาวทอง และนางสาวสุภา ปิยะจิตติ เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แล้วแจ้งผลให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบ เพื่อนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติต่อไปในคราวเดียวกัน
ข้อ 3 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 9 ธันวาคม พุทธศักราช 2558
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปานเทพ ครบวาระการดำรงตำแหน่งประธาน ป.ป.ช. ไปแล้วเมื่อช่วงกลางเดือน พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ต่ออายุให้นายปานเทพ และรักษาการตำแหน่งประธาน ป.ป.ช. พร้อมกับกรรมการ ป.ป.ช. อีก 4 รายที่พ้นวาระด้วย จนกว่าจะมีการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ใหม่เสร็จสิ้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ภายหลัง สนช. มีมติรับรองว่าที่กรรมการ ป.ป.ช. ใหม่ทั้ง 5 รายนั้น มีว่าที่กรรมการ ป.ป.ช. รายหนึ่งท้วงติงถึงกรณีการเลือกตั้งประธาน ป.ป.ช. เนื่องจากยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ สำนักงาน ป.ป.ช. จึงมีหนังสือส่งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตีความข้อกฎหมาย ซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตอบกลับว่า รอให้ว่าที่กรรมการ ป.ป.ช. ใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ก่อนจึงจะเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการเพื่อเลือกประธาน ป.ป.ช. อย่างไรก็ดีหากเป็นเช่นนี้ นายปานเทพจะยังคงอยู่ในตำแหน่งประธาน ป.ป.ช. รวมกับกรรมการ ป.ป.ช. ที่ยังไม่หมดวาระ และกรรมการ ป.ป.ช. ใหม่ทำให้ที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. มี 10 คน ซึ่งทำให้การทำงานและลงมติของกรรมการ ป.ป.ช. เป็นไปด้วยความซ้ำซ้อน เพราะจะไม่สามารถลงมติให้เป็นเอกฉันท์ได้
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก naewna