ปตท.สผ.แจงเหตุสอบช้า “บิ๊ก” คดีปลูกปาล์มฯ ยันเอกสารเยอะ-ย้ายมาส่วนกลางแล้ว
ปตท.สผ. แจงยังไม่ไล่ออก “นิพิฐ” รองผู้จัดการ ปตท.สผ. ปมถูกกล่าวหาทุจริตปลูกปาล์มน้ำมันอินโดฯ ยันเอกสารมีเยอะกว่า 2,300 หน้า ต้องใช้เวลา สั่งย้ายมาส่วนกลาง ป้องถูกแทรกแซงแล้ว เผยรายละเอียดไม่ได้ ป้องกระทบตัวบุคคล
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าว กรณีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีมติไล่ออกนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองผู้จัดการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (มหาชน) จำกัด (ปตท. สผ.) เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2557 แต่ปัจจุบัน ปตท.สผ. ยังไม่ทำตามติดังกล่าว โดยอ้างว่ามีระเบียบการบริหารงานบุคคลเป็นของตัวเอง และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ จึงทำให้เรื่องดังกล่าวล่าช้ามากว่า 1 ปี นั้น
(อ่านประกอบ : บอร์ด ปตท.มีมติไล่ออก"บิ๊ก"ปมปลูกปาล์มอินโดฯเจ๊ง2หมื่นล.-สผ.ดองข้ามปี)
ล่าสุด งานสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ ปตท.สผ. ได้ส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยระบุว่าบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) จำกัด หรือ ปตท.สผ.ละเลย ไม่ได้ดำเนินการลงโทษผู้บริหารของ ปตท.สผ. ที่ได้ส่งไปปฎิบัติงานสมทบกับ บมจ.ปตท. ในบริษัทบริษัท พีทีที. กรีน เอ็นเนอยีฯ หรือ PTTGE ทั้งที่ ปตท. ได้ดำเนินการสอบสวนวินัยและชี้โทษแล้วเสร็จ และได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช.สอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีแพ่งต่อผู้ถูกกล่าวหาแล้วนั้น
ปตท.สผ. ขอแจ้งว่าบริษัทฯ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเบื้องต้นในเรื่องดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2558 แต่ยังคงมีการรายงานข่าวที่พาดพิงบริษัทอย่างคลาดเคลื่อนต่อเนื่องมา จึงขอชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ ปตท.สผ. ให้ทราบเพิ่มเติม ดังนี้
1.ผู้ถูกกล่าวหาเป็นพนักงานระดับบริหารของ ปตท.สผ. ที่ ปตท.ได้ขอยืมตัวไปช่วยปฏิบัติงานในกลุ่ม ปตท. และ ปตท. ได้มอบหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาไปปฎิบัติงานในธุรกิจปาล์มน้ำมันกับ PTTGE ของ ปตท. ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่ง ปตท.สผ. ไม่ได้มีส่วนร่วมในการลงทุนหรือการกำกับดูแลธุรกิจนี้แต่อย่างใด
2.ปตท. ได้ส่งตัวผู้ถูกกล่าวหากลับจากการปฏิบัติงานสมทบกับ PTTGE ในวันที่ 1 มีนาคม 2555 จากนั้น ปตท. ได้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริง และสอบสวนทางวินัย เรื่องการลงทุนธุรกิจปาล์มน้ำมัน ในประเทศอินโดนีเซียตั้งแต่กลางปี 2555 จนแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2557 และได้แจ้งผลการสอบสวนทางวินัยให้ ปตท.สผ. ทราบเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2557 ว่ามีการกระทำผิดวินัยเกิดขึ้น แต่ระบุว่า ไม่พบประเด็นการทุจริต และเสนอให้เลิกจ้างผู้กล่าวหา โดยขอให้ ปตท.สผ. พิจารณาเทียบเคียงโทษตามระเบียบของ ปตท.สผ. ต่อไป
3.ถึงแม้ว่า ปตท.สผ. จะเป็นบริษัทในเครือ ปตท. แต่ก็เป็นบริษัทมหาชนที่มีระเบียบปฏิบัติแยกจากกัน เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นพนักงานระดับบริหารของ ปตท.สผ. จึงต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคล ที่กำหนดให้คณะกรรมการ ปตท.สผ. ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการวินัยต่อไป เมื่อ ปตท. ส่งผลการสอบสวนให้ ปตท.สผ.ในเดือนสิงหาคม 2557 คณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงประกอบด้วย กรรมการบริษัท และให้เชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐอีก 2 ท่านเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย เพื่อความโปร่งใส เป็นกลาง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงได้มีการหารือประเด็นข้อกฎหมายในเบื้องต้นจากสำนักงานทนายความที่มีความเชี่ยวชาญด้านแรงงาน อีกด้วย
4.หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐได้มอบหมายผู้แทนเข้ามาในเดือนตุลาคม 2557 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้มีการประชุมอย่างต่อเนื่องโดยนำเอกสารผลการสอบสวนทางวินัยของ ปตท. จำนวน 5 แฟ้มใหญ่ ประมาณ 2,300 หน้า เป็นข้อมูลในการพิจารณา และโดยที่การดำเนินธุรกิจปาล์มน้ำมันของ PTTGE ไม่ใช่เป็นธุรกิจที่กรรมการสอบข้อเท็จจริง มีความชำนาญ จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลให้มีความเข้าใจและมีความรอบคอบ โดยมีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากเอกสารสรุปผลการสอบสวนของ ปตท. เป็นระยะ รวมถึงการเชิญบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง และผู้ที่ถูกกล่าวหามาชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตามมาตรฐานที่เป็นธรรมของกระบวนการสอบสวน
5.คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ ปตท.สผ. ได้ใช้เวลาประมาณ 7 เดือนตั้งแต่พฤศจิกายน 2557 ถึงเดือนพฤษภาคม 2558 จึงได้สรุปผลเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท และได้มีมติตั้งกรรมการวินัยในลำดับต่อไปตามขั้นตอนของระเบียบการบริหารทรัพยากรบุคคลของ ปตท.สผ. ทุกประการ
6.ตลอดช่วงระยะเวลาที่ ปตท.สผ. ดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริงตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทางวินัย ปตท.สผ. ได้โอนย้ายผู้ถูกกล่าวหามาประจำส่วนกลาง โดยไม่ได้มอบหมายงานที่มีลักษณะการบังคับบัญชาใด ๆ ให้ผู้ถูกกล่าวหาเพื่อป้องกันการใช้อำนาจหรืออิทธิพลแทรกแซงการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและการสอบวินัย ซึ่งเป็นไปตามแนวปฎิบัติที่ดีทั้งของทางราชการและบริษัทมหาชน
ด้วยสถานะของการเป็นรัฐวิสาหกิจและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปตท.สผ. ตระหนักดีว่าบริษัทฯ มีหน้าที่รับผิดชอบให้การดำเนินงานทุกด้านเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับอย่างเคร่งครัดโดยให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี ความโปร่งใส และการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน
“ปตท.สผ. ขอยืนยันว่าคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ได้พิจารณาและดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง และตรงไปตรงมาตามระเบียบของบริษัท โดยหากมีผลการสอบสวนของหน่วยงานภาครัฐเพิ่มเติม บริษัทจะนำมาประกอบการพิจารณา ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการสอบสวนของทั้ง ปตท.สผ. และภาครัฐโดยยังไม่มีข้อยุติ ปตท.สผ.จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ เพื่อไม่ให้กระทบต่อตัวบุคคลและต่อการสอบสวนในด้านต่าง ๆ” เอกสารดังกล่าว ระบุ
ทั้งนี้ ในการชี้แจงข้อมูลดังกล่าว ปตท.สผ. ยังระบุว่า ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการตามที่จำเป็น เพื่อปกป้องชื่อเสียงและภาพพจน์ของบริษัท หากมีการกล่าวพาดพิงถึงบริษัทฯ ในทางที่ไม่เหมาะสมด้วย
อ่านประกอบ :
เจาะพฤติกรรม“บิ๊ก ปตท.สผ.”ปมถูกฟ้องเรียก 2 หมื่นล.คดีปลูกปาล์มอินโดฯ(1)
เจาะพฤติกรรม“บิ๊ก ปตท.สผ.”ปมถูกฟ้องเรียก 2 หมื่นล.คดีปลูกปาล์มอินโดฯ(จบ)
ฟ้องบิ๊ก ปตท.สผ.เรียก 2 หมื่นล.กล่าวหาทุจริตคดีปลูกปาล์ม อินโดฯ
บอร์ด ปตท.มีมติไล่ออก"บิ๊ก"ปมปลูกปาล์มอินโดฯเจ๊ง2หมื่นล.-สผ.ดองข้ามปี
ปตท.ระทึก!อนุฯ ป.ป.ช.พบปมซื้อที่ดินปลูกปาล์ม ปท.อินโดฯ เล็งชี้มูล 2 โครงการ
ป.ป.ช.พบตัวละครคดีข้าวจีทูจีโยงซื้อขายมันเส้น!-สอบปตท.ปมปลูกปาล์มในอินโดฯ
ป.ป.ช.เหลือสอบพยานคดีปลูกปาล์มอินโดฯ 6-7 ปาก ขีดเส้น 2 เดือนเสร็จ