“หม่อมอุ๋ย”โผล่ให้ถ้อยคำป.ป.ช.คดีระบายข้าวอินโดฯ 3 แสนตันปี’54
“ม.ร.ว.ปรีดิยาธร” โผล่ ป.ป.ช. เข้าให้ถ้อยคำในฐานะผู้ร้อง-พยานคดีไต่สวน “กิตติรัตน์-บุญทรง” ปม “สยามอินดิก้า” ชนะการประมูลขายข้าวให้อินโดนีเซีย 3 แสนตัน (BULOG) ที่เคยยื่นคำร้องเมื่อ ต.ค. 56 ก่อน “วิชา” จะตั้งอนุฯไต่สวนสอบ – “อาคม” ยันอยู่ระหว่างการเรียกพยาน-หลักฐานสอบเพิ่ม ไม่เกี่ยวกับคดีระบายข้าว G to G กับจีน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าให้ถ้อยคำในฐานะผู้ร้องและในฐานะพยานที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ที่เคยร้องกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในคดีระบายข้าวจำนวน 3 แสนตัน ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบให้แก่ อินโดนีเซีย (BULOG)
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เปิดเผยกับสื่อมวลชนภายหลังเข้าให้ถ้อยคำสั้น ๆ ว่า “เข้ามาให้ถ้อยคำในฐานะผู้ร้อง และพยานคดีข้าวบูล็อค และไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าวต่อ
นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้ยื่นคำร้องผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ก่อนที่จะส่งข้อมูลมายัง ป.ป.ช. โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นอนุกรรมการไต่สวน โดยคดีนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และช่วงเริ่มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยมีนายกิตติรัตน์ อดีต รมว.พาณิชย์ ซึ่งการระบายข้าวครั้งนั้น มีปริมาณข้าว 3 แสนตัน อยู่ในช่วงที่การรับจำนำข้าว แต่ช่วงนั้นไม่มีข้าวในท้องตลาด จึงมีความผิดปกติว่า เอาข้าวมาจากไหนส่งให้รัฐบาลอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ในฐานะผู้ร้องและพยาน ได้เข้ามาให้ปากคำกับ ป.ป.ช. และจากนั้นจะมีการเรียกพยานบุคคล และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคดีดังกล่าวจะแยกออกจากคดีจำนำข้าวที่มีอยู่เดิม และคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) กับจีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน ให้ตรวจสอบนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.พาณิชย์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ว่ามีพฤติกรรมละเลยต่อหน้าที่หรือไม่
ในกรณีที่เอื้อประโยชน์ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลตัวแทนปรับปรุงข้าว เพื่อส่งมอบให้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (BULOG) ตามสัญญาการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) จำนวน 3 แสนตัน เมื่อเดือนธันวาคม 2554
ทั้งที่บริษัท สยามอินดิก้าฯ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงในลักษณะนอมินีของ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ที่ถูกศาลล้มละลายพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย รวมทั้งเคยเป็นคู่สัญญาการค้าขายข้าวกับรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2544/2545 และปี 2546/2547 จำนวน 1.9 ล้านตัน และไม่สามารถส่งมอบข้าวได้ตามสัญญา ทั้งนี้ผลประโยชน์ที่รัฐควรได้จึงตกเป็นของบริษัท สยามอินดิก้าฯ กับพวกพ้องที่เป็นนักการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เอื้อประโยชน์แก่กันและกันต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ นายวิชา มหาคุณ เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะอนุไต่สวนขึ้นมารับผิดชอบคดีนี้อย่างเป็นทางการแล้ว
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ลุยสอบ"สยามอินดิก้า" ปรับปรุงข้าวส่งอินโดฯ -"กิตติรัตน์" โดนด้วย )