นักวิชาการ ชี้"เวทีแจ้งวัฒนะ-พุทธะอิสระ" เสี่ยงแต่อยู่รอดปลอดภัย
นักวิชาการ ชี้ "เวทีแจ้งวัฒนะ-พุทธะอิสระ" โดดเด่นด้านการเจรจา เสี่ยงแต่อยู่รอดปลอดภัย แม้ใกล้ศาล-ป.ป.ช. ที่เต็มไปด้วยประเด็นร้อนทางการเมือง
จากกรณีโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะที่อยู่ไม่ไกลจากเวที กปปส.แจ้งวัฒนะ เกิดเหตุถูกคนร้ายลอบยิง และช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา การ์ดพระพุทธะอิสระพบระเบิดซีโฟร์ใกล้ศาลรัฐธรรมนูญ แต่เวทีแห่งนี้ยังคงอยู่รอดปลอดภัยแม้อยู่ใกล้กับองค์กรอิสระที่ตรวจสอบประเด็นร้อนทางการเมือง รวมทั้งการเผชิญเหตุปะทะอย่างรุนแรงที่แยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นำไปสู่คำถามว่าเหตุใดเวทีภายใต้การนำของพระพุทธะอิสระจึงยังดำรงอยู่ได้
เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.นฤมล ทับจุมพล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในคณะทำงานศูนย์ข้อมูลติดตามสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมือง www.thaiviolencewatch.com ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เหตุผลที่ทำให้เวทีแจ้งวัฒนะยังคงอยู่รอดปลอดภัยในช่วงที่สถานการณ์การเมืองมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา มาจากหลายปัจจัย อาทิ ความสามารถในการบริหารจัดการพื้นที่ท่ามกลางความเสี่ยง อีกทั้งมีความโดดเด่นในเรื่องของการเจรจาที่ต่างจากเวที กปปส.อื่นๆ
“ลักษณะของเวทีแจ้งวัฒนะไม่เหมือนเวที กปปส. ที่สี่แยกปทุมวันหรือเวที กปปส ในที่อื่นๆ เพราะเวทีแจ้งวัฒนะมีชัยภูมิที่ดูมีหลังพิง มีบ้านทรงไทยอยู่ใกล้ๆ มีสถานที่ที่ผู้ชุมนุมอยู่ได้ ดังนั้น กรณีที่จะมีใครมาเล่นงานก็จะยาก แต่ข้อจำกัดของเวทีนี้คือช่วงตรงขอบของเวทีเอง ที่ใกล้แจ้งวัฒนะ 14 ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งเราเคยกังวลเรื่องวินรถตู้ว่าเขาอาจจะมีทัศนคติแตกต่างไปจากผู้ชุมนุมหรือเปล่า แต่เมื่อดูจากการจัดการของเวทีนี้ก็พบว่ายังอยู่มาได้เรื่อยๆ ฝ่ายบริหารการชุมนุมของเวทีจึงถือว่ามีความน่าสนใจ”
ดร.นฤมลกล่าวด้วยว่า เวทีแจ้งวัฒนะมีลักษณะเหมือนรัฐอิสระที่เปิดพื้นที่ให้กลุ่มมวลชนหลากหลายกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันกับเวที กปปส.เวทีหลัก
“ความน่าสนใจอีกประการของเวทีแจ้งวัฒนะคือเวทีนี้ไม่ได้มีแค่เสื้อเหลืองกับเสื้อแดง คือใครที่เห็นต่างจากเวที กปปส. ที่ส่วนกลางก็มาเวทีนี้ได้ ที่นี่เหมือนโอเอซิสที่ใครจะมาร่วมก็ได้ ดังนั้น เวทีแจ้งวัฒนะจึงมีความโดดเด่นหลายอย่างมาก ประการแรก คุณอยู่มาได้อย่างไรในที่ไกล ประการที่สอง คุณอยู่รอดมาได้อย่างไรจากการขอคืนพื้นที่และหลังจากเหตุการณ์ที่แยกหลักสี่แล้ว คุณอยู่รอดมาได้อย่างไร”
นักวิชาการรายนี้กล่าวยอมรับด้วยว่าเมื่อแรกเริ่มที่ก่อตั้งศูนย์ข้อมูลติดตามสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมือง คณะทำงานประเมินว่าเวทีแห่งนี้มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงกว่าเวทีอื่นๆ เนื่องจากอยู่ชายขอบของเมือง กอปรกับช่วงก่อนหน้า บางกอก ชัตดาวน์ ก็มีช่วงที่ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงจากนนทบุรี ปทุมธานีเคยมาตั้งเวทีที่นี่ แต่แล้วเมื่อเวทีแจ้งวัฒนะตอนนี้ถูกตั้งขึ้นมา แม้คนที่อยู่ในเวทีจะมีจำนวนไม่มาก แต่ก็ดูเหมือนจะมีการคุ้มครองที่ดี
“แต่ในตอนนี้ โดยส่วนตัวแล้วมองว่าความน่าสนใจที่สุดของเวทีนี้คือการที่อยู่ใกล้ศาล ใกล้ ป.ป.ช. มีมวลชนชาวนา และเวทีก็ใกล้กับกลุ่ม กวป.ด้วยนะ ที่แม้ตอนนี้ กวป.จะไปแล้วแต่ก็อาจจะมาใหม่ เพราะฉะนั้น บริเวณนี้มีศูนย์ราชการมากมาย จึงน่าสนใจว่าหากเจรจาไม่ดี จัดการไม่ดี โอกาสของม็อบชนม็อบก็จะมีมากขึ้น แต่จากที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ยอมรับว่าเวทีนี้มีประสิทธิภาพ เพราะสามารถรวมกับมวลชนชาวนาได้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะยั่งยืนแค่ไหน เพราะตราบที่การต่อสู้ทางการเมืองยังมีเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ,ผู้ตรวจการแผ่นดิน, ป.ป.ช. เวทีนี้ก็อาจจะยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆ” ดร.นฤมล ระบุ
ขณะที่ นักสันติวิธีรายหนึ่ง วิเคราะห์บทบาทของเวทีแจ้งวัฒนะกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า
“เวทีนี้น่าสนใจตรงที่แม้จะอยู่ไกล ดูโดดเดี่ยว แต่ยังสามารถจัดการตนเองมาได้จนถึงตอนนี้และถ้าหากเราลองดูแผนที่ โดยแบ่งถนนแจ้งวัฒนะมาเป็นสองฝั่ง เราจะเห็นว่าบริเวณนั้นคือพื้นที่โซนเหนือของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคนเสื้อแดงอาศัยอยู่เยอะ ดังนั้น ความเสี่ยงในเรื่องปัจจัยความห่างไกล เวทีนี้ก็ถือว่าเสี่ยงมากอยู่แล้ว แต่กลับไม่มีการยุบเวที และที่สำคัญคือยังอยู่มาได้จนถึงตอนนี้ อาจเป็นได้ว่า เมื่อเกิดเหตุอะไรก็สามารถถอยร่นมวลชนเข้า'พื้นที่คุ้มครอง'ได้ แต่ขณะเดียวกัน เราก็ต้องไม่ลืมว่าพื้นที่แจ้งวัฒนะ ไม่ใช่พื้นที่ผูกขาดของคนเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ คนเสื้อแดงก็มาใช้พื้นที่นี้อยู่นานมาก ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาชุมนุมอยู่ตอนนี้ก็ไม่ใช่กลุ่มคนเสื้อเหลืองทั้งหมด เวทีแจ้งวัฒนะซื้อใจผูกพันมวลชนในกลุ่มย่อยๆ ด้วย ทั้งกลุ่มชาวนาหรือใครที่เห็นต่างจาก กปปส.เวทีหลัก”
นักสันติวิธีรายนี้ระบุด้วยว่า ในความเห็นของตน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเวทีแจ้งวัฒนะคือการเจรจาอย่างเปิดเผย ที่แกนนำเวทีคือพระพุทธอิสระสามารถกำหนดการเจรจาได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องประสานผ่านองค์กรที่สาม
“การเจรจาของเวทีนี้น่าสนใจจริงๆ เพราะที่เวทีอื่น หากจะมีการเจรจาอาจมีองค์กรจากข้างนอกร่วมประสาน สังเกตการณ์ แต่ที่นี่ทำได้ด้วยตนเอง เจอกับผู้การภาคสองได้ด้วยตนเอง สร้างเงื่อนไขที่เปิดเผยด้วยตนเอง”
นักสันติวิธีรายนี้กล่าวด้วยว่า "จุดเด่นอีกประการของเวทีแจ้งวัฒนะคือ เจ้าหน้าที่ภาคสนามของที่นี่เป็นทีมโซนไกลที่มีคุณภาพมาก แม้จะเป็นเวทีที่ถือว่าโดนอาวุธหนักบ่อย ระเบิดเอ็ม 79 ก็เคยโดน และก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องแพทย์สนามเข้าไปได้ยาก แต่ปัจจุบัน เวทีนี้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ”
ภาพประกอบจาก www.bangkokbiznews.com